Growth hack คู่ชกตัวใหม่ของMarketingโบราณ

Wirintorn Jrm
Sharing Citizen
Published in
4 min readNov 5, 2017

--

Marketing แบบดั้งเดิม มีคู่แข่งแล้วล่ะ นั่นก้คือ Growth hack ก็ได้ คือการสังเกต ทดลองเรียนรุ้และตั้งสมมุติฐานขึ้นมา
มี 3 องค์หลัก Mideset + tactic +process

  1. Mindset คือการเน้น growth คิดให้สร้างสรรค์และใช้ ทุนและแรงงานให้น้อยที่สุดแต่เติบโตมากที่สุด ex. abnb เอาตัวเองไปจับในplatfrom ที่มีคนเยอะอยุ่แล้วอย่าง craigslist integration เลยทำให้โตอย่างรวดเร็วฃ

ทำไงน่ะเหรอ มาๆ ทำงี้
• data analytic & testing เก็บข้อมูลทุกอย่าง

• software engineer & automatio nพอรู้ว่าอะไรทำซ้ำๆก็ เขียนโค้ดขึ้นมาเพื่อให้ระบบทำแทน ช่วย save เวลาและแรงงานโลด ex. Qualaroo

  • ต่างจากdigital marketer ยังไง digital marketer หาคนมาใช้สินค้า สร้างสินค้ามาเดะขายให้ แต่ Growth hack จะไปยุ่งกับ product เลยฮะ เช่น ทำไงให้revenue เพิ่ม , บอกต่อง่ายขึ้น , ทำไมลูกค้าหาย Product เปนไรรึป่าว
  • •ใช้ north star matic คือ ค่าที่ใช้วัดผลเพื่อให้บริษัทเติบโต อยู่รอด แล้วทุกคนเห็นว่าเปนไปในทางเดียวกัน ถ้า ต้องโฟกัส1อย่าง เพื่อมาดูว่า บ.เติบโตจะใช้ค่าไร คือต้องโฟกัสทีละค่า ex. north star metric of airnbn ค่าคือ จำนวนbooking of customer per night. , of Facebook >> จำนวนคนที่เข้ามาใช้ต่อวัน

•คำนึงถึง

Product market fit คือ สินค้าบริการที่ดีพอที่ แก้ปัญหาได้มากพอ ในตลาดที่ใหญ่พอ

อาจเริ่มจาก Pre Product market fit>>อาจเปลี่ยน product marketing target ก็ได้
คือ ทำทุกอย่างด้วยมือก่อน ไม่scaleเลย focus ที่ คำถามว่า ทำไม เป็นหลัก พยายามให้เกิด ความมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น coment & share มีการบอกต่อเพื่อเก็บdata แล้วดูปฏิกริยา คือทำไงก้ได้ให้เราเรียนรู้เร็วสุดแล้วมาปรับ ปรับจนกว่าจะเจอคนที่ใช่ เอ้ย Model ,service ,product ที่ใช่
Post >> ยังไม่เน้นในวันนี้

Retention คืออัตราการใช้ซ้ำ เปนตัวบอกได้ว่าเราถึง product market fit ละนะ ควรมี Pmf ก่อนแล้ว ค่อย growth เพราะถ้าproduct ยังไม่ตอบโจทย์ตลาด โตไปก้ตายอยู่ดี เหมือนเหยือกที่ไม่มี pmf เหมือนเหยือกที่มีรอยรั่วเทไปก็หายหมด แต่ถ้ามี คืออาจมีรั่วบ้าง แต่ก็เก็บได้เท่าเดิม หน้าที่คือเติมน้ำ เติมข้อมูล ทุกวันเดียวเราก้จะโตขึ้น
Ps. ถ้ารุ้ว่า retention ลดลง ก็พิจารณาเถิดว่า มันยัง scale ไม่ได้

Problem solution fit ไม่เท่ากับ Product market fit
Psf แค่ทำออกมาแก้ปัญหา แต่ไม่รู้ว่า มันตอบโจทย์จริงอย่างpmf

  • Process
    1. test

ยิ่งtest มากเท่าไหร่ ยิ่งเติบโตเร็วเท่านั้น เช่นtest 5ครัง/week ก็ได้10 times per week Test เพื่อดูว่าคนและเวลาที่เรามีพอมั้ยมันยากเกินไปมั้ย ทำโดย Backlogคือ เรียกทุกคนมารวมไอเดีย list idea (ใช้ tello ก็ได)้ แล้วเลือกไอเดียมาtest
จากนั้นเราก็ดูแล้วให้คะแนนว่า impact เข้าถึงคนได้มากแค่ไหน, confidence( คือความมั่นใจมั้ยว่าได้กี่%) , ความง่ายของการทำให้สำเร็จ หรือใช้งานง่ายไหม
เสร็จปุ้บก็เอามา

2.analyze อันไหนเวิค หรือไอเดียไหนเวิคกว่า พอได้ไอเดียก็
3. playbooks ว่าไอเดียนี้เลิศ ทีมต่อไปมาทำต่อได้เลยไม่ต้องเสียเวลาเก็บข้อมูลใหม่
แล้วก็วนloop ไปเรื่อยๆใครเรียนรู้เร็วกว่าก็ชนะไป

•tactic กลยุทธ์ เมื่อติดตลาดแล้ว ทำยังไงให้ scaleable ได้
Hotmail >> ลงท้ายจดหมายว่า ps: I love u,Getur free email@hotmail คือhotmail ติดตลาดแล้ว ใช้ tactic เพื่อ scale
Dropbox >> พอติดตลาดแล้ว ให้แชร์ให้เพื่อนใช้ต่อฝากไฟล์ได้ เพื่อนscale ได้ 60%/เดือนแหนะ
มาดู step

  1. นำคนเข้ามาในธุรกิจ
  2. ทำไงให้เค้าใชั
  3. ทำไงให้เค้าใช้ซ้ำ
  4. ทำไงให้เค้าจ่ายตัง
  5. ทำไงให้เค้าบอกต่อ
    ถ้าทำครบ 5 ข้อจะทำให้เค้ารู้สึก ขาดproductนี้ไม่ได้

การให้คะแนนว่าใช้channal ไหนดี ดูจาก
[ ] 1 ใช้ต้นทุนในการใช้chanalนี้เยอะมั้ย
[ ] 2 เจาะtarget ได้มากกขนาดไหน
[ ] 3 มันควบคุมยากมั้ย
[ ] 4 ใช้เวลาในการจัดการเยอะมั้ย ถ้าใช้เยอะ ก้ คะแนนต่ำ
[ ] 5 เวลาในการออกอากาศ
[ ] 6 scale
[ ] 7 avarage

แล้วใส่ในวงกลม ดูว่า อันไหนอันดับดีสุด

มาดู Tactic สำหรับการ event
เนื่องจากเวลาบรรยายมีจำกัดเวลาจำกัดเลย เอาcore มา 3 อย่าง

1. content >> customer awareness lifecycle ให้เค้าเห็นปัญหา ก่อน รู้ว่ามีคนกำลังแก้ปัญหานี้อยู่นะ. อยากjoin มาซื้อบัตรเร็วพวก!
— Focus ที่ 3 stageแรกเปนหลัก ทำให้เค้าอินมากๆ กับปัญหาที่เรากำลังแก้อยุ

ส่วนพวก เราเป็นใคร ,ใครเป็นคนจัดงาน ,จัดที่ไหน มันอยู่ในขั้น brand awarenessแล้ว

— เขียน 30–50 อันแล้วมาเลือกว่าอันไหนเหมาะกับคนกลุ่มไหนพอ test เยอะๆก็จะรู้เองว่า คำศัพท์ไหนจะโดนใคร ก้หยิบคำนั้นมาเล่น ซะ

2. ยิงโฆษณา fb ในส่วนของad eventควรเลือก engagement ดีกว่า แล้วเลือก ad set คือเลือกว่าจะยิงกี่ครั้ง ยังไง

Trick การยิง ad

[ ] ตอนยิง ให้เลือกที่ audience ก่อนคือ มันจะไปหาpage ที่ใกล้เคียงกับกลุ่มเรา มา เราควรlist จดไว้ ด้วยว่าแต่ละpage มีคนfollow เท่าไหร่ จากนั้นก็สร้าง ad อันเดียว พอแล้วไป test กับ audience ต่างๆแล้วดู engagement ว่าอันไหนพุ่งกับ audienceไหน ก็ lockแค่audience นี้มายิงad ต่อ เจาะแค่ audience เดียว

[ ] ควรยิงขั้นต่ำ 200–300 บาท เพราะถ้าน้อยไป คนเห็นน้อยมากใช้เวลาเยอะซึ่ง time is more expensive than money

[ ] คิดเป็น cost ต่อหัว ถ้า cac>300 แสดงว่า อะไรเราผิดพลาด ต้องให้ค่า cac ถูกที่สุด สมมุตได้ cac 50บาท ขาดอีด300คน ก้ยิงadไป 50 บาทก้คุ้มแล้ว

[ ] ยิงad เซตนึงต่อ1 ad ได้ efficiency สุดแล้ว

[ ] ยิงในพื้นที่เป้าหมายนั้นอย่างเดียวพอ

[ ] Start ที่เที่ยงคืน เพระเวลามันคำนวน จะเริ่มเที่ยงวันหรือเที่ยงคืน ถ้าไปเริ่มตอนไหนก็ได้ตามใจ จะทำให้เราวิเคราะห์ยาก

[ ] ดูengagement เป็นหลักคือดูแชร์ กับ คอมเม้นเปนหลัก ยอดlike บางทีเป็นแค่การหลอกตา

[ ] ถ้าไม่เวิคให้ปรับรูปหรือแคปชั่น ซึ่งรูปจะเห็นผลลัพธ์ดีกว่า

[ ] ถ้าเลือก type ผิด เท่ากับ เผาเงินทิ้งทันที

[ ] ควรตั้งเวลาดีกว่าให้มันยิงไปเอง

[ ] ยิงที่ newfeed only ไม่งั้นก็เหมือนเราเทเงินทิ้ง แล้วถ้าเวิคค่อยscaleไปยิงที่อื่นก็ได้

Building list นำคนเข้ามาในธุรกิจเราให้ได้ ! ต่อยอดไปในอนาคตด้วยว่า เมื่อได้ list มาเอาไปทำไรต่อได้
ทำโดย

1เลือก platfrom เพื่อเกบลิส เช่น line@ ,messanger,Email
2 เขียนcontent เพื่อจำแนกคน พอคนที่เข้ามาอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับproduct Aบ่อยๆ ก็จะระบุได้ว่าเค้าจะซื้อ A ต้องติดutm ดูว่าใครบ้างเข้ามาอ่าน เข้ามาสนใจบ้าง
3 ติดตาม
4 Catalog
5 sale
[ ] เราไม่จำเป็นต้องให้เค้ารู้ว่าเราได้ data baseมาจากไหน ใครมี list ใหญ่กว่าก็กอบโกยง่ายกว่า

พอนำคนเข้ามาในธุรกิจทำไงให้เค้า activation มีความรู้สึกร่วมกันเรา
> ให้ไอเดียเราเปน painkiller ไม่ใช่แค่ วิตามิน
> ให้ประสบการณ์ที่ wowwww กับลูกค้า ส่งมอบคุณค่าให้เค้าให้ได้มากสุด
> ดูตัวชี้วัด โดยดูfunnel ว่าไปดรอปที่ตรงไหน

แูล้วมาดูต่อที่อัตราการใช้ซ้ำ retention ว่าเค้าติดใจเรามั้ย
>> เก็บข้อมูลเค้ามาให้ได้มากสุดว่า ทำไมใช้/ ไม่ใช้ ทำไมออกไป แล้วจะดูได้ว่าควรพัฒนาfeture ยังไง หรือ เลือก target แบบไหน

เก็บ Revenue เข้ามาได้
[ ] ดู cac< life time value(จำนวนเงินที่เค้ายินดีจ่ายให้เราเมื่อเค้าเข้ามาในธุรกิจเราแล้ว)

referral ทำให้เค้าบอกต่อ หาตัวcontactที่ทำให้เค้าส่งเราต่อให้เพื่อนได้

ขอบคุณ…

--

--