Review EXP Program สมัครยังไงให้ติด?

Oat Phattaraphon
Sharing Citizen
Published in
4 min readJul 29, 2017
Cr. https://www.facebook.com/expprogram/

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำการสมัครเข้าร่วม Course Event Management and Digital Marketing ยังไงให้ติดตัวจริง

เมื่อไม่นานมานี้ YEAH x Sharing Citizen x Growth cafe & co.
ได้มีการ Launch New Project ขึ้นมา นั่นก็คือ Project EXP Program

What is EXP Program ?
EXP Program เป็น Course Event Management and Digital Marketing
ซึ่ง Course นี้จะทำให้คุณรู้ทั้งกระบวนการของการจัด Event และภาพรวมของ Digital Marketing ซึ่งคุณจะต้องได้จัดงาน Event ขึ้นมาหนึ่งงาน
หลังจากจบ Course นี้

Course of Program

I. Event Management
-Pre / During / After event management
-Operation management
-Marketing and PR strategy
-ได้ลองจัดงาน 1 งาน ภายใน ธันวาคม 2017

II . Digital Marketing
- Inbound Marketing
- Content Writing
- Social Media Marketing
- Facebook Ads and Google Ads workshop
- Learning by doing campaign ให้คุณได้ลงมือทำ และรับ Feedback

..
.

Who Is Register?

[ นักศึกษาทั่วประเทศไทย และผู้ที่จบแล้วไม่เกิน 2 ปี ]

Let’s go to Example Q&A
Event Management and Digital Marketing course (Free)
รับสมัครผู้เข้าร่วม Course ทีจะทำให้คุณรู้ทั้งกระบวนการของการจัดอีเว้น
และภาพรวมของ Digital Marketing

ชื่อ-นามสกุล *
ชื่อเล่น *
สาขา-คณะ / แผนกที่ทำงาน *
Size เสื้อ *
มหาวิทยาลัย / องค์กร *
อายุ *
Line ID *
เบอร์โทร *
Email *
Facebook Link *

Linkedin / web portfolio /Fanpage ที่รวมงานที่คุณเคยทำ [หากมี] *
ถ้าไม่มีLinkดังกล่าว ให้ระบุสิ่งที่คุณเคยทำที่เด่นๆ 4–5 อย่าง
1) เป็นหนึ่งในผู้นำเชียร์คณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประเพณีงานบอลสานสัมพันธ์ ณ มศว เมื่อปี 2558
2) ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่าย KU STARTUP CAMP เมื่อวันที่ 1–4 มิถุนายน 2560
ณ อิงธารรีสอร์ท จ. นครนายก
3) ได้เข้าร่วมกิจกรรม HACKATHON 2017 ของ STARTUP THAILAND ที่จัดขึ้นในวันที่ 7–9 ก.ค. 2560 ณ ศูนย์สิริกิตติ์ ที่ผ่านมา ซึ่งตัวกระผมอยู่ในทีม Astro Expert และได้รับรางวัล GREAT IDEA!
4) เป็น 1 ใน STAFF ที่ได้เข้าไปอบรบให้นิสิต มก ศรีราชา เพื่อที่จะ Pitching ในสนาม มก ศรีราชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา
5) ตัวกระผมอยู่ทีม Disher และทีม PrintSpin ซึ่งทีมทั้งสองที่ผมยกตัวอย่างนั้นได้ไป Pitching ทั้งหมดแล้ว ซึ่ง Disher ผ่านจากสนาม NIA และ ​PrintSpin ผ่านจากสนาม มก ศรีราชา

คุณมีเป้าหมายที่จะทำอาชีพอะไรหรืออาชีพแบบไหนหลังจากจบการศึกษา / สำหรับคนที่ทำงานแล้ว = อยากทำงานอะไรในอีก 1–2 ปีข้างหน้า *
การเป็น ผู้ประกอบการ แบบ Startup ที่ช่วยเหลือคนอื่นได้แล้วครับ ผมมองว่าบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องรอในสิ่งที่เราอยากจะทำหลังจากเรียนจบเท่านั้น เพราะตอนนี้ผมก็ได้เริ่มทำมันแล้วด้วย และผมยังมองว่า ถ้าเราเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้เราสำเร็จกว่าคนอื่นๆที่คิดได้แต่ยังไม่เริ่ม และตอนนี้ผมพร้อมมากในระดับนึงแล้วครับ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วครับ

อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณมีเป้าหมายหรืออยากทำอาชีพนั้น *
นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ผมทำอยู่เป็นประจำทุกวัน เช่น การที่ผมเข้า Event ต่างๆ และได้เป็น STAFF ในหลายๆงาน ซึ่งลึกๆแล้วมันเป็นการช่วยผู้อื่น ผมอยากเป็นคนให้มากกว่าคนได้รับ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผมอยากเป็นผู้ประกอบการ แบบ Startup ก็คือ การได้มีส่วนช่วยทำให้การดำรงชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น การทำให้เขาสะดวกสบายขึ้น ซึ่งนั่นแหละคือเป้าหมายที่ผมตั้งใจไว้เมื่อได้รู้จักคำว่า Startup

คุณคิดว่า Personality และ Lifestyle ของคุณมีความสัมพันธ์หรือเหมาะสมกับอาชีพนั้นอย่างไรบ้าง *
ผมคิดว่าผมเป็นคนที่มีอุดมการณ์พอที่ จะได้ทำงานในอาชีพ ผู้ประกอบการ ผมอยากทำให้สิ่งที่ผมทำในทุกๆวัน สามารถช่วยเหลือ Lifestyle หรือวิถีชีวิตของคนนับล้านได้ใน every day

จงบอก 5 สิ่งที่คุณมีเพื่อที่จะขับเคลื่อนคุณไปถึงเป้าหมายหรืออาชีพที่คุณต้องการเป็น *
1) เป็นคนที่ ตรงต่อเวลาและรู้คุณค่าของเวลา
2) เป็นคนที่ ลงมือทำ และต้องหาทุกช่องทางไปให้ถึงเป้าหมาย
3) เป็นคนที่ ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ
4) เป็นคนที่ กระหายที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย
5) เป็นคนที่ ไม่กลัวโง่ กล้าที่จะตั้งคำถาม และขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

จงบอก 5 สิ่งที่คุณยังไม่มีเพื่อที่จะขับเคลื่อนคุณไปถึงเป้าหมายหรืออาชีพที่คุณต้องการเป็น *
1) การเป็นคนที่การอ่านหนังสือที่ให้ได้เร็วๆ
2) การเป็นคนที่พูดเก่ง หรือพูดฉะฉาน
3) การเป็นคนที่พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดให้คนอื่นเข้าใจ
4) การเป็นคนที่นอน 6–7 ชั่วโมงต่อวัน

คุณมีวิธีการอย่างไรเพื่อที่จะเรียนรู้เรื่องบางอย่างที่คุณสนใจให้ได้มีประสิทธิภาพที่สุด *
ผมอยากจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1) ตอนอยู่ในห้องเรียน
สำหรับตอนที่เราอยู่ในห้องเรียน ผมก็จะจดแค่ Keyword ของคำพูดของอาจารย์เอาไว้เพื่อที่จะได้เอาไปทบทวนหลังจากเรียนจบของวันนั้นๆ และบางทีถ้าเราง่วงหรือเราวอกแวก บางครั้งผมก็จำเป็นต้องอัดเสียงอาจารย์เอาไว้เพื่อเก็บไปฟังย้อนหลัง ว่าอาจารย์พูดอะไรไปแล้วบ้าง และค่อยๆแตกเนื้อหาตามที่อาจารย์พูด

2) ตอนอยู่นอกห้องเรียน
สำหรับตอนอยู่นอกห้องเรียน ผมขอยกตัวอย่างก่อนนอนทุกวันของผมนะครับ ผมก็จะเอา lecture ที่ผมจด Keyword ไว้ในห้องมาอ่านถ้าไม่เข้าใจว่าเราจดอะไรเราก็จะไปเปิดเทปที่เราอัดเสียงอาจารย์เอาไว้ ซึ่งก่อนนอนจะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาของวันนั้น เพื่อที่จะไม่ได้ดินพอกหางหมูในช่วงก่อนสอบ และถ้าในช่วงก่อนสอบผมและเพื่อนๆก็จะแบ่งวิชากันติว เพื่อที่จะได้ save เวลาในการทำข้อสอบให้ได้เยอะๆ

คุณจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณกำลังศึกษาเรียนรู้อยู่นั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่สนใจหรือไม่ใช่ทางและถ้าเกิดว่าสิ่งที่คุณกำลังศึกษาเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเป้าหมายของคุณคุณจะทำอย่างไร *
ผมอยากจะถามคุณ (คนที่อ่านอยู่ตอนนี้) ว่า คุณเคยอยู่กับอะไรทั้งวันรึป่าว อยู่แล้วไม่รู้สึกว่าเหนื่อย หรืออยู่แล้วไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ ถ้าคุณถามผม ผมอยากจะบอกว่า เราจะรู้ด้วยตัวเราเอง เมื่อเราได้อยู่กับมันทั้งวันหรือทั้งอาทิตย์ คำตอบจะออกมาเอง
เช่น การที่ผมไปเข้างาน Event ต่างๆโดยบางครั้งก็เสียตังค์ บางครั้งก็ไม่เสีย
ซึ่งไหนจะค่าเดินทาง ไหนจะเรื่องรถติด บลา บลา บลา แต่ทำไมผมถึงไป ทำไมผมถึงดันทุรังที่จะเข้างาน นั่นแหละครับ ก็คงเป็น ถ้าเราทำในสิ่งที่เรารัก เราจะไม่เหนื่อยเลยที่จะทำมัน เราจะไม่เหนื่อยเลยที่จะทำยังไงก็ได้ให้ไปถึงมัน

“ถ้าไม่มีรถก็วิ่ง ถ้าเหนื่อยก็เดิน ทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้ชีวิตของคุณเดินไปข้างหน้า”

คุณคิดว่าสามารถดึงจุดเด่นหรือจุดแข็งของคุณมาใช้อย่างไรบ้างเพื่อที่จะทำให้เพื่อนของคุณ สามารถค้นพบเป้าหมายหรือเส้นทางนำไปสู่เป้าหมายได้ *

ในโลกปัจจุบัน เป็นโลกที่ต้องแข่นขันตลอดเวลา ถ้าพูดถึงจุดเด่นของผมก็ คือ

1) การตรงต่อเวลา การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญของยุคปัจจุบัน ยกตัวอย่าง
เช่น ผมเป็นเจ้าของบริษัท ถ้าเกิดวันพรุ่งนี้มีการการระดมเงิน Series-C กับ VC
สมมติว่า ถ้าผมมาช้า จะเกิดอะไรขึ้นคุณคงรู้ดี และผมมองว่า ถ้าผมมาทันและมาเตรียมพร้อมก่อนคุยกับ VC จะทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะได้รับการระดมทุนนั้นๆ

2) การไม่หยุดที่จะค้นคว้า ซึ่งการที่เราไม่หยุดพัฒนาตัวเอง จะทำให้บริษัทหรือเพื่อนรอบข้างของเรากระตือรือร้นไปตามเรา และจะทำให้เกิดนวัฒกรรมใหม่ๆตามมา

3) การให้เกียรติในความคิดของคนอื่น ผมมองว่าการให้เกียรติความคิดของคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานเป็นทีม เพราะเราไม่รู้ว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันเป็นไปได้หรือไม่ได้ คนรอบข้างหรือคนที่อยู่ในทีมเราเท่านั้นแหละที่รู้คำตอบ

คุณมีความสนใจที่จะเขียนบทความหรือทำสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร / เพราะอะไร *
ตอนนี้ผมเป็น Founder of ASITE อยากจะเกริ่นก่อนนะครับว่าผมเรียนอยู่สาขาด้าน IT ซึ่งในส่วนนี้เองเลยทำให้ผมหลงไหนในข่าวเกี่ยวกับไอที หรือแม้กระทั่งข่าว Startup ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งในส่วนของเนื้อหานั้น เพจของผมจะเป็นข่าวเกี่ยวกับ Technology , Startup , Design , Business , Coding , Lifestyle และอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ใน Phasen I ก็คือของการลง Content ไปเรื่อยๆเพื่อที่จะสามารถดึงดูดฐานผู้ติดตาม fanpage ของเรา และก็จะมี Phase II and Phase III coming soon…

กลุ่มคนประเภทไหนที่คุณมีความสนใจและต้องการที่จะสื่อสารด้วยมากที่สุด *
เช่น นักศึกษาระดับปริญญาตรี อาจาร บริษัท หรือ กลุ่มผู้สนใจในด้านต่างๆ เช่น สนใจด้าน programming)
ถ้าถามถึงการคุยกับคนประเภทไหนที่จะทำให้ผม succeed in my life คงจะเจาะจงไม่ได้หรอกครับว่า สื่อสารกับใครแล้วทำให้เราประสบความสำเร็จ เพราะการที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จนั่นต้องเกิดจากการที่เราพูดกับหลากหลายอาชีพ หลากหลายหน้าตา หลากหลายเชื้อชาติ บางครั้งการที่เราได้พูดกับคนที่มีสายอาชีพที่เราไม่รู้จักเลย จะทำให้เราเกิด IDEA and Learn ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งนั่นจะทำให้เรามี opportunity ที่จะนำหน้าคนอื่น

แต่ถ้าโจทย์ถามว่าอยากสื่อสารกับคนประเภทไหนที่สุด ตอนนี้ผมคงตอบว่า คนที่เขาสร้างธุรกิจหลายๆครั้ง และไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ succeed เพราะอะไรอะเหรอ

Because เราอาจจะได้แง่คิด เราจะได้ความรู้ ได้ปประสบการณ์ของคนๆนั้น เพื่อที่เราจะนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเรา และผมมีคติประจำใจอย่างหนึ่งที่ว่า

“ ถ้าอยากไปได้ไกล จงเรียนรู้ข้อผิดพลาดของคนอื่น แล้วค่อยนำมาปรับใช้กับชีวิตของเรา”

NEXT

=================Page 2==================

Event Management and Digital Marketing course
*Required
Section สุดท้าย

คุณคิดว่าเรื่อง Event Management จะเป็นประโยชน์กับคุณมากน้อยขนาดไหน *
น้อยมาก
1
2
3
4
5
เยอะมาก

คุณคิดว่าเรื่อง Digital Marketing จะเป็นประโยชน์กับคุณมากน้อยขนาดไหน *
น้อยมาก
1
2
3
4
5
เยอะมาก

หัวข้อ Event Management เป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างไร? *
หัวข้อ Event Management นี้เป็นหัวข้อที่ผมสนใจมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง และเมื่อได้มีการบอกว่า ใน Course นี้มีหัวข้อ Event Management มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะเข้ามาเรียนรู้เนื้อหาในส่วนนี้ และมันทำให้ผมได้ศึกษาเนื้อหาในหัวข้อ Event Management มาพอสมควร เหลือแค่ลงมือปฏบัติจริงเท่านั้น

หัวข้อ Digital Marketing เป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างไร? *
ต้องบอกเลยครับว่า คำว่า Digital Marketing นับวันยิ่งเป็น Trend หรือเป็นที่กล่าวถึงในช่วงนี้ มันเลยทำให้ผมมีคำถามว่า เอ๊ะ!! Digital Marketing มันคืออะไรกันนะ และมันทำให้ผมได้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน 2–3 เล่ม เลยทำให้ผมเข้าใจพอสมควรแล้วว่ามันคืออะไร มันเป็นเทรนในช่วงนี้ได้อย่างไร แตถ้าผมได้เข้ามาใน course นี้นั้น ผมมั่นใจเลยว่าจะสามารถทำให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า Digital Marketing มันสุดยอดแค่ไหน

ทำไมถึงสนใจเข้า course นี้ ? *
ผมคิดว่าถ้าผมได้เข้าร่วม Course นี้ จะสามารถจุดประกายหลายๆสิ่งในตัวผม และสามารถสร้างอะไรบางอย่างได้ หลังจากจบ Course นี้ อาจจะเป็นการสร้างทีมเพื่อเข้า Pitching ล่ารางวัลหรือล่าประสบการณ์ และมี Connection กับเพื่อนต่างมหาลัย ได้แลกเปลี่ยนความรู้ต่างคณะ ต่างสาขา และที่สำคัญคือ ได้เรียนรู้จักกับคำว่า การทำงานเป็นทีมที่แท้จริง

คุณสามารถเข้าร่วม workshop ในวันใดได้บ้าง *
[ไม่มีผลต่อการพิจารณาเข้าร่วม course]
1. 27 กรกฏาคม 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
2. 12 สิงหาคม 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
3. 13 สิงหาคม 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
4. 9 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
5. 21 ตุลาคม 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
6. 4 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.
7. 18 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.00 น. — 19.00 น.

คุณทราบว่าหากคุณไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ จะต้องแจ้งกับผู้จัดผ่านInbox FanPage อย่างน้อย 7 วันล่วงหน้า มิเช่นนั้นคุณจะไม่สามารถเข้าร่วมงานในครั้งถัดไปทุกงานได้ *
ทราบค่ะ
ทราบครับ

สำหรับทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่ การยกตัวอย่างการตอบคำถามยังไง
ให้มีโอกาสที่จะติดนะครับ ผู้อ่านท่านใดมีคำถามหรือว่าข้อสงสัย
Comment ไว้ได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะมาตอบให้เร็วที่สุดเลยยยย!!

ฝากติดตามบทความ : Workshop I — EXP Program 27 July 2017
บทความแนะนำ : Review KU STARTUP CAMP 1–4 JUNE 2017 ( First day)

Organize by : YEAH x Sharing Citizen x Growth cafe & co.

ฝากติดตาม fanpage ของผมด้วยนะครับ

ฝากติดตาม fanpage ของ Organize ด้วยนะครับ

--

--