Content is King ยังจริงอยู่หรือไม่?

Suranart Niamcome
SiamHTML
Published in
2 min readJul 30, 2013

ในปี 1996, Bill Gates ได้กล่าวไว้ว่า “Content is King” แต่นั่นเป็นเวลานานเกือบ 20 ปีมาแล้ว คำถามคือ ในทุกวันนี้ “Content” ยังคงเป็น “King” อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่แล้วอะไรล่ะที่เป็น “King”

Content ไม่ใช่ King (อีกต่อไป)

ถ้า content ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ นั่นหมายความว่า หากเรามี content ที่ดีเลิศ เราย่อมที่จะประสบความสำเร็จ มีคนรู้จักเรามากมาย users จะต้องรักเรา จริงมั้ย ? ผมเคยเชื่ออย่างนั้น แต่เมื่อนานมาแล้ว

Marketing is King ?

มีคนมากหน้าหลายตา ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้เก่งที่สุดในด้านนั้นๆ ตรงกันข้าม มีคนจำนวนไม่น้อยที่เก่งมาก แต่กลับไม่มีใครรู้จัก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?

content นั้นก็เหมือน “ทรัพย์” หรือ “ความสามารถ” ของคนเรา แค่มีอย่างเดียวมันไม่พอ มันต้องแสดงออกมาด้วย คนเค้าถึงจะรู้ว่าเรามีดี ด้วยเหตุนี้เอง marketing จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบอกให้ users รู้ว่าเรามี content ที่ดี และสร้าง traffic ให้กับเราอย่างมหาศาล ไม่ว่า content ของคุณจะดีเลิศแค่ไหน ถ้าไม่มีคนอ่านแล้วมันก็ไร้ประโยชน์

ในขณะเดียวกัน หาก content ของเราแย่ แม้ marketing จะดีแค่ไหนก็คงช่วยอะไรไม่ได้มาก content ไม่จำเป็นต้อง “ดีเลิศ” แต่ต้อง “ดีพอ” ที่จะทำให้เค้ากลับมาหาเราอีก

Presentation is King ?

ในทางกลับกัน แค่ marketing เพียงอย่างเดียว ไม่มีทางทำให้ users พอใจได้อย่างแน่นอน จริงอยู่ จุดประสงค์ของ marketing คือเพื่อที่จะ “ขาย” แต่ถ้าเราคิดแต่จะขายเพียงอย่างเดียว users จะหันหลังให้เราแล้วเดินจากไป การนำเสนอเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่าทำให้ users รู้สึกว่ากำลังถูกหว่านล้อม กล่อมให้เชื่อ หรือถูกบังคับให้ทำอะไรบางอย่าง ตรงกันข้าม users ชอบที่จะคิดเอง ตัดสินใจเองมากกว่า หากเราทำให้ users ทำอะไรสักอย่างด้วยความเต็มใจ หรือทำให้เค้ารู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชนะได้ นั่นคือเรามีการนำเสนอที่สุดยอด

ลมกับดวงอาทิตย์เป็นเพื่อนรักกัน อยู่มาวันหนึ่ง พวกเค้าต้องการพิสูจน์ว่าใครกันแน่ ที่มีพลังเหนือกว่า ดวงอาทิตย์เหลือบไปเห็นชายสวมเสื้อโค้ทตัวหนาคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี เค้าจึงท้าลมว่า “ดูสิว่า ใครจะเป็นคนทำให้เสื้อโค้ทหลุดออกจากตัวชายคนนั้นได้ก่อนกัน”

ลมหัวเราะร่า แล้วตอบว่า “ฮ่าๆๆ สำหรับฉันแล้ว การถอดเสื้อโค้ทออกจากตัวชายคนนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ” ทันใดนั้นเอง เกิดลมแรงดั่งพายุ พัดไปที่ชายคนนั้น ลมหวังว่าเค้าจะใช้กำลังบังคับให้เสื้อโค้ทหลุดออกจากตัวชายคนนั้นได้ แต่ตรงกันข้าม ยิ่งลมพัดแรงเท่าใด ชายคนนั้นยิ่งกอดเสื้อโค้ทของเค้าเอาไว้แน่น

“มาดูวิธีของฉันบ้าง” ดวงอาทิตย์ยิ้ม พร้อมกลับเปล่งแสงอันเจิดจ้า อากาศที่เคยเย็นยะเยือก กลับกลายเป็นร้อนระอุ ดวงอาทิตย์ยังคงเร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ชายคนนั้นก็ถอดเสื้อโค้ทของเค้าออก ดวงอาทิตย์เป็นฝ่ายชนะ

marketing ก็เหมือนกับ “ลม” ที่เหมือนไปชี้นำ หรือบังคับให้ users ทำในสิ่งที่เราต้องการ ในทางกลับกัน การเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของ users ดูจะได้ผลดีกว่า users ชอบอะไร ก็นำเสนอสิ่งนั้นให้เค้า เค้าจะทำอะไรกับสิ่งนั้น ปล่อยให้เค้าเป็นคนตัดสินใจ การนำเสนอที่ดี คือการบอกว่าเรามีสิ่งที่เค้าต้องการ ไม่ใช่ไปบอกว่าเค้าควรทำอะไร การนำเสนอแบบนี้ จะช่วยให้ users มีความสุข และสบายใจเวลามาหาเรา บางที marketing อาจยังไม่ใช่ “King” แต่เป็น “การนำเสนอ”

Customer Experience is King ?

หากพูดในแง่ของ brand แล้ว มันไม่ได้หมายถึง logo หรือ content ของคุณเลย แต่มันคือสิ่งที่ users ได้รับจากคุณต่างหาก สาเหตุที่ content ไม่ใช่ brand ก็เพราะว่า content เป็นแค่สิ่งที่คุณ “บอก” กับ users แต่สิ่งที่คุณได้ทำให้กับ users จริงๆ หรือที่เรียกว่า “customer experience” นั้นกลับสำคัญกว่า จำไว้ว่า brand ของคุณ ไม่ได้อยู่ที่คำพูดของคุณ แต่อยู่ที่การกระทำของคุณ content ไม่สามารถทำให้คุณดูดีในสายตาของ users ได้ หากคุณขาดความเอาใจใส่พวกเค้า การคำนึงถึง customer experience ก็เหมือนกับการให้ “คำมั่นสัญญา” แก่ users ว่าเราจะทำเพื่อเค้า เพียงเท่านี้ users ก็จะเกิดความมั่นใจ ไว้ใจ และกลับมาหาเรา ต่อให้การนำเสนอดีสักแค่ไหน แต่ถ้ามันเป็นเพียงแค่คำพูด ไม่ใช่การกระทำ มันก็เท่านั้น

แล้วตกลงอะไรที่เป็น King ?

“Content” คืออะไรก็ตามที่เราต้องการนำเสนอแก่ users มันไม่ใช่ “King” เลย แต่เป็นเหมือน “เครื่องบรรณาการ” ที่จะทำให้ “King” พอใจมากกว่า “Marketing” คือการทำให้ users รู้จักเรา มันไม่ใช่ “King” แต่เป็นเหมือน “ชื่อเสียง” ที่ทำให้ “King” รู้จักเรามากกว่า ส่วน “Presentation” คือการทำให้ users ยอมคุยกับเรา มันยังไม่ใช่ “King” แต่เป็นเหมือน “ภาพลักษณ์” ที่ทำให้ “King” เชื่อถือเรามากกว่า และสุดท้าย “Customer Experience” คือการทำให้ users รักเรา มันก็ยังไม่ใช่ “King” แต่เป็นการ “ประจบสอพลอ” “King” มากกว่า

รู้แล้วใช่มั้ย ว่าใครคือ King

คำว่า “King” หมายถึง ผู้ที่เป็นคนกำหนด ผู้ที่เป็นคนตัดสินใจ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด ถ้า “King” เลือกแล้ว มันจะกลายเป็นสิ่งที่ถูกเสมอ ลองถามตัวเองดูสิว่า ทุกวันนี้เราทำเพื่อใคร ? ถ้าคุณทำเพื่อตัวเอง คุณก็คือ “King” แต่ถ้าคุณทำเพื่อ users แล้วล่ะก็ “User is King”

--

--