#การลงทุนวันละตอน สรุปเหตุการณ์ตลอดทั้งปี 2020 เตรียมรับ 2021 ปีแห่งการฟื้นฟู

เรียบเรียงโดย ปัณฑิตา สุขุมธนากุล

https://www.facebook.com/sinwattana.crowdfunding/photos/a.1644893575734752/3393062590917833/

อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะสิ้นสุดปี 2563 ปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และหลายๆเหตุการณ์ที่เป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้จักปรับตัวและเรียนรู้กับสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า วันนี้เราได้สรุปเหตุการณ์สำคัญในปีนี้ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้แก่สังคมและโลกของเรา ดังนี้
.
เหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
วิกฤตการระบาดของโควิด-19 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหญ่ของโลกทั้งด้านการใช้ชีวิต การทำงาน เศรษฐกิจที่ส่งผลวงกว้างในหลายมิติซึ่งจุดเริ่มต้นในครั้งนี้เริ่มตั้งแต่ 4 มกราคม 2020 โดยWHOยืนยันการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮันประเทศจีนและได้แพร่ระบาดในหลายประเทศรวมถึงในประเทศไทย จนเดือนมีนาคมพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เคสแรกในประเทศ จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิว ล็อคดาวน์และการปิดประเทศ ทำให้เศรษฐกิจประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศค่อนข้างมาก
.
อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(Brexit)
หลังจากการเจรจาออกจากสมาชิกของสหภาพยุโรปที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2016 ถึงเวลาที่ประเทศอังกฤษได้ออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคม 2020 และเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งข้อตกลงกับสหภาพ EU จะมีผลถึง 31 ธ.ค.2020 ซึ่งช่วยระยะนี้ประเทศอังกฤษยังต้องมีการเปลี่ยนข้อตกลงในเรื่องต่างๆกันใหม่ไม่ว่าจะเป็นการค้า เทคโนโลยี ทรัพยากร ทำให้ประเทศไทยต้องจับตามองเป็นพิเศษ คืออัตราแลกเปลี่ยนที่จะสามารถกระทบตลาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในครั้งนี้
.
Black lives matter
การเรียกร้องสิทธิของผิวดำในสหรัฐอเมริกาทีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการตระหนักถึงความเท่าเทียมกันในสังคมซึ่งมาจากเหตุการณ์ของจอร์จ ฟลอยด์ที่ตำรวจได้ทำเกินกว่าเหตุจนจอร์จเสียชีวิตจนในภายหลังเกิดเป็นกระแสการเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐจัดการกับความเหลื่อมล้ำจนเกิดการประท้วง ดาราและบริษัทระดับโลกหลายแห่งได้ออกมาเรียกร้องและสนับสนุนความเท่าเทียมซึ่งหากลองมองลึกลงไปแล้ว ปัญหานี้ยังส่งผลถึงโอกาสทางสังคมของคนผิวสีและความยากจนที่จะมากขึ้นจากปัญญาการถูกเหยียดหยาบ ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการทำงาน
.
เศรษฐกิจไทยติดลบ Q2/63 12.2% แย่ที่สุดในรอบ 22 ปีรองจากต้มยำกุ้ง
ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยเริ่มตั้งแต่ต้นปีและมีผลต่อเนื่องจนในไตรมาส 2 ทำให้เศรษฐกิจไทยถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบ 22 ปีโดยติดลบถึง 12.2% ซึ่งเมื่อเทียบกับวิกฤตต้มยำกุ้งแล้วมีความแตกต่างเพียง 0.3% สาเหตุหลักจากการหยุดส่งออกและการบริโภคในประเทศลดลง รวมไปถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศซึ่งคาดว่าในไตรมาสต่อไปจะเกิดการฟื้นตัว
.
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่
สิ้นสุดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 16 ซึ่งผลคือโจ ไบเดนชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้นับเป็นการทำลายสถิติประธานาธิบดีที่ได้รับผลการเลือกตั้งเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งนโยบายของไบเดนที่มีความแตกต่างจากโดนัลด์ ทรัมป์อย่างมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการเปิดการค้าเสรีที่มากขึ้น สงครามการค้าผ่อนคลายมากขึ้นซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทยรวมไปถึงการสนับสนุนการผลิตวัคซีนต้านโควิด-10 จากยุทธศาสตร์ 100 วันโควิดหลังจากการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกของเราในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเท่าเทียม ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูและสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงไปการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นโดยทางสินวัฒนาที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต เราพร้อมที่เป็นส่วนหนึ่งในการพาประเทศไทยก้าวไปสู่ปีที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ทาง equity.sinwattana.com
.
Resources
https://bit.ly/3nmyxbj
https://bit.ly/3h6KJe9
http://bit.ly/3ai1u4p
http://bit.ly/3mvjNWi
https://bit.ly/37r72be
http://bit.ly/34i2TEw
.
#Sinwattana #Crowdfunding #Constitution#Investment

--

--