SE Asia tech dealmaking booms as investors place post-COVID bets!
บริษัทในกลุ่ม Fintech และ e-Commerce มีการระดมทุนในการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมากใน Southeast Asia เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกหลั่งไหลมาลงทุนกับธุรกิจประเภทเทคโนโลยีในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้หลายเสียงกังวลว่าเทรนด์ตรงนี้ อาจจะมีแนวโน้มที่ก่อให้เกิดหุ้นราคาแพง
.
อ้างอิงจากข้อมูลของ Refinitiv รายงานว่า Public Equity Capital หรือจำนวนการระดมทุนสาธารณะของบริษัทต่างๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีถึง 8.4 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเฉพาะตลาดใหญ่ในอินโดนีเซีย เช่นการเปิดระดมทุนของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี GoTo ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นการระดมทุนก่อนการเสนอขายหุ้นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่บริษัท Startup ประมาณ 12 แห่ง อย่าง Traveloka และ Carousell กำลังมองหานักลงทุนในระดับภูมิภาคและในสหรัฐฯในอีก 1–2 ปีข้างหน้า
.
การระดมทุนที่เพิ่มมากขึ้นนี้เกิดจากการที่ผู้บริโภคหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลกันมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของนักลงทุนที่เปลี่ยนมามองหากลุ่มบริษัทที่ให้บริการในโลกอินเทอร์เน็ตในการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจ และมีโอกาสเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วยเหตุที่จำนวนประชากรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีกว่า 650 ล้านคน
.
นอกจากนี้ก็ยังเป็นผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีส่วนผลักดันให้ Startup ในอุตสาหกรรมขนส่งอาหาร E-Commerce และ Fintech เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
.
Sukumar Rajah ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารพอร์ตการลงทุนของ Franklin Templeton Emerging Markets Equity ได้เล็งเห็นถึงบริษัทที่น่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะสร้างสรรค์โอกาสต่าง ๆ ภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Real Opportunity โอกาสที่แท้จริง
.
จากรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company ในวิจัยเพื่อติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2563 (e-Conomy SEA 2020) ได้คาดการณ์ว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถเติบโตทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 สำหรับประเทศไทยยังคงเกาะกระแสการเติบโตที่คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะแตะที่ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้นประมาณ 25% ในปี 2568
.
จากการสำรวจของนักลงทุนสถาบันของ Preqin เปิดเผยว่ามูลค่ารวมของธุรกรรมการร่วมทุน (Venture Capital) ทำสถิติสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของปี 2020 ถึง 8.2 พันล้านดอลลาร์
.
Jeffrey Jaensubhakij ซึ่งเป็น CIO ของกองทุนความมั่งคั่งของประเทศสิงคโปร์อย่าง GIC ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า
“ทั้งประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย มีประชากรในประเทศมากพอที่จะมีโอกาสทำให้ธุรกิจนำ Digitalization มาใช้เป็นกลยุทธ์ธุรกิจจนมีแนวโน้มสู่การเป็นยูนิคอร์น แต่จะมีไม่กี่โมเดลธุรกิจที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคได้จริง ๆ นั่นคือโอกาสที่แท้จริง”
.
Dealogic เผยว่า นักลงทุนจากกลุ่มบริษัท SPAC มีการลงทุนในบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีถึง 4 ใน 8 ดีลของการลงทุนในปีนี้ โดยมี Perlman จากบริษัท Warburg Pincus เล่าถึงประสบการณ์การลงทุนทั้งในจีนและอินเดียมาก่อนหน้า โดยอยากจะมองหาโอกาสใหม่ที่ยิ่งใหญ่ และหลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสแบบเดิม ดังกรณีที่ Grab บริษัท Ride-hailing และ Food Delivery ได้ประกาศเมื่อเดือนเม.ย. ว่าจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ผ่านวิธีควบรวมกิจการ SPAC ในมูลค่าดีลเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเป็นหนึ่งในดีล SPAC ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา Hari Krishnan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PropertyGuru กล่าวว่า ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงโอกาสที่หาได้ยาก ที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันเฉียงใต้อย่างเราเป็นจุดสนใจ ไม่ใช่จีน อินเดีย ออสเตรเลีย หรือเกาหลี สรุปแล้วบริษัทในสิงคโปร์ได้มีการตกลงควบรวมกิจการจาก SPAC รวมแล้วเป็นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Richard Li และ Peter Thiel เพื่อเข้าจดทะเบียนในสหรัฐฯ”
.
หรือกระทั่งบริษัทเกมส์ออนไลน์และ e-Commerce สัญชาติสิงคโปร์ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Sea” ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงดึงดูดนักลงทุนรายอื่น ๆ อยู่
.
อย่างไรก็ตาม ก็มีความกังวลบางประการว่าสภาพการคล่องตัวทั่วโลกที่มีอยู่มากมายนี้จะทำให้การประเมินมูลค่าของบริษัทสูงขึ้นหรือไม่ และสามารถรักษาไว้ในตลาดรองได้หรือไม่
.
ตัวอย่างเช่น บริษัท Bukalapak ยูนิคอร์นเทคโนโลยีรายแรกของอินโดนีเซียที่สามารถระดมทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการเสนอขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย Bukalapak ตั้งราคาหุ้นไว้ที่จุดสูงสุดของช่วงบ่งชี้ ทำให้บริษัทประเมินมูลค่าได้ประมาณ 6 พันล้านเหรียญ และมีกำหนดจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา
Oshadhi Kumarasiri นักวิเคราะห์จาก LightStream ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ Bukalapak “เพื่อพิสูจน์มูลค่าองค์กรที่สูงนั้นจะต่อยอดขายทวีคูณ Bukalapak จะต้องรักษาการเติบโตของรายได้ประจำปีไว้ที่ประมาณ 50% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างยาก”
.
รายงานโดย Anshuman Daga, REUTERS, Singapore
#southeast #asia #startups #singaporestartups #bukalapak #tech #fintech #crowdfunding #crowdinvesting
