มาเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองด้วย 7 Habits กันเถอะ

Mild Chonnipa
Sirisoft
Published in
2 min readJun 4, 2021

สวัสดีค่ะทุกคน ^^ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blog#2 กันนะคะ วันนี้จะมาเขียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองด้วยอุปนิสัย 7 ข้อ ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว วันนี้จะมาสรุปให้ฟังแบบสั้นๆได้ใจความเพื่อที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ค่ะ มาเริ่มกันเลย..

The 7 HABITS of Highly Effective People เกิดจากการศึกษาทฤษฎีความสำเร็จของ ดร.สตีเฟน โควี่ นิยามสั้นๆว่า
“If you want to make minor changes in your life, work on your behavior.
But if you want to make significant, quantum breakthroughs, work on your paradigms.”
หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณเพียงเล็กน้อย จงเปลี่ยนพฤติกรรม
แต่หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จงเปลี่ยนกรอบความคิด

7 Habits Structure

… มาดูกันว่า 7 Habits มีอุปนิสัยอะไรบ้าง …

อุปนิสัยที่ 1 Be Proactive เริ่มต้นด้วยความรับผิดชอบต่อชีวิตของเราเอง เราเป็นผู้เลือกใช้ชีวิตเป็นผู้ที่จะเลือกกระทำ ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ และสิ่งไหนที่เราเลือกแล้วเราจะยอมรับผลการกระทำของเราได้ เราให้หลักการอยู่เหนือความรู้สึก
ยกตัวอย่างเช่น หากวันนั้นเรามีนัดประชุมกับลูกค้าคนสำคัญแต่เราดันเข้าประชุมสาย เพราะรถติด มีการก่อสร้างถนนบริเวณนั้น เราจะทำอย่างไร หากเราบอกว่าที่เข้าประชุมสายเพราะมีการก่อสร้างถนน แปลว่าเราพยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองและยอมให้สิ่งเร้าภายนอกที่เกิดขึ้นควบคุมชีวิต แต่ในทางกลับกันเราอาจจะใช้เวลาที่รถติดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุม หรือ ตรวจสอบสภาพการจราจรบริเวณนั้นก่อนออกจากบ้านเพื่อเลี่ยงถนนเส้นดังกล่าว

อุปนิสัยที่ 2 Begin with the end in mind ฝันให้ไกลไปให้ถึง เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ หมายถึงให้เราเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิต เป็นนักวางแผนโดยการวางแผนล่วงหน้าอาจจะเป็นรายวัน, รายสัปดาห์หรือยาวไปจนถึงรายปี รวมถึงการกำหนดผลลัพธ์ก่อนลงมือทำ ตัวอย่างเช่น หากเราอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง เราก็ต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง

อุปนิสัยที่ 3 Put first things first ทำสิ่งสำคัญให้สำคัญ นั่นแปลว่าให้เราโฟกัสกับสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่สิ่งที่เร่งด่วนที่สุด

ตาราง Eisenhower Matrix

โดยจะแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ดังนี้
Q1 สำคัญ และเร่งด่วน เป็นสิ่งที่สำคัญ+เร่งด่วน ต้องทำในตอนนี้ เช่น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ, มีประชุมด่วน
Q2 สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน เป็นสิ่งสำคัญและก่อให้เกิดประสิทธิผล แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยใช้เวลากับส่วนนี้เท่าไหร่ เพราะเป็นเรื่องของการจัดการและการวางแผน เช่น การกำหนดเป้าหมายในชีวิต, การทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ, การวางแผนเพื่อเรียนต่อ ฯลฯ
Q3 ไม่สำคัญ แต่เร่งด่วน ส่วนใหญ่มักจะเป็นงานที่รบกวน และเราใช้เวลาในส่วนนี้ค่อนข้างมาก เช่น การเข้าประชุมที่ไม่เกี่ยวข้อง, การรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา, การตอบอีเมล
Q4 ไม่สำคัญ ไม่เร่งด่วน เป็นสิ่งที่เสียเวลา และควรกำจัดกิจกรรมเหล่านี้ เพราะหากเรามัวแต่ทำสิ่งที่ไม่สำคัญจะทำให้เราไม่เหลือเวลาทำงานสำคัญ เช่น การเล่น Facebook, การช้อปปิ้งออนไลน์, อ่านข่าว Gossip ดารา

อุปนิสัยที่ 4 Think WIN-WIN คิดแบบชนะ-ชนะ โดยคำว่า “Win” ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าชนะ แต่แปลว่า ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ” อุปนิสัยนี้สอนให้เรามีแนวคิดแบบใจกว้าง โดยไม่จำเป็นต้องเอาชนะกันเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่มีคนชนะ ก็ต้องมีคนแพ้ หลักการคิดแบบ Win-Win คือ
• การแสวงหาประโยชน์ร่วมกัน
• การให้ความร่วมมือมากกว่าจะชิงดีชิงเด่น
• การให้คุณค่าต่อความต้องการของอีกฝ่ายเท่ากับของตัวเราเอง

** หากไม่มีทางออกที่ดีของทั้งสองฝ่าย หรือไม่ได้สิ่งต้องการก็อาจจะจบที่ No deal โดยที่ไม่มีใครชนะหรือแพ้ **

อุปนิสัยที่ 5 Seek first to understand, then to be understood การพยายามเข้าใจผู้อื่นอย่างถ่องแท้ก่อนเสนอมุมมองของตนเอง อุปนิสัยนี้สอนให้เราเป็นผู้ฟังที่ดี ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนมาระบายเกี่ยวกับปัญหาในที่ทำงานให้เราฟัง เราควรจะฟังอย่างเข้าอกเข้าใจไม่ขัดจังหวะ มากกว่าการที่รีบเสนอความคิดเห็น
“ เมื่อคุณฟังผู้อื่นจากมุมมองของเขาจริงๆ และสะท้อนให้เห็นว่าคุณเข้าใจ ก็เปรียบเสมือนการให้ออกซิเจนด้านอารมณ์แก่บุคคลนั้น ”

อุปนิสัยที่ 6 Synergize ผนึกพลังประสานความต่างเป็นการดึงทุกอุปนิสัยที่ได้พูดถึงทั้งหมดมาปฏิบัติร่วมกัน เพื่อร่วมมือสร้างสรรค์หาทางเลือกที่ 3 ไม่ใช่เพียงแค่ประนีประนอม แต่เมื่อเราผนึกพลังประสานความต่างแล้ว ผลรวมย่อมมีค่ามากกว่าการนำแต่ละส่วนมารวมกัน อาจจะทำให้ 1+1 >= 3 รวมไปถึงการมองหาจุดแข็งของผู้อื่น, รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเปิดใจนำสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

อุปนิสัยที่ 7 Sharpen the saw การเติมพลังชีวิต เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเหนื่อยก็อย่าลืมที่จะเติมความสุขให้กับร่างกาย เพราะ การบำรุงดูแลสินทรัพย์ล้ำค่าที่สุดที่เราครอบครอง นั่นคือ “ตัวเรา” เราต้องหมั่นเติมพลังชีวิตของเราเองในด้านร่างกาย, อารมณ์, สติปัญญา, และ จิตวิญญาณ
ทุกสิ่งทุกอย่างสร้างใหม่ได้เสมอแต่ร่างกายของเราถ้าพังแล้วก็คือจบ เพราะฉะนั้นเราควรดูแลตัวเองให้ดีเพื่อที่จะให้เรามีเรี่ยวแรงไปทำสิ่งอื่นที่เราอยากทำๆต่อนั่นเอง

… จบแล้วค่า สำหรับ 7 Habits ที่ตั้งใจเขียนมาให้ได้อ่านกัน ^^
หวังว่าเพื่อนๆจะได้แนวความคิดและวิธีปฏิบัติจาก Blog นี้ไม่มากก็น้อยนะคะ
และอย่าลืมนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อุปนิสัย และ ทัศนคติที่ดี เชื่อว่าถ้าเพื่อนๆสามารถทำได้ครบทั้ง 7 ข้อนี้ต้องประสบความสำเร็จแน่ๆค่า^^ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะค้า :)

--

--