วิวัฒนาการปืนMK18 CQBR

GAU-5/CAR-15 แห่งศตวรรษที่ 21(ที่ไม่ล้มเหลว)

Tamaji
SKDW16–1
3 min readJun 15, 2021

--

MK18 mod1

MK18 ออกแบบมาสำหรับใช้ในการรบในพื้นที่อาคาร การรบประชิด หรือ CQBR

เมื่อนึกถึงปืนในตระกูล AR-15/M16 ที่ตัดลำกล้องสั้นมากๆเเล้ว ส่วนใหญ่ก็คนจะนึกถึงปืนในตระกูล CAR-15/GAU-5 ที่สร้างชื่อเสียงไว้ไม่น้อยในช่วงสงครามเวียดนาม ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาร้ายแรงมากก็ตาม

ซึ่งสิ่งนี่้ก็จะทำให้มีการว่างเว้นจากการพัฒนา AR-15 ในแบบลำกล้องสั้นมากๆ ที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลสหรัฐฯไปนานพอสมควรเลยทีเดียว

AR-15 เป็นปืนที่ถูกออกแบบโดย Eugene Stoner เป็นนักออกแบบอาวุธปืนชาวอเมริกันที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดกับการพัฒนาของ Armalite AR-15 ปืนไรเฟิลที่เกิดมาจากผลพวงจาก Project Salvo ในปี 1948 และได้รับการแก้ไขโดยขายแบบพิมพ์เขียวปืน AR-15 ให้บริษัท COLT มาพัฒนาปรับปรุงเป็นปืนไรเฟิล M16 ในปี 1964 (การที่บริษัท Armalite ได้ตัดสินใจขายแบบพิมพ์เขียวปืน AR-15 เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินในการพัฒนา)

Eugene Stoner(คนขวา),Mikhail Gorbachev(คนซ้าย)
  • Eugene Stoner=ออกแบบ AR-15 (Assault rifle)
  • Mikhail Gorbachev=ออกแบบ AK-47 [Avtomat Kalashnikov (ชื่อบริษัท)]

วิวัฒนาการปืน MK18 CQBR

※โหมดการยิง

  • S (Save) = ยิงไม่ออก
  • 1 (Semi-Auto) = กึ่งอัตโนมัติ (ยิงทีละนัด)
  • 3 (Burst) = ยิงทีละ3นัด
  • F (Full-Auto) = ยิงแบบอัตโนมัติเต็มตัว (รัว)

AR-10 → AR-15 (1957)

  • ลำกล้องยาว 20.8 นิ้ว → 20.0 นิ้ว
  • กระสุนปืนขนาด 7.62×51mm NATO → .223 remington
  • โหมดการยิง S-1-F → S-1

AR-15 → M16 (1964)

  • โหมดการยิง S-1 → S-1-F

M16 → XM16E1(M16A1) (1967)

  • เปลี่ยนปลอกลดแสง เพิ่มชุดส่งลูกเลื่อนและเพิ่มอัตราครบรอบเกลียวให้เร็วขึ้นจาก 14 นิ้วเป็น 12 นิ้ว เพื่อรองรับการใช้กระสุนส่องวิถี M196(Tracer)

XM16E1(M16A1) → M16A1E1 (1981)

  • กระสุนปืนขนาด .223 remington → 5.56×45mm NATO
  • โหมดการยิง S-1-F → S-1–3

M16A1E1 → M16A2 (1982)

  • เปลี่ยนชื่อ

XM4 (1983)

  • ปรับปรุงมาจาก M16A2 ให้มีขนาดสั้นและน้ำหนักเบาลง
  • 80% สามารถใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ร่วมกับ M16A2 ได้
  • ลำกล้องยาว 14.5 นิ้ว
  • กระสุนปืนขนาด 5.56×45mm NATO
  • โหมดการยิง S-1–3
  • พานท้ายปืนยืดหดได้ 4 step

XM4 → M4 carbine/Colt M4 (1991)

  • เปลี่ยนชื่อ

M4 carbine/Colt M4 → M4A1 (1994)

  • โหมดการยิง S-1–3 → S-1–F

M16A2 → M16A3,M16A4 (1994)

  • โหมดการยิง M16A3 = S-1-F
  • นอกจากนั้น M16A3 เหมือนกับ M16A2 ภายนอกทุกประการ

โหมดการยิง M16A4

  • รุ่น R0901 / NSN 1005–01–383–2872 = S-1-F
  • รุ่น R0905 = S-1–3

สิ่งที่ M16A4 มีเพิ่มมาจาก M16A2

  • M16A4 มีหูหิ้วแบบถอดได้และราง Picatinny แบบยาวเต็มความยาวสำหรับติดตั้งเลนส์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
  • ติดตั้งการ์ดแฮนด M5 RAS ของ Knight’s Armament Company ทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์จับยึดแนวตั้ง เลเซอร์ ไฟยุทธวิธี และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

MK18 CQBR (2000)

  • CQBR = Close Quarters Battle Receiver (ตัวรับการต่อสู้ระยะประชิด)
  • ลำกล้องยาว 10.3 นิ้ว
  • กระสุนปืนขนาด 5.56×45 มม. NATO
  • โหมดการยิง = S-1–F
  • พานท้ายปืนยืดหดได้ 6 step

Close Quarter Battle Receiver(CQBR) เป็นโครงปืนส่วนบนที่มีการตัดลำกล้องให้ลดเหลือเพียงแค่ 10–12 นิ้ว โดยแนวคิดคือ สร้างปืนที่ความยาวในระดับพอๆกับปืนกลมือ แต่ยิงกระสุนของปืนไรเฟิลมาตรฐาน(เพื่อใช้งานทดแทนกับปืนกลมือแบบ MP5 9mm ในหน่วยรบพิเศษที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน)

MK18 ส่วนใหญ่ที่พบว่ามีการใช้งานนั้นถ้าไม่ได้นำ Lower (โครงปืนส่วนล่าง)ของ M4/M4A1 (ที่เป็นของใหม่และมีจำนวนน้อยในคลังของกองทัพเรือ) ก็จะเป็นการนำเอา Lower ของ M16A1 ที่เหลืออยู่มากในคลังของกองทัพเรือมาใช้แทน โดยใน MK18 บางกระบอกนั้นถึงขั้นมีการเอาโคร่งลูกเลื่อน (Bolt carrier)แบบเก่าของ M16A1 มาใช้แต่ปรับปรุงเปลี่ยนหัวลูกเลื่อน (Bolt head)ใหม่แทน ส่วนพานท้ายนั้นก็เปลี่ยนเป็นแบบมีช่องเก็บถ่านสำรองและปรับตำแหน่งได้ 6 ตำแหน่ง ซึ่งแตกต่างจากของ M4 ที่ปรับได้เพียง 4 ตำแหน่งเท่านั้น

AR-10
AR-15/M16
M16A1
M16A2/M16A3
M16A4
M4A1
MK18 mod0
MK18 mod1
MK18 mod2

อ้างอิง

https://www.facebook.com/FirearmsHistory/posts/479897742392700/

https://www.youtube.com/watch?v=IrTzI6Egzrs&t=344s

https://www.youtube.com/watch?v=etTlgzFwuoI&t=996s

http://www.imfdb.org/wiki/M16_rifle_series

--

--