“🅼🆄🆂🅸🅲 𝑖𝑠 𝑚𝑦 𝙍𝙀𝙇𝙄𝙂𝙄𝙊𝙉 ’’ ☻︎

Phusanisa Meejaroen
SKDW16–2
Published in
2 min readJun 15, 2021

“เพลงบางเพลงสามารถเปลี่ยนวันที่

เหนื่อยล้า เป็นวันธรรมดาที่ไม่หนักหนามาก

จนเกินจะรับไหว” 🎼💿

“ เราเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทํา

เรากลัวว่าถ้าเราตาย….

พรุ่งนี้เราจะไม่ได้ฟังเพลงอีก” ☹︎

ประโยคที่ออกมาจากปากคนหนึ่ง อาจเป็นประโยคคําตอบของคําถามที่ว่า

“เธอผ่านช่วงเวลาแย่ๆไปได้ไงวะ?”

แว้บแรกที่ได้ยินมันอาจดูเวอร์ไป แต่หลังจากนั้นก็กลับเชื่อสนิทใจว่านั้นคือความจริงแบบ 1000 %

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่บทเพลงหรือเสียงดนตรีรับหน้าที่เป็นนักจิตบำบัด เมื่อก่อนมนุษย์ก็เสพเพลงเพื่อสุนทรียะและความบันเทิงทั่วๆไป ฟังพอให้ได้โยกตามตอนที่รู้สึกสนุก หรือร้องไห้ตามตอนรู้สึกเศร้า ซึ่งเอาจริงๆแล้ว การฟังเพลงก็เป็นไลฟสไตล์ทั่วไปที่ฝังอยู่ในชีวิตประจำวันเราเหมือนการแต่งตัวหรือการกินข้าวแต่พอมารู้ตัวอีกที ดูเหมือนความสัมพันธ์ของมนุษย์กับตัวโน้ตเหล่านี้เดินทางมาไกลมาก บางคนถึงขั้นที่ว่าต้องมีเสียงเพลงอยู่ด้วยตลอดเวลา แถมไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตก็จะต้องหันไปพึ่งพา ราวกับเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว

หลายกรณี มีกลุ่มคนที่ร่างกายพร้อมจะหลั่งสาร

ᗪOᑭᗩᗰIᑎᗴ อยู่ตลอดเวลาที่ได้ยินเพลง

  • จุดร่วมที่เห็นได้ชัดในตัวพวกเขานั้นก็คือ “ความเศร้า”ความ “เจ็บปวด”ข้างในจิตใจ ที่ต้องการบางอย่างมาช่วยเยียวยารักษา ซึ่งพวกเขาก็เลือก “เสียงเพลง”ให้รับหน้าที่ดูแล โดยการเปิดซํ้าๆ เปิดฟังทุกวัน และเปิดมันเกือบจะตลอดเวลา หูฟังคืออวัยวะชิ้นที่ 33 และงานคอนเสิร์ตคือบ้านหลังที่ 2 ของพวกเขา
  • อาการแบบนี้จะมีชื่อเรียกเท่ๆ อย่าง “ Music Addiction’’ แต่ดูเหมือนจะเป็นคําไม่สวยเท่าไหร่นัก เพราะคำว่า “เสพติด”มักจะถูกมองในเชิงลบเสมอ และเมื่อเทียบคุณสมบัติที่เหมือนยาวิเศษ สามารถรักษาอาการเจ็บปวดให้หายดีและฉุดคนที่จมดิ่งให้ขึ้นมารับอากาศหายใจได้ ความหมายก็ดูจะไปกันคนละประโยชน์ จึงมีการเรียกกันในอีกคําหนึ่งว่า “ Music Therapy ’’

𝑀𝑎𝑟𝑖𝑎 𝑆𝑝𝑦𝑐ℎ𝑖𝑔𝑒𝑟 นักจิตวิทยาและนักดนตรีชาวสวิสเซอร์แลนด์ เชื่อว่า

“ดนตรีและศาสนามีรากฐานเดียวกัน เพราะพวกเขาสามารถ ปลดปล่อยความรู้สึกที่ยากต่อการเข้าใจด้วยคำพูด”

มีเพลงมากมายที่เหมือนมือคอยฉุดคนคนหนึ่งให้ขึ้นมาจากวังวนแห่งความเศร้า ไม่ต่างอะไรกับศาสนาสากลทั่วไปที่เปรียบเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้มนุษย์มีสติและอยู่กับตัวเองมากที่สุด บทสวดที่ศักดิ์สิทธ์ก็คงไม่ต่างอะไรกับเนื้อเพลงที่มีเนื้อหาให้กำลังใจหรือเตือนสติ อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะนึกถึงเพลง “𝐹𝑖𝑥 𝑦𝑜𝑢 ’’ ของ 𝐶𝑜𝑙𝑑𝑝𝑙𝑎𝑦 เป็นอันดับต้นๆกับใจความที่หวังจะซ่อมแซมความเจ็บปวดในใจหลายๆคนให้ทุเลาลง♥︎♫

เสียงเพลงเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจอย่างเดียวที่เรามี เป็นเพื่อนสนิทที่สุดคนนึงในชีวิต มันเหมือนคนที่เข้าใจความรู้สึกมานั่งอยู่ข้างๆ และถึงแม้เนื้อหาบางเพลงจะเศร้ายิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง เขากลับมองว่ามันเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่ง มากกว่าจะเก็บมาทําร้ายความรู้สึกของตัวเองให้เป็นแผลลึกมากกว่าเดิม シ

เมื่อไม่นานมานี้ (30 กรกฎาคม ค.ศ 2019) เหตุเกิดที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา พนักงานหญิงจากศูนย์สุขภาพคนหนึ่ง ได้ช่วยชีวิตชายหนุ่มที่กําลังจะโดดสะพานลอยฆ่าตัวตายไว้ ด้วยการเดินไปนั่งข้างๆ แล้วพูดให้กําลังใจด้วยเนื้อเพลง “𝑂𝑛𝑒 𝑀𝑜𝑟𝑒 𝐿𝑖𝑔ℎ𝑡’’ ของ 𝐿𝑖𝑛𝑘𝑖𝑛 𝑃𝑎𝑟𝑘

“𝑊ℎ𝑜 𝑐𝑎𝑟𝑒𝑠 𝑖𝑓 𝑜𝑛𝑒 𝑚𝑜𝑟𝑒 𝑙𝑖𝑔ℎ𝑡 𝑔𝑜𝑒𝑠 𝑜𝑢𝑡?

𝑊𝑒𝑙𝑙,𝐼 𝑑𝑜 ’’

“ใครจะสนถ้าแสงสว่างมันดับไป ฉันนี่ไงล่ะ” เพียงแค่ท่อนเดียวจากเนื้อหาเพลงทั้งหมดชายหนุ่มรู้สึกได้รับการปลอบประโลมและล้มเลิกการจบชีวิตของตนเองในที่สุด แม้จะเป็นบทเพลงจาก “เชสเตอร์ เบนนิงตัน”ผู้ล่วงลับไปด้วยโรคซึมเศร้า แต่กลับกลายเป็นว่า เพราะบทเพลงของเขาและจากเพลงของเขาเท่านั้นที่ทําให้เนื้อหามีพลังมากพอที่จะโอบกอดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าด้วยกันอย่างเข้าใจ

หรือในกรณีของเด็กสาวชาวนอร์เวย์คนหนึ่ง ที่ออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเองหลังจากฟังเพลง “𝑆𝑘𝑦𝑠𝑐𝑟𝑎𝑝𝑒𝑟’’ ของ 𝐷𝑒𝑚𝑖 𝐿𝑜𝑣𝑎𝑡𝑜 ที่ได้ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอบอกว่าเพลงนี้ทําให้เธอรู้สึกว่า เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เพลงนี้ทําให้เธอรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่รู้สึกคล้ายกับตึกสูงถล่มลงมาเหมือนเธอ เธอจึงลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคซึมเศร้า และอยากบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองเพื่อเป็นกําลังใจให้กับคนอื่นๆต่อไป

“เนื้อเพลงเหมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่พวกเขาไว้วางใจ เล่าความลับหรือความอ่อนแอทั้งหมดให้ฟังและดูเหมือนว่าเพลงนั้นเข้าใจพวกเขาเป็นอย่างดี แต่กับบางคนเนื้อหาอาจไม่สำคัญเท่าไหร่ ขอแค่ได้ยินคลื่นความถี่หรือจังหวะเล็กๆน้อยๆ ก็เพียงพอต่อการเยียวยาเขาแล้ว”

“ ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรหากใครหลายคนจะมีชีวิตอยู่ได้เพราะเสียงเพลง”

โดยเฉพาะบนโลกที่วุ่นวาย ผู้คนเต็มไปด้วยปัญหาของตัวเอง แสงสว่างเดียวที่มองเห็นจึงอาจมา ในรูปแบบ

เพลงใน 𝑝𝑙𝑎𝑦𝑙𝑖𝑠𝑡 โปรด ที่เล็ดลอดออกมาจากหูฟังคู่ใจ และการเล่นดนตรีที่ชอบ 💓🎸

  • อ้างอิงข้อมูลจาก
  • https://www.kerrang.com/the-news/woman-uses-linkin-park-lyrics-to-stop-suicidal-man-from-jumping/?fbclid=IwAR0fBB4bc1k5zTSbBm0qk8Z4zBIiiRh1Mee92wBGhMacKK1Pu0G1TRHxGps

--

--