จุดกางเต้นท์10จุดที่ไม่ควรพลาด
“ในวันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวป่าลานกางเต้นที่ควรไปสักครั้งในชีวิต ไปสัมผัสถึงสิ่งต่างๆรอบตัวธรรมมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดีๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อนช่วงวันหยุด จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย”
1 กระจาน ที่ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งไม่ไกลมากจากกรุงเทพ “แน่นอนว่ายังมีสัณญานโทรศัพท์ TRUE AIS” ใช้เวลาในการไปประมาณ 2ชั่วโมง โดยเป็นสถานที่ๆน่าไปมากๆ เพราะมีจุดกลางเต็นท์หลายจุดเช่นตรงบริเวรอ่างเก้บน้ำริมเขื่อน,แคมป์พะเนินทุ่ง แต่ที่แนะนำจริงๆคือควรกางอุทยานเพราะจะปลอดภัยกว่า และรถยนต์สามารถเข้าถึงได้สะดวก ค่าเข้าอุทธยานมี2ราคาคือ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท กางเต้นท์คิดเป็นคืน คืนละ 30 บาท
2 ภูทับเบิก จุดกลางเต้นยอดนิยมท่ามกลางทะเลหมอกที่มีเกือบจะทั้งปี แนะนำให้ไปในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมช่วงปลายฝนต้นหนาวโดยจุดกลางเต้นยังมีให้เลือกในหลายจุด เช่นรีสอร์ท,หมู่บ้านของชาวบ้าน แต่ผมแนะนำให้ไปกางที่วิสาหกิจชุมชนเนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องน้ำ ร้านกาแฟ ที่จอดรถ อีกทั้งเป็นจุดชมวิวโดยเก็บค่ากางอยู่ที่100บาท/คืน
3 ดอยเสมอดาว ในช่วงฤดูหนาวจะได้นอนกางเต้นท์ดูดาวที่ราวกับเอามือคว้าได้อีกทั้งยามเช้ายังสามารถนั่งดูดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อีกด้วยท่ามกลางทิวเขาและลำน้ำน่านอีกด้วยและที่สำคัญคือมีที่อำนายความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ที่จอดรถ แต่ไม่มีร้านค้าดังนั้นต้องเตรียมของไปเองนะหรือไม่ก็ต้องไปร้านอาหารของชาวบ้านในระแวกนั้น ที่ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 20บาทเด็ก10บาท
4 ปางหวัน โฮมสเตย์ ที่ตั้งอยู่ที่อ.สวนผึ้ง ต.ตะนาวศรี จ.ราชบุรี เป็นสถานที่กางเต้นที่ถือว่าได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีบรรยากาศที่ดีมีเสียงจากน้ำในลำธาร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่เขียวขจี ผ่อนคลายสุดๆดหมาะกับการไปพักมากๆเลย อีกกอย่างคือมีบริการที่พักและมีลานกางเต้นท์ในอัตราค่าบริการ200บาท/คน
5 ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดที่มีผู้คนมานิยมกางเต้นดุอาทิตย์ตกดิน สามารถมองเห็นต้นไม้ที่เขียวขจี แนะนำให้มาในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี นอกจากมาแคมป์แล้วยังได้ทำการปลูกต้นไม้โดยการยิงหนังสติกเพื่อยิงเมล็ดพันธุ์อีกด้วย สนุกและยังได้อนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วยโดยอัตราค่าบริการอยู่ที่ผู้ใหญ่20บาทและเด็ก10บาท
6 ทุ่งแสลงหลวง สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่า “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” เราจะได้สัมผัสธรรมชาติออย่างใกล้ชิด ท่ามกลางทุ่งหญ้าและมีหมอกในยามเช้า ในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศที่เย็นมากๆภายในอุทยานยังมีกิจกรรมเดินป่า ปั่นจักรยาน ส่องสัตว์ในตอนกลางคืนและมีจุดชมวิวที่สวยมากๆอีกทั้งมีร้านค้าสวัดดิการอีกด้วย โดยอัตราค่าบริการอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 40บาท เด็ก20บาท
7 ต้นน้ำ โฮมสเตย์ ที่ตั้งอยู่ที่อ.สวนผึ้ง บรรยาการดี ติดลำธาร ที่นี่ไม่มีการรับจองล่วงหน้า ต้องwalk in เท่านั้น ใครที่อยากตตั้งริมน้ำต้องรีบมาหน่อยนะ สามารถเลือกที่กางเต้นได้เอง โดยอัตราค่าบริการอยู่ที่คนละ150บาท เด็กที่อายุต่ำกว่า 10 และผู้ที่มีอายุมากกว่า60ปีเข้าฟรี โดยทางสถานที่ไม่มีไฟฟ้าให้พ่วงแต่มีจุดชาร์จโทรศัพท์ให้เท่านั้น
8 น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ใครที่อยากไปกางเต้นท์นอนฟังเสียงน้ำตกเพลินๆ ปักหมุดที่นี่ได้เลย น้ำตกนี้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจ.กาญจนบุรี โดยส่วนของลานกางเต้นท์อยู่ที่ชั้นที่4 ของน้ำตก โดยลานกลางเต้นท์นั้นยังสามารถมองเห็นจุดชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์อีกด้วย โดยอัตราค่าบริการอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 100บาท เด็ก 50บาท ค่ากางเต้นท์นอนคืนละ 30บาท
9 ปางอุ๋ง เป็นการตั้งแคมป์กลางป่าสน และในช่วง เช้าของวันจะมีไอหมอกลอยเหนือผิวน้ำ และมีจุดให้เลือกกางเต้นท์2จุดบริเวณโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ซึ่งต้องติดต่อขออนุญาตเข้าพักที่ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน อีกจุดหนึ่งคืออลานกางเต็นท์ริมน้ำในพื้นที่หน่วยพิทักษ์ฯ ที่ ถผ.5 (ปางตอง) แนะนำว่า ให้โทรไปจองก่อนในช่วงวันหยุดราชการ โดยอัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 20บาท เด็ก 10บาท พาหนะ30บาท
10 ริมธารา แคมป์ปิ้ง ลานกลางเต้นท์ เปิดใหม่ในอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี บรรยากาศ รายล้อมด้วยต้นไม้ และอยู่ริมน้ำชี สามารถwalk in เข้าได้เลยไม่มีบริการที่พัก โดยมีให้เลือก2โซน โดยค่าบริการ 150บาท/คืน เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีเข้าฟรี มีห้องน้ำบริการ สามารถประกอบอาหารได้
จากที่เล่ามาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่พักผ่อน ท่องเที่ยวในประเทศไทย ใครที่สนใจอาจจะไปลองเที่ยวดูในสถานที่ที่กล่าวไว้ก็ได้ อาจจะได้รับอะไรใหม่ๆมากขึ้น ได้พบเจอสถานที่ใหม่ๆ ได้เจอผู้คนใหม่ๆ ได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติที่เงียบสงบ ขอให้มีความสุขจากการที่ได้ไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆนะครับ
อ้างอิงจาก:https://www.chillpainai.com/scoop/10308/ ,https://www.chillpainai.com/
