วัฒนธรรมจีน🇨🇳

วัฒนธรรมจีน ความจริงแล้วแฝงคติในการดำเนินชีวิตไว้มากมาย เพราะจีนเป็นชาติหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับศาสนาไม่น้อย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมจึงมีวัดและโบราณสถานมากมาย และที่สำคัญยังเน้นในเรื่องของมารยาทในสังคมของคนจีนและความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก เพราะฉะนั้นใครที่มีแพลนไปเที่ยวจีน ไปทำงานหรือว่าไปธุระต่างๆ ก็ควรศึกษาในเรื่องวัฒนธรรมจีนเบื้องต้นไว้บ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจในความเป็นประเทศของเขามากยิ่งขึ้น

ชาวจีนทักทายกันกันด้วยการจับมือ และกล่าวคำสวัสดีว่า “หนี ห่าว” ส่วนการเรียกชื่อนั้นจะเรียกนามสกุลของเขาก่อน นั่นคือ แล้วตามด้วยคำว่า “เซียน เซิง” สำหรับผู้ชาย ไม่งั้นคุณอาจพูดสกุลและตำแหน่งก็ได้ถ้าคุณรู้เพราะว่าจะเหมาะสมที่สุด และเป็นการให้เกียรติกันด้วย แต่สำหรับผู้หญิงที่อายุน้อย เช่น พนักงานเสริฟ หรือพนักงานโรงแรม อาจเรียก “ฝู อู้ เยวียน” หรือ “เหมย นวี่” แต่ไม่ควรใช้คำว่า “เสียว เจี่ย” ซึ่งมีความหมายแฝงเชิงลบ ถ้าหากเราไม่รู้เลยก็น่าจะไปเที่ยวกับคนที่มีประสบการณ์มาเที่ยวหรือคนที่รู้วัฒนธรรมจีนจะดีที่สุด และในเรื่องของการแต่งกายเมื่อไปชมสถานที่โบราณ หรือมีความสำคัญทางศาสนา เช่น วัด ควรแต่งกายให้สุภาพ เพราะจีนเองก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับศาสนาเช่นกัน และยังมีข้อควรระวังในการถ่ายรูปด้วย เรื่องนี้ต้องศึกษาก่อนว่าตรงไหนถ่ายได้หรือถ่ายไม่ได้

อาหารจีน อาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาวจีน รวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง มีหลายชนิดตามท้องถิ่น โดยนิยมรับประทานอาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดยอุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ มีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่างคือ มีด เขียง กระทะก้นกลม และตะหลิว มีอาหารจีน 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมืองเหนือ และเมืองใต้ และส่วยใหญ่จะประกอบอาหารแบบผัดในกระทะที่มีไฟแรงมากๆ เพราะพวกเขาเชื่อว่าเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและทำให้อาหารคงคุณค่าความสดกรอบเอาไว้ได้ การทอด นึ่งและเคี่ยวนั้นก็เป็นวิธีที่นิยมทำกันมาก ในขณะที่การย่างและอบนั้นจะทำกันแต่ในครัวของภัตตาคารเท่านั้น อาหารจีนจะต้องถึงพร้อมทั้งสีสัน รสชาติ และหน้าตา มีอาหารอยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่ปรุงอย่างเดียวเดี่ยวๆ โดดๆ สิ่งสำคัญคือส่วนประกอบต่างๆ จะต้องกลมกลืนเข้ากันได้กับเครื่องปรุงรสจำพวกซีอิ้ว กระเทียม ขิง น้ำส้ม น้ำมันงา แป้งถั่วเหลือง และหอมแดง เป็นต้น

--

--