รวมเพลงบาร์บี้ฟังแล้วเหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนเวทมนตร์ ฟังวนได้ทั้งเดือนจนเหมือนได้เจอเจ้าชาย

momaryy
SKDW17–1
Published in
3 min readJun 10, 2022

เชื่อว่าบาร์บี้ต้องเป็นการ์ตูนเรื่องโปรดของใครหลายๆ คนในวัยเด็กแน่นอน เพราะว่าบาร์บี้แต่ละตอนนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่ดีจนดูกี่รอบก็ไม่เบื่อแล้ว เพลงประกอบก็ยังเพราะสุดๆและเนื้อหาก็ยังมีความหมายที่ดีอีก วันนี้ก็เลยขอรวบรวม 10 เพลงประกอบบาร์บี้ที่เราชอบมากที่สุดมาแนะนำกัน มาเริ่มปลุกความเป็นเจ้าหญิงในตัวคุณกันเลย

1.On top of the world จากเรื่อง Barbie Princess Charm School

บาร์บี้ตอนนี้ต้องเป็นตอนโปรดสำหรับหลายๆคนแน่นอน เรื่องย่อคร่าวๆ คือ นางเอกของเรามีฐานะที่ไม่ค่อยดี จนวันหนึ่งไปได้รางวัลทำให้ได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนสอนเจ้าหญิง ตอนแรกก็ถูกดูถูก รังแกกลั่นแกล้งต่างๆ แต่เรียนไปเรื่อยๆเธอก็ได้พบกับความจริงบางอย่างที่ยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งเพลง On top of the world นี้เป็นเพลงที่ให้กำลังใจได้ดีมากๆ ให้ความรู้สึกประมาณว่าอย่าท้อ อย่าคิดว่าเราไม่สามารถทำสิ่งต่างๆได้ ถ้าเราไม่หยุดพยายาม สักวันหนึ่งเราจะต้องอยู่จุดสูงสุดแน่นอน

[thaisub]On top of the world — Barbie Princess Charm School — YouTube

2.Hope has wings จากเรื่อง Barbie and the magic of pegasus

เรื่องนี้ก็คือ นางเอกของเราสวยมาก เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายแทบทุกคน รวมถึงพ่อมดผู้ชั่วร้ายด้วย แต่นางเอกก็ปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานกับพ่อมด ทำให้พ่อมดโกรธมากเลยสาปพ่อกับแม่นางให้เป็นหินซะเลย นางเอกก็เลยต้องหาวิธีต่างๆเพื่อลบล้างคำสาป ซึ่งเพลง Hope has wings ก็เข้ากับเนื้อเรื่องนี้มากๆและยังให้ความหมายที่ลึกซึ้งอีกประมาณว่า “แม้จะรู้สึกสิ้นหวังแค่ไหนก็อย่าลืมว่าความหวังมีปีก และมันสามารถพยุงเราไว้ได้เสมอ”

[Thaisub] Hope has wings — Barbie and the Magic of Pegasus 🦄 — YouTube

3. Get your sparkle on จากเรื่อง Barbie A Fashion Fairytale

เรื่องนี้ก็คือ นางเอกของเราต้องไปช่วยป้าที่เป็นดีไซเนอร์ซึ่งมีห้องเสื้ออยู่ที่ปารีสไม่ให้ห้องเสื้อนี้ปิดตัวลง ซึ่งเพลงประกอบก็คือ เพลง Get your sparkle on ให้ความหมายประมาณว่า “จงเฉิดฉายเข้าไว้ แสดงให้โลกนี้เห็นว่าเราเป็นใคร ซึ่งมันใช้ความเชื่อมั่นและความมั่นใจแค่เพียงเล็กน้อย เชื่อเถอะ” เป็นเพลงที่ฟังแล้วปลุกความเป็นตัวเองและความมั่นใจในตัวเองออกมาได้ดีมากๆเลย

[Thaisub] Get your sparkle on — Barbie Fashion Fairytale — YouTube

4. Believe จากเรื่อง Barbie and the diamond castle

เรื่องนี้ก็คือ เป็นเรื่องราวของหญิงสาว 2 คน ที่พยายามจะช่วยผู้หญิงคนนึงที่ติดอยู่ในกระจก(หลายคนอาจสงสัยเข้าไปติดได้ยังไง ต้องไปดูเลยค่ะ) คือจะต้องทำยังไงก็ได้ในการพาเธอคนนั้นออกมา ซึ่งในระหว่างทางก็จะมีอุปสรรคมาขัดขวางอยู่ตลอด ซึ่งเรื่องนี้เน้นความสัมพันธ์ของนางเอกทั้ง 2 คนซึ่งเป็นเพื่อนรักกันมากๆ และ เพลง Believe ก็ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้ อย่างที่นางเอกทั้งสองเชื่อมั่นกันว่าจะสามารถช่วยให้หญิงสาวที่ติดอยู่ในกระจกออกมาได้ และเพลงนี้ยังมีท่อนที่เราชอบมากๆ ก็คือ Thеre’s always hope. If you just let it in.Bеlieve in all that can be. A miracle starts whenever you dream. ซึ่งแปลว่า “หากเธอเปิดโอกาสให้สิ่งต่างๆเข้ามาก็จะมีความหวังเสมอจงเชื่ออมั่นว่ามันสามารถเป็นได้ เมื่อใดก็ตามที่เธอฝันปาฏิหาริย์จะเริ่มขึ้น”

[Thaisub] Believe — Barbie the Diamond Castle — YouTube

5.Connected จากเรื่อง Barbie and the diamond castle

เป็นเรื่องเดียวกันกับเพลงที่แล้วเลย อย่างที่บอกก็คือว่าบาร์บี้เรื่องนี้ เน้นความสัมพันธ์หรือมิตรภาพเกี่ยวกับเพื่อนมากๆ ซึ่งเพลงนี้ก็เหมือนเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์นี้เลย เนื้อหาก็จะประมาณว่า “เรารู้สึกเชื่อมถึงกันและทุกๆสิ่งเชื่อมโยงกันแล้ว เพราะ ไม่มีอะไรที่สามารถทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนี้ได้แล้ว” เป็นอีกเพลงที่ทำนองสนุกสนานและเนื้อหาน่ารักมากๆเลย

[Thaisub] Connected — Barbie and The Diamond Castle — YouTube

6.All for one จากเรื่อง Barbie and the 3 Musketeers

เรื่องย่อคร่าวๆ คือ ตัวเอก 4 คนของเรามีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นทหารเสือ แต่พวกเธอดันมาเกิดอยู่ในยุคที่ถูกปลูกฝังความคิดว่า ทหารเสือจะต้องมีแต่ผู้ชายเท่านั้น เนื้อเรื่องก็เลยเกี่ยวกับการต่อสู้และการพิสูจน์ตัวตนของผู้หญิงทั้ง 4 คน เพลงประกอบก็คือเพลง All for one ให้ความรู้สึกถึงมิตรภาพที่ดีมากๆ ประมาณว่า”เมื่อหนึ่งเดียวรวมใจกัน เราก็จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้”

[Thaisub] All for one — Barbie and The Three Musketeers — YouTube

7. Wings จากเรื่อง Barbie of swanlake

เรื่องย่อคร่าวๆ คือ นางเอกในเรื่องคือน่าสงสารมาก ถูกสาปให้เป็นหงส์ (กลางวันเป็นหงส์ กลางคืนเป็นคนปกติ) แล้วดันมาเจอกับเจ้าชายในคืนนึงเข้า ซึ่งเจ้าชายก็ตกหลุมรักเธอในทันที แต่การพบกันของพวกเค้าทั้งสองคนนี้กลับไม่ได้ง่ายสมใจคิด และยังโดนสวมรอยด้วยอีก เรื่องนี้คือสนุกมากๆเลยและ เพลงประกอบก็ยังเพราะและเนื้อหาดีมากด้วยให้ความรู้สึกประมาณว่า”เราทุกคนมีปีก และเราสามารถใช้ปีกของเราบินให้สูงที่สุด และสุดท้ายเราก็สามารถเลือก happy ending ของชีวิตเราได้”

“Wings” by Leslie Mills (Barbie of swan lake) — YouTube

8. Shine จากเรื่อง Barbie in the 12 dancing princess

เรื่องย่อคร่าวๆก็คือ บาร์บี้ในเรื่องนี้รับบทเป็นเจ้าหญิงเจเนวี่ฟ์พร้อมด้วยพี่น้องเจ้าหญิงนักเต้นอีก 11 คนรวมเป็น 12 คนด้วยกันที่ค้นพบทางลับไปสู่โลกแห่งเวทมนต์ที่ดลบันดาลให้ทุกอย่างเป็นจริงได้อย่างใจคิด จนเมื่ออาณาจักรของพระราชาผู้เป็นพ่อของพวกเธอ ถูกโจมตี พวกเธอกลับมาช่วยให้พ่อรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ เพลงประกอบก็คือมีทำนองที่เพราะมากๆ ความหมายก็ดีเหมือนกับทุกๆเพลงเลย ประมาณว่า”ทุกคนสามารถ shine ได้ มั่นใจเข้าไว้นะคะ”

[Thaisub] Shine — Barbie in the 12 Dancing Princesses. — YouTube

9. I need to know จากเรื่อง Barbie in the Island Princess

นางเอกของเราติดอยู่บนเกาะหลังจากเรืออับปางตั้งแต่เธอยังเด็ก เธอเติบโตขึ้นโดยมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่เป็นเพื่อนจนกระทั่งได้พบกับเจ้าชายที่มาสำรวจเกาะทำให้เจ้าชายพาเธอมาอยู่ในวังทำให้นางเอกได้พบกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ความหมายของเพลงก็คือประมาณว่า “มีแต่ความสงสัยเต็มไปหมดจนไม่สามารถบอกได้เลยว่ามีอะไรรอคอยเราอยู่บ้าง แต่เราก็ยังคงต้องไปต่อ เพราะเราต้องการที่จะรู้มัน”

[Thaisub] I need to know — Barbie as the Island princess — YouTube

10.Free จากเรื่อง Barbie in the prince and the pauper

เรื่องก็คือว่ามีหญิงสาว2 คน คือ เจ้าหญิง(แอนเนลีส) และสาวชาวบ้านผู้ยากจน(เอริก้า)ที่ทั้งสองดูคล้ายกันจนน่าเหลือเชื่อ ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกันแต่ก็มีชีวิตความเป็นอยู่และฐานะที่ต่างกันมากๆ หนทางชีวิตและโชคชะตาของหญิงสาวต้องมาบรรจบกัน เมื่อเจ้าหญิงแอนเนลีสถูกจับตัว และเอริก้าผู้มีหน้าตาคล้ายกันได้พยายามช่วยเหลือ โดยเอริก้าจะปลอมเป็นเจ้าหญิง และปลดปล่อยแอนเนลีสจากการคุมขังของพรีมิงเกอร์ผู้ชั่วร้ายได้หรือไม่และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกษัตริย์โดมินิกรูปงามมาหลงรักเอริก้าเพราะเข้าใจผิดว่าเธอคือ แอนเนลีส ต้องไปดูกันแล้วค่ะ นอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกและตื่นเต้นทั้งเรื่องมากๆแล้ว เพลงประกอบก็คือเพราะมากทุกๆเพลงเลย แต่เพลงที่เราชอบที่สุด คือ เพลง Free เป็นเพลงที่แสดงความแตกต่างของตัวละครทั้งสองได้ดีมากๆ แต่ทั้งสองคนมีความเหมือนกันคือ ไม่สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ “แม้อยากจะ free อยากจะมีอิสรภาพมากแค่ไหน แต่เราทุกคนก็ล้วนมีหน้าที่ของตนเอง”

[Thaisub] Free — Barbie as the Princess and the Pauper — YouTube

--

--