ใครดีกว่ากัน?

grnd
SKDW17–1
Published in
2 min readJun 8, 2022

แน่นอนว่า 2 ทีมที่มาแรงที่สุด ณ เวลานี้ก็เห็นจะเป็นทีม เรือรบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ พญาหงส์แดง ลิเวอร์พูล 2 สุดยอดทีมจากเกาะอังกฤษ ทั้งการเจอกันของทั้ง 2 ทีมในฤดูกาลนี้ เรียกได้ว่ากินกันไม่ลง ทั้งในเรื่องผลสกอร์ ผู้เล่น และรูปเกมที่งัดแทคติกกันออกมาใช้นาทีต่อนาที แล้วใครดีกว่ากัน?

มาดูทางฝั่งของ เรือรบ สีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีคฤดูกาลล่าสุด ที่นำทีมโดย สุดยอดกุนซือแห่งยุค อย่าง เป๊ป กวาดิโอลา ยอดกุนซือชาวสเปนที่มีผลงานต่างๆมากมาย ทั้งการประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค และยังมาประสบคามสำร็จในการคว้าแชมป์ลีค กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาในรูปแบบการเล่น ยอดฮิตในยุคนี้อย่าง 4–3–3 และมาในสไตล์การเล่นของ High possession หรือ การเน้นการครองบอลและเข้าทำประตู และ การเล่นแบบ high pressing นำโดย เควิน เดอ บรอย ฟิล โฟเด้น ริยาด มาเรส กาเบรียล เชซุส เป็นต้น รูปแบบการเล่นของ แมน เชสเตอร์ซิตี้นั้น มีการต่อบอลที่ประติดประต่อกันอย่าง เพลินตาและมีการเข้าทำที่ดุดัน ทั้งยังเล่นเกมรับแบบ high pressing จึงทำให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ในการเซ็ตบอลน้อยว่าปกติทำให้เกิดการเสียบอลง่าย

มาดูทางฝั่ง ของ พญาหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ในฤดูกาลนี้มีโอกาสจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าถึง 4 แชมป์ใหญ่ อย่าง พรีเมียร์ลีค UCL และอีก 2 แชมป์ที่คว้าไปแล้วอย่าง FA CUP และ LEAGUE CUP แต่กลับพลาด พรีเมียร์ลีคและ UCL ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็นับได้ว่าฤดูกาลนี้เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสรหลังจากที่หลับไหลจากความยิ่งใหญ่มานาน

ทางฝั่งลิเวอร์พูลนำทีมมาโดย บอสใหญ่อย่าง เจอร์เก้น คล๊อป กุนซือชาวเยอรมัน ที่มีประสบการณ์ ในการคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าเยอรมัน กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมูน ผู้คิดค้นศาสตร์ฟุตบอลที่นิยมมาใช้ในปัจจุบันอย่าง เกเก้น เพรสซิ่ง

ลิเวอร์พูลมาในรูปแบบ ที่เหมือนกับแมนเชสเตร์ ซิตี้ ในระบบ 4–3–3 และมาในสไตล์การเล่นที่ดุดันราวกับสัตว์ป่าด้วยรูปแบบการเล่นแบบ เกเก้นเพรสซิ่ง

ความแตกต่าง ของทั้งสองทีม

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องตัวผู้เล่นโค้ชและความสำเร็จของทั้ง 2 ทีม ณ เวลานี้ เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างกัน แต่สไตล์การเล่นกับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

โดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะมีสไตล์การเล่นที่มีความคล้ายคลึงกับ เพลง โอเปร่า ที่กึกก้อง กังวาล ไพเราะ และสามารถ ฟังได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ฟุตบอลที่เพลินตา แต่มีประสิทธิภาพ

ส่วนทางฝั่งของลิเวอร์พูลจะมาในรูปแบบการเล่นที่ดุดัน หนักหน่วง เปรียบได้กับ ดนตรี เฮวี่ เมทัล ร็อค และเกมสวนกลับที่ดูแล้วรู้สึกสนุกและมันส์ตาม

ในเรื่องของการเสริมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูจะได้เปรียบมากกว่าทางฝั่งของลิเวอร์พูล เรื่องจำนวนเงินทั้งการเสริมสตาร์ ดังอย่าง Jack grealish มาจาก aston villa ด้วยราคาที่สั่นสะเทือน ทั้งเกาะอังกฤษ 100 ล้านปอนด์

แต่ทางฝั่งของลิเวอร์พูลกลับ เสริมทัพมาสองคนด้วยราคารวม 87.5ล้าน ปอนด์ อย่าง ibrahima konaté และ luiz diaz

โดยสรุปแล้วทั้งสองทีมมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง เช่นในเรื่องของการเสริมทัพที่ลิเวอร์พูลดูจะทำได้คุ้มค่ามากกว่าเนื่องจากได้ตัวผู้เล่นมาในราคาที่ถูกแต่สามารถส่งทีมเข้าชิงทุกรายการได้ แต่ ทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูจะเหนือกว่าในเรื่องของ ความสม่ำเสมอในการเล่นสังเกตได้จากแชมป์พรีเมียร์ลีคอังกฤษ ที่ต้องใช้ความสม่ำเสมออย่างมากในการคว้าแชมป์มา อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมก็เป็นทีที่ฟัดกันได้มันส์ที่สุดในฤดูกาลนี้

--

--