คุณมีกลยุทธ์ทางการตลาดนอกจากการซื้อโฆษณาบน Facebook ไหม?

Jarupong Jarana
SUFFIX.WORKS
Published in
2 min readOct 8, 2021

แน่นอนว่า Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่มียอดผู้ใช้งานในประเทศไทยมากเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาโซเชียลมีเดียทั้งหมด ทำให้การทำการตลาดหรือโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ถือเป็นที่นิยม หรือจะพูดว่าเป็นช่องทางที่ต้องทำแน่นอนก็ว่าได้ แต่จากประสบการณ์ของ SUFFIX เรามักได้ยินคำถามจากลูกค้าหรือแบรนด์อยู่หลายครั้งว่า

“นอกจากซื้อโฆษณาบน Facebook คุณมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหรือไม่”

เราจึงถือโอกาสนี้พูดถึงกลยุทธ์ทางการตลาดบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ จากประสบการณ์และข้อมูลที่น่าสนใจที่เรารวบรวมเอาไว้ในบทความนี้

1. สร้างพื้นที่บนช่องทางออนไลน์เป็นของตัวเองด้วยเว็บไซต์ (Website)
การสร้างเว็บไซต์สามารถทำได้หลายจุดประสงค์ทางการตลาด เช่น การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือธุรกิจ, การสร้างช่องทางการทำธุรกรรมซื้อขาย หรือการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้วยเว็บไซต์ในรูปแบบอีคอมเมิร์ช ซึ่งที่สำคัญคือเว็บไซต์ถือเป็นสินทรัพย์ของแบรนด์หรือธุรกิจอีกด้วย

2. เพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยการค้นหาบน Search Engine (Search Engine Marketing)
หากแบรนด์หรือธุรกิจของคุณต้องการให้ผู้คนเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นด้วยจุดประสงค์ทางการตลาดที่วางเอาไว้ เช่น การสมัครใช้บริการ, การลงทะเบียนบันทึกข้อมูล หรือเข้าชมเนื้อหาต่างๆ การทำ SEM (Search Engine Marketing) และ SEO (Search Engine Optimization) ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำการตลาด ซึ่งสามารถทำบนแพลตฟอร์ม เช่น Google, Bing

3. เพิ่มช่องทางการเข้าถึงเนื้อหาด้วยโฆษณาบน YouTube
ด้วยการเป็นโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้งานมากที่สุดในปี 2564 (Thailand Digital Stats, 2021) การทำแคมเปญหรือการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการทำการตลาดในขั้นที่ต้องการสร้างความรับรู้ให้กับแบรนด์หรือสินค้า

4. เข้าถึงกระแสหรือเทรนด์ด้วย Twitter
หากจะบอกว่า Twitter เป็นโซเชียลมีเดียที่มีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วที่สุดก็คงจะไม่ใช่คำพูดที่ผิดนัก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการสร้างแคมเปญเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ หรือการทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือสินค้าเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม

5. เพิ่มช่องทางการติดต่อผ่าน LINE
การทำการตลาดผ่าน LINE Official Account ถือเป็นการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้ในทีเดียวด้วยการเผยแพร่ทั้งข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอต่างๆ ซึ่งอาจเป็นโปรโมชั่นหรือข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์/สินค้า รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ในปี 2564 อย่าง LINE MyShop ซึ่งเป็นช่องทางการขายออนไลน์อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถปิดการขายได้ทันที

6. เพิ่มจำนวนการรับรู้สินค้าหรือแบรนด์บน TikTok
หากต้องการทำให้ผู้คนเห็นแบรนด์หรือสินค้ามากยิ่งขึ้น การทำแคมเปญบน TikTok ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจ ด้วยความที่เป็นโซเชียลมีเดียที่มีการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว และรูปแบบโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ก็มีอย่างหลากหลาย

7. เผยแพร่เนื้อหาหรือบทความผ่าน LinkedIn
ใช้โซเชียลมีเดียที่มีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถืออย่าง LinkedIn เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เคยมีอยู่แล้ว และอาจได้รับความสนใจบนแพลตฟอร์มนี้ เช่น บทความเกี่ยวกับการเงิน, อสังหาริมทรัพย์ หรือแนวคิดการทำงาน ซึ่งควรแนบลิงก์ต้นฉบับไว้ด้วยเพื่อให้ผู้คนที่สนใจคลิกกลับเข้ามายังเว็บไซต์หลักของเนื้อหานั้น

8. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Email (Email Marketing)
การทำการตลาดผ่าน Email สามารถทำได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาดที่วางไว้ เช่น ซื้อสินค้า, ลงทะเบียนกิจกรรม หรือจะเป็นการทำ Email Newsletter ที่เป็นการส่งเนื้อหาความรู้ที่มีประโยชน์สำหรับคนที่ติดตาม (Email Subscribe) ซึ่งอาจจะเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณได้

9. สร้างคอมมูนิตี้บนช่องทางออนไลน์ (Online Community)
หากแบรนด์หรือสินค้าของคุณต้องการสื่อสารกับผู้คนที่มีความสนใจในประเด็นเดียวกัน การมองหาคอมมูนิตี้ขนาดย่อมที่คาดว่าน่าจะมีกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ถือเป็นวิธีที่น่าสนใจ ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งแพลตฟอร์มที่เกี่ยวกับการทำงานอย่าง Slack เรื่องทั่วไปในสังคมอย่าง Clubhouse หรือเพื่อความบันเทิงอย่าง Twitch, Discord

10. เปลี่ยนเนื้อหาที่มีอยู่แล้วเป็น “สไลด์โชว์” (Slideshow)
การลงทุนโดยการปรับเนื้อหาที่มีอยู่แล้วซึ่งอาจเป็นในรูปแบบของบทความหรือเนื้อหาบนช่องทางออนไลน์ให้กลายเป็นรูปแบบสไลด์โชว์ และนำไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียที่แตกต่างออกไป เช่น LinkedIn หรือ Instagram เพื่อทำให้เนื้อหานั้นๆ กลับมาน่าสนใจและสดใหม่อีกครั้ง ซึ่งสามารถออกมาในหลายรูปแบบ เช่น PDFs บน LinkedIn หรือ Carousels บน Instagram

11. สร้างบล็อกเนื้อหาคุณภาพเพื่อเปลี่ยนให้ผู้สนใจกลายเป็นลูกค้า (Blog)
การทำบล็อกเนื้อหาบนเว็บไซต์จะมีผลสำคัญต่อ SEO (Search Engine Optimization) บนแพลตฟอร์มการค้นหายอดนิยม เช่น Google, Bing ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของแบรนด์หรือธุรกิจคุณติดอันดับต้นๆ ในการค้นหา และยังอาจส่งผลให้ผู้ที่สนใจเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ หากเนื้อหานั้นมีคุณภาพและมี Call to Action ที่ชัดเจน

12. สร้างความประทับใจด้วยระบบการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM)
ในปัจจุบันการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าไม่เพียงแค่การอำนวยความสะดวกอีกต่อไป แต่ต้องอาศัยความเฉพาะเจาะจง ซึ่งการทำ CRM หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าจะสามารถช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจจดจำรายละเอียดและเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยชุดข้อมูลจาก CRM ที่สามารถความประทับใจให้กับลูกค้าได้ เช่น สิทธิพิเศษเมื่อสะสมแต้มครบ, สิทธิพิเศษในวันเกิดของลูกค้า

13. เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งด้วย Social Listening Tools
เครื่องมืออย่าง Social Listening ที่สามารถค้นหาการพูดถึงแบรนด์หรือประเด็นต่างๆ บนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เข้าใจลูกค้าที่อาจเป็นลูกค้าของคุณจริงๆ ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และสามารถนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาวิเคราะห์รวมถึงต่อยอดเป็นแคมเปญทางการตลาดได้อีกด้วย

14. ใช้พลังของ Influencers
Influencers หรือผู้ที่มีอิทธิผลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยการเข้าหา Influencers สามารถทำได้ 2 วิธีคือ แบบแรกจ่ายเงินจ้างให้เผยแพร่หรือแชร์เนื้อหาของคุณ กับแบบที่สองคือสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาและให้พวกเขาแชร์กับคนที่ติดตามหากคิดว่ามันมีประโยชน์ (Ross Simmonds, 2020)

15. เพิ่มช่องทางการช่วยขาย (Affiliate Marketing)
การทำการตลาดแบบช่วยขาย (Affiliate Marketing) สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดหรือเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ของคุณต้องการนำเสนอสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น คุณสามารถติดต่อเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่มีเนื้อหาแนะนำสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และให้ค่าส่วนแบ่ง (Commission) หากสินค้าของคุณขายได้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มนั้น ถือเป็นการทำการตลาดที่ได้ประโยชน์ทั้งสามฝ่าย คุณ (Advertiser) ได้ขายสินค้ามากขึ้น, แพลตฟอร์ม (Publisher) ได้รับส่วนแบ่ง และลูกค้า (Customer) ได้สินค้าที่ตรงกับความต้องการในขณะนั้น

16. สัมมนาออนไลน์เพิ่มการรับรู้และภาพลักษณ์ของแบรนด์/ธุรกิจ (Webinar)
สร้างโอกาสและส่งเสริมธุรกิจของคุณด้วยการจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า ซึ่งการทำการตลาดด้วยสัมมนาออนไลน์ สามารถทำได้ตั้งแต่การสาธิตสินค้าและบริการ, การนำเสนอเนื้อหาที่แบรนด์/ธุรกิจของคุณมีความเชี่ยวชาญ หรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าประเภทธุรกิจ (B2B)

และสุดท้ายต้องไม่ลืมคำนึงถึงประเด็นที่ว่า การจะเข้าไปทำการตลาดหรือโฆษณาบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มใดๆ ก็ตาม ต้องศึกษาธรรมชาติของแพลตฟอร์มนั้นๆ เพราะถึงแม้จะเป็นผู้ใช้งานคนเดียวกัน แต่พฤติกรรมในการใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากเนื้อหาที่จะสื่อสาร และการบริหารจัดการโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดแล้ว ความกลมกลืนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อผลลัพธ์ของการทำโฆษณาหรือการตลาดเช่นกัน

--

--