AI กับ Robotics ความเข้าใจผิดที่หลายๆคนคิดว่ามันคือสิ่งเดียว

Tanawit Sinsukudomchai
Published in
2 min readJan 23, 2021

--

AI AI AI ในปัจจุบันมีคนกล่าวถึงเรื่องของ AI เยอะมาก แต่ยังมีหลายๆคนที่ยังสับสนระหว่าง AI กับ หุ่นยนต์ บางคนก็บอกว่า “AI คือส่วนนึงของหุ่นยนต์” แต่บางคนก็บอกว่า “หุ่นยนต์คือส่วนนึงของ AI” หรือ บางคนก็รวม 2 อย่างนี้รวมเข้าด้วยกันและบอกว่ามันคือสิ่งเดียวกันไปเลยว่า “AIนี่แหละคือหุ่นยนต์” เพราะเข้าใจว่าหลายๆคนอาจจะติดกับภาพหุ่นยนต์จากหนังภาพยนตร์ ว่าหุ่นยนต์นั้นต้องฉลาด ต้องสู้กับมนุษย์ได้ อย่างเช่น Skynet ในเรื่อง Terminator หรือ ต้องสามารถวิเคราะสถานการณ์และพูดคุยกับมนุษย์ได้เหมือนกับ R2D2 ในเรื่อง Star wars ซึ่งนั้นก็เลยทำให้หลายๆคนเข้าใจไปว่า AI กับ หุ่นยนต์นั้นเป็นสิ่งเดียวกัน

Photo by Lyman Gerona on Unsplash

วันนี้ผมเลยอยากจะนำมุมมองของผมมาอธิบายว่าจริงๆแล้วทั้ง 2 สิ่งนี้ยังมีความแตกต่างกันพอสมควร

AI กับ Robotics มันไม่ใช่สิ่งเดียวกันนะครับ !!

สิ่งแรกที่อยากให้เข้าใจคือ AI กับ Robotics ยังไม่ใช่สิ่งเดียวกันทั้งหมดถึงจะมีหลายๆส่วนที่คล้ายๆกัน ทั้ง 2 สิ่งนี้ แต่ผมของบอกว่า AI มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ หุ่นยนต์ทำงานได้ดีขึ้นมากกว่า โดย ผมจะเริ่มอธิบายแบบสั้นๆก่อนว่า

Robotics คืออะไร ? (แบบสั้นๆ)

Robotics เป็นสาขานึงที่ว่าด้วยหลักการของการนำศาสตร์ของ Mechanical , Electrical , Sofrware Engineering มาผสมผสานเข้าด้วยกันโดยมีเป้าหมายในการอออกแบบเครื่องจักรที่ทำให้สามารถช่วยงานมนุษย์ได้ หรือ ทดแทนมนุษย์ได้เลยโดยหุ่นยนต์สามารแบ่งการทำงานหลักๆเป็นลำดับขั้นได้ดังนี้

  • Full-Maunal : การบังคับโดยสั่งงานโดยคนทั้งหมด
  • Semi-Autonomous : ทำงานได้ด้วยตัวเองบางส่วนแต่ยังต้องคอยมีมนุษย์บังคับ
  • Autonomous : สามารถทำงานด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นยันจบโดยที่คนไม่ได้สั่งการ

AI คืออะไร ? (แบบสั้นๆ)

AI นั้นย่อมาจาก Artificial intelligencs หรือที่ภาษาไทยจะถูกเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งในทางการศึกษา AI จะอยู่ในส่วนนึงของสาขา Computer Science ที่ว่าด้วยเรื่องของการนำ ศาสตร์ของคณิตศาสตร์หลายๆแขนงมาทำให้ สิ่งที่ไม่มีชีวิต เช่น โปรแกรม หรือ หุ่นยนต์ มีความฉลาดเทียบเท่าหรือใกล้เคียงมนุษน์ ภาษาไทยและถูกแปลตั้งๆว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือก็คือปัญญาที่ได้ถูกสร้างขึ้นมานั้นเอง

เทคนิคของ AI ได้ถูกนำมาประยุกต์ในหลายศาสตร์ เช่น Recommendation System ของ Netfilx ที่ทำการแนะนำหนังที่คุณน่าจะถูกใจ , Language Translation ที่ใช้บน Google Translation

จะเห็นได้ว่า AI ได้เข้ามามีส่วนในหลายๆอย่างในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้เลยทำให้ในปัจจุบันหลายๆนักพัฒนาทางด้านหุ่นยนต์ได้หันมานเทคนิคทางด้าน AI มาผสามผสานเข้ากับหุ่นยนต์และทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นและยังช่วยให้ปัญหาบางส่วนของงานทาด้าน Robotics ที่ไม่สามารถแก้ไขได้มาก่อน ได้ถูกแก้ปัญหาได้ในปัจจุบันอีกด้วยโดยหุ่นยนต์ที่ถูกการเขียนโปรแกรมโดยเทคนิค AI ล้วนๆจะถูกเรียกว่า “Artificially Intelligent Robots”

ตัวอย่างหุ่นยนต์ที่เป็น AI และ Non-AI

โดยตัวอย่างที่ผมจะพูดถึงขอยกตัวอย่างเป็น Robot Arm ที่เคยเห็นกันในกาารใช้งานในอุตสาหกรรมปัจจุบัน

Photo by ThisisEngineering RAEng on Unsplash

Robot Arm ตัวที่ 1 (Non-artificially-intelligent)

Robot Arm สามารถทำงานหยิบของไปวางได้ตามที่กำนดทุกอย่างตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางแต่ไม่สารถหยิบของที่มีขนาดต่างกันได้ และ เมื่อสิ่งของมีการเปลี่ยนจุดเริ่มต้น Robot Arm ไม่สามารถรู้ตำแหน่งใหม่ของสิ่งของนั้นได้ และยังไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางการขยับได้ทันทีเมื่อมีสิ่งของมาขวางมัน โดยการแก้ไขของการทำงานหุ่นยนต์เหล่านี้จะต้องถูกแก้ไขโดยการโปรแกรมใหม่โดยมนุษย์เท่านั้น หุ่นยนต์เหล่านี้คือหุ่นยนต์ที่ไม่ได้โปรแกรมโดยมีเทคนิค AI เข้ามาช่วยหรือจะถูกเรียนว่า Non-AI Robot ในกรณีหุ่นยนต์จะทำงานแค่ซ้ำๆตามที่มนุษย์ได้โปรแกรมมาเท่านั้น

Robot Arm ตัวที่ 2 (Artificially-intelligent)

Robot Arm หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถคิดเส้นทางใหม่เป็นของตัวเองได้อัตโนมัติ สามารถรู้ว่าสิ่งของมีขนาดเท่าไหร่และอยู่จุดไหน ตรงนี้เป็นการช่วยเพิ่ม Perception ของ Robot Arm ให้มันสามารถคิดเองได้มากยิ่งขึ้นทำให้หุ่นยนต์ประเภทนี้คือหุ่นยนต์ที่ถูกนำเทคนิคของ AI เข้ามาช่วยและถูกเรียกว่า Artificially-intelligent ซึ่งในปัจจุบันเทคนิคด้าน AI ได้เข้ามามีส่วนในการทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้แบบ Autonomous เป็นอย่างมาก

ตัวอย่างหุ่นยนต์ในปัจจุบันที่นำเทคนิคด้านAIเข้ามาช่วยและทำให้หุ่นยนต์มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น

Altas

ถูกพัฒนาโดยบริษัท Boston Dynamics

PEPPER

PEEPER ถูกพัฒนาโดยบริษัท Softbank

2 ตัวอย่างที่ได้ยกตัวอย่างมามีการนำระบบ AI มาช่วยในหลายๆด้านทำให้มันสามารถทำงานที่เฉพาะตัวได้มากยิ่งขึ้นอย่างเช่นหุ่นยนต์ Pepper ก็ได้นำระบบ AI ก็ช่วยทำให้มันสามารถติดต่อ,สื่อสาร,พูดคุยกับมนุษย์ได้ โดย หุ่นยนต์ 2 ตัวนี้ยังมีเทคนนิคอีกมากมายที่ทำให้มันฉลาดและยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกเรื่อย สามารถไปติดตามได้ที่ BOSTON DYNAMICS , PEPPER

สรุป

หลังจากที่ได้กล่าวมายาวและได้ยกตัวอย่างให้ดูก็ขอสรุปได้ดังนี้ครับว่า AI ไม่ใช่ส่วนทั้งหมดของที่ Robotics มี AI นัั้นนับเป็นเพียงแค่ส่วนๆของการทำงานในหุ่นยนต์ที่ฉลาดๆ แต่ต้องยอมรับว่าการเข้ามาของ AI ส่งผลให้งานด้าน Robotics มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก และ AI ก็ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมแค่ในงานของ Robotics เท่านั้นยังมีงานอีกหลายประเภทที่ได้ระบบของ AI ไปยกระดับมาตรฐานของมันให้ดีขึ้นไปอีก เช่น งานทางด้าน Data Science

วันนี้ขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านจนจบนะครับ สามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันผ่านทาง Email ผมด้านล่างหรือพูดคุยกันทาง Comment ได้เลยครับ หวังว่าวันนี้ทุกคนที่เข้ามาอ่านจะได้อะไรไปไม่มากก็น้อยน้ะครับ อย่างน้อยผมหวังว่าทุกคนจะเริ่มแยกออกระหว่าง AI และ Robotics นะครับ

E-mail : Tanawit_7@hotmail.com

--

--