Applying AI in Factories

Ai is a job engine not a job killer.

Chanakan Limroscharoen
Super AI Engineer
2 min readJan 29, 2021

--

ในโลกยุคปัจจุบัน AI จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเรามากขึ้น โดยที่ AI จะเข้ามาช่วยทำให้กระบวนการต่างๆ สะดวก สบาย รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น การนำ AI มาใช้ในวงการแพทย์โดยการทำ Image Classification ของภาพ X-Ray เพื่อการวินิจฉัยโรค การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในระบบควบคุมยานพาหนะเพื่อทำ Self-driving car หรือ แม้กระทั่งในวงการเกมส์ ที่นำ AI มาพัฒนาและเล่นแข่งกับมนุษย์จริงได้

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า AI เข้ามามีบทบาทในหลากหลายมิติของโลกยุคปัจจุบัน ในวันนี้ผมจะมาพูดถึงการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ลดความผิดพลาดในการทำงาน พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิต

“Assembly robots that build things on their own without having to be programmed for it. Self-optimizing manufacturing lines in factories. Trains or wind turbines that request maintenance work on the basis of operating data and artificial intelligence (AI), which can predict their behavior better than the engineers who developed and built them”. Roland Busch, Siemens AG Chief Technology Officer, explains why there is no question that the ascendancy of AI will further change the world of work.

การใช้ AI ในโรงงานอุตสาหกรรม

1. การบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน

ในทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีการจัดการในด้านต้นทุนเพื่อทำรายได้และกำไรสูงสุดให้กับบริษัท ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน ฝ่ายวางแผนจำเป็นต้องบริหารจัดการเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าให้ได้ผลผลิตมากที่สุด ซึ่งโดยปกติจำเป็นต้องคำนึงถึงเวลาการเดินเครื่องและหยุดซ่อมของอุปกรณ์ในโรงงานตามวาระ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ breakdown ซึ่งจะทำให้ต้องหยุดการผลิตและจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางรายได้ที่สูงยิ่งกว่าต่อธุรกิจ

ใน Traditional methods มีการทำการบำรุงรักษา 2 แบบ คือ Corrective Maintenance ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเมื่ออุปกรณ์เกิดปัญหาแล้ว ถ้าพูดให้เห็นภาพก็เหมือนกับการซ่อมรถเมื่อยางแตกหรือแบตเตอรี่รถยนต์หมดสภาพ และ Preventive Maintenance เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เหมือนกับที่เราต้องนำรถไปเข้าศูนย์บริการตามระยะเวลาหรือระยะการเดินทาง

อีกหนึ่งเทคนิค คือ Predictive Maintenance ซึ่งเป็นการที่ตรวจวัดค่า parameters ต่างๆของอุปกรณ์ เช่น humidity, temperature, vibration, pressure, running time เป็นต้น ซึ่งค่าพวกนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์โดยคน เพื่อทำนายว่า จะมีโอกาสเกิดการ breakdown ของอุปกรณ์ในช่วงระยะเวลาไหน แต่ในปัจจุบันมีการนำ AI เข้ามาช่วยในระบบเพื่อช่วยตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์และตรวจจับความผิดปกติ จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนให้เข้าไปทำการบำรุงรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งนี่เป็นการลดโอกาสเกิดความผิดพลาดของการวิเคราะห์โดยคนและลดโอกาสการสูญเสียรายได้ของบริษัทได้อย่างสูง บริษัทชั้นนำอย่าง LG และ Siemens ได้มีการนำ AI มาใช้ในธุรกิจอุตสาหกรรมแล้วในปัจจุบัน Siemens- AI in Industry

2. การเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต

โดยปกติ โรงงานอุตสาหกรรม จะมีการควบคุมคุณภาพของสินค้าที่ออกจาก Production line ซึ่ง AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้ตามตัวอย่างดังนี้

· AI ได้ถูกนำมาใช้ควบคู่กับ กล้องคุณภาพสูงเพื่อตรวจสอบ defects ในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถทำงานได้ละเอียดและแม่นยำกว่ามนุษย์ทั่วไป

· การนำหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยที่หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้กระบวนการทำงานได้ด้วยตัวเองทั้งการถอดแบบ การประกอบ และ การตรวจสอบ

· การลดเวลาในการทำงานของการออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักรขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น วัสดุ ราคา ความเป็นไปได้และความเหมาะสมทางวิศวกรรม การนำ Machine learning เข้ามาจะช่วยในการออกแบบที่ต้องทำซ้ำเป็นจำนวนมากและใช้เวลาในการคำนวณสูงได้เป็นอย่างดี

· การนำ AI เข้าไป Monitor การทำงานทุกส่วนของกระบวนการผลิตโดยตั้งเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิตได้ เช่น ตรวจจับปริมาณไฟฟ้าและเชื้อเพลิงจากนั้น AI จะเข้าไปช่วยควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวซึ่งจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

3. การนำข้อมูลมาใช้เพื่อพัฒนาภาพรวมของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในกระบวนการผลิตของโรงงานแล้ว ยังมีการนำ AI มาเพื่อจัดการกระบวนการด้านธุรกิจอีกด้วย โดยหลักแล้วเป็นการเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนธุรกิจ มีการนำมาใช้ดังนี้ การนำ AI มาจัดการ Supply chain เพื่อออกแบบสินค้าและบริการตามความต้องการของลูกค้า, การทำ Economic Feasibility Study และ Risk Management ของการผลิตสินค้าหรือบริการชนิดใหม่ว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุนหรือมีความเสี่ยงในส่วนไหนบ้าง, การเก็บข้อมูลด้านความพึงพอใจหรือปัญหาที่พบจากลูกค้าเพื่อมาปรับปรุงกระบวนการทำงาน เช่น การส่งของล่าช้า หรือ การให้บริการติดตามหลังการขาย ซึ่งการนำ AI Chat bot มาใช้ก็จะสามารถลดปัญหาดังกล่าวได้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่ายุคของ Digital มีผู้ประกอบการจำนวนมาก ให้ความสนใจในการนำ AI เข้ามาผสมผสานกระบวนการเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีความต้องการที่จะทำ Business Transformation เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคตและจะนำไปสู่ Smart Industry ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ถ้าผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับด้าน AIจะช่วยกันเสริมสร้างคุณค่าของสินค้าหรือบริการโดยนำความสามารถของ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์และตอบโจทย์ลูกค้าในวงการอุตสาหกรรม อีกทั้งถ้าเราสามารถนำความรู้ด้าน AI มาช่วยพัฒนานวัตกรรมจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศให้พร้อมแข่งขันในระดับโลกได้ด้วย

--

--