Data Storytelling B-A-B Technique
สวัสดีครับผมนายภูษณ พัฒนุช จากโครงการ Super AI Engineer รหัส 22p26n0176 วันนี้จะมาพูดเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยเทคนิค BAB ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเทคนิคหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเล่าเรื่องเเละสื่อสารทางธุรกิจ โดย Data Storytelling นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Data Analytic ซึ่งอยู่ใน Data Science Process เหตุผลที่ผมเลือกหัวข้อนี้มาพูดเนื่องจากการทำ AI หากได้ผลลัพธ์ที่ดีเเต่ไม่มีการนำเสนอข้อมูลที่เหมาะสมก็จะเป็นการลดทอนคุณค่าของสิ่งที่เราทำลงไป
เทคนิค BAB นั้นย่อมาจาก Before-After-Bridge ในเเง่ของการเล่าเรื่องนั้นเริ่มเเรกเลยคือ Before ซึ่ง Before นั้นจะเป็นการบอกก่อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร After จะเป็นการเเสดงให้เห็นว่าเมื่อเเก้ปัญหาเเล้วจะเป็นอย่างไร ส่วน Bridge จะเป็นการเเสดงให้เห็นว่าต้องทำอย่างไรถึงจะไปถึงจุดนั้นได้หรือพูดให้ง่ายๆก็คือเป็นการบอก Solution นั่นเอง ดังนั้นเทคนิคนี้นั้นจะเป็นการบอกสถานการณ์ปัจจุบันให้ผู้ฟังได้ทราบว่าปัญหาคืออะไรเเล้วความสำคัญของปัญหาหากไม่ได้เเก้ไขจะกระทบต่อองค์กรอย่างไร เเล้วหากเเก้ปัญหาได้ดีเเล้วองค์กรจะมีการพัฒนาไปในทางใดได้บ้าง
การเล่าเรื่องด้วยข้อมูลนั้นถ้าจะทำให้มีประสิทธิภาพดีต้องใช้การนำเสนอด้วยภาพหรือการทำ Data Visualization มาช่วยให้ผู้ฟังนั้นเข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้น
ในส่วนของ Before เราสามารถนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาเเสดงให้ผู้ฟังได้เข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันหรือปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร
ส่วนของ After จะเป็นในส่วนของข้อมูล เช่น การทำการพยากรณ์ต่างๆ ธุรกิจจะมีเเนวโน้มในการเติบโตอย่างไรอาจจะมีการใช้ประโยชน์จากการทำ AI ในการทำนายผลลัพธ์ต่างๆจากส่วนนี้เเละทำการ Data Visualization มาแสดงผลให้เห็นเเนวโน้มหรือผลต่างๆได้ชัดเจน
ในส่วนสุดท้าย Bridge เราจะนำเสนอไอเดียหรือเเนวทางการเเก้ปัญหาให้ผู้ฟังเข้าใจว่าการจะย้ายจะ Before ไป After ควรจะทำอย่างไร
ตัวอย่างง่ายๆที่จะทำให้เห็นภาพของเทคนิค BAB คือมีพนักงานลาออกจำนวนมากสิ่งที่ต้องนำเสนอ คือ
Before คือตัวเลขเเนวโน้มพนักงานที่ลาออกในปัจจุบันมีเเนวโน้มลดหรือเพิ่มอย่างไรบ้าง เเละนำเสนอผลที่เกิดจากปัญหานี้ว่าส่งผลให้บริษัทไม่สามารทำยอดขายได้เนื่องจากพนักงานที่ลาออกเป็นฝ่ายขายซึ่งจะใช้ Data Visualization ในการนำเสนอ
ในส่วนต่อมา After หากเเก้ปัญหาได้จะทำให้บริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไรหรือมีประโยชน์อะไรที่ได้รับจากการเเก้ไข บ้างอาจจะใช้การคาดการณ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้โมเดล AI ทำให้ผู้บริหารเห็นประโยชน์ว่าหากเเก้ปัญหาการลาออกได้จะทำให้การขายของบริษัทมีเเนวทางที่ดีขึ้น
ส่วนสุดท้าย Bridge เป็นการนำเสนอ Solution ทางออก หรือสิ่งที่ต้องการให้ผู้บริหารตัดสินใจอาจจะเป็นเเผนหรือสวัสดิการทำให้พนักงานอยากอยู่ต่อเราอาจจะต้องนำเสนอลงรายละเอียดให้เห็นว่าทำไมพนักงานถึงลาออก อาจจะเป็นเพราะพนักงานรู้สึกไม่พอใจในสวัสดิการในปัจจุบันหรือมีความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตการงาน ซึ่งหากนี่คือปัญหาเราอาจจะนำเสนอทางออกให้ผู้บริหารโดยการบอกว่าทางออกคือสร้าง career path ให้ชัดเจนเเละมีเรื่องสวัสดิการที่อยู่กับบริษัทต่อไปอย่างไรบ้างในอนาคต
