การเดินออกจาก Comfort Zone (ของผม) : สู่การปรับตัวและเติบโต
คำว่า “Comfort Zone” แต่ละคนให้ความหมายคำๆนี้แตกต่างกันครับ สำหรับผมแล้ว Comfort Zone มันหมายถึง จุดที่เราสบาย ไม่กลัว หรือ กังวล สามารถใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆได้ ถึงจะมีบางอย่างไม่ถูกใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดต้องลงมือเปลี่ยนแปลงอะไร
การอยู่ใน Comfort Zone ที่ผ่านมาของผมคือ การทำงานเดิมๆซ้ำๆ แค่ทำตามคำสั่ง ไม่ต้องคิด แค่ทำอย่างที่เคยทำ
แต่การใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นมันเริ่มทำให้ผมหยุดคิด หยุดเติบโต เพราะถ้าผมโตขึ้นไป ถ้าตำแหน่งผมสูงขึ้น งานก็จะหนักขึ้น ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง และ Comfort Zone สุดที่รักของผมก็จะหายไป
แต่ความคิดแบบนี้แหละที่ น่ากลัว
เพราะเมื่อผมรู้ตัวอีกทีผมก็อยู่ใน Comfort Zone นี้มากว่า 10 ปีแล้ว เป็น 10 ปีที่ย้อนคิดกลับไปแล้ว รู้สึกเสียดาย ผมเริ่มถามกับตัวเองว่า
“จะอยู่แบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“เราต้องการแบบนี้จริงๆใช่ไหม”
คำตอบคือ “ไม่” ดังนั้นผมคงต้องทำอะไรซักอย่าง ผมใช้ชีวิตแบบเดิมไม่ได้ ผมต้องหาทางออกจากวงจรชีวิตแบบนี้
แต่การออกจาก ComfortZone มันไม่ใช่สิ่งที่คิดแล้วจะทำได้ง่ายๆ พอผมตัดสินใจออกจาก ComfortZone มาแล้ว สิ่งที่ผมต้องเจอคือ FearZone!!
FearZone คือจุดที่ ความคิดด้านลบและความกลัวเข้าครอบงำเรา เราจะกลัวความล้มเหลว กลัวทำไม่ได้ กลัวไปไม่รอด กลัวไปหมด อันนี้เป็นปัจจัยที่มาจากตัวเรานะ ยังไม่รวมปัจจัยภายนอกอื่นๆอีก พวก คำสบประมาทต่างๆ จากเพื่อน หรือครอบครัว มันพยายามผลักเราให้กลับไปอยู่ใน ComfortZone เมื่อเราคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร
บ่อยครั้งที่ผมพยายามออกจาก ComfortZone แต่ก็แพ้ใจตัวเอง และกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม กลับเข้า ComfortZone พร้อมกับหาเหตุผลต่างๆมาหลอกตัวเองว่า ที่เป็นอยู่ มันก็ดีอยู่แล้วล่ะ
การก้าวผ่าน FearZone มันยากนะ อยู่ที่การสู้กับใจตัวเองล้วนๆเลย แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้เราจะเข้าไปอยู่จุดใหม่ จุดที่เรียกว่า LearningZone และจากนั้นจะเป็น GrowthZone
LearningZone มันคือจุดที่เรายอมรับความกลัว เริ่มคิดหาทางแก้ปัญหา และ GrowthZone คือจุดที่เราเริ่มเติมโตขึ้นแล้ว
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ผมขอยกตัวอย่าง CaseStudy ของผมเองนะครับ
เรื่องมันยาวหน่อยนะครับ..แต่ก็เป็นเรื่องราวของผมจริงๆเลยนะ มารู้จักผมมากขึ้นกันเถอะครับ
จาก ทหาร สู่ Developer
“ผม นาย วีระพันธุ์ ไทยรัก อดีตนายสิบทหารบก ที่เคยทำงานเป็นทหาร และตัดสินใจออกจาก Comfort Zone มาทำอะไรที่แปลกใหม่ ครับ!!”
ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นทหารมาเกือบ 10 ปีครับ มีความชำนาญในงานที่ทำแต่ในช่วงปีหลังๆ ชีวิตการทำงานผมเริ่มนิ่งสนิท ผมเริ่มไม่ต้องคิด เริ่มเป็นหุ่นยนต์ ผมรับคำสั่งและทำตาม ผมเริ่มคิดอะไรหลายๆอย่างได้ช้าลง คิดเลขง่ายๆ ยังต้องเปิดแอป เครื่องคิดเลขในโทรศัพท์ หลงๆลืมๆ จากที่แต่ก่อนเคยคิดไวทำไว ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว อายุเยอะขึ้นด้วยแหละ..ไม่เถียงครับจุดนี้
และแล้ว…ผมก็รู้สึกตัว….
“แม่เจ้า! นี่สมองผมกำลังตายลงอย่างช้าๆ รึเปล่านะ ทำไมสมองมันว่างเปล่าไปหมดเลย”
ผมเริ่มรู้สึกอยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง เพื่อรักษาสมองของผมเอง อยากลองทำงานในสายอาชีพใหม่ที่มีความท้าทายและโอกาสในการเติบโตมากขึ้น
ทหารเป็นงานราชการที่มั่นคง แต่ผมคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานนี้ (ไม่ใช่ว่าอาชีพราชการไม่ดีนะคับ)
การตัดสินใจเปลี่ยนสายงานจากทหารไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผมเลย เพราะผมต้องเจอกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงหลายอย่าง
และระหว่างที่รับราชการ ผมไม่ได้ฝึกทักษะอื่นนอกจากทหารเลย นอกจากการเรียนปริญญาตรี
แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจ ออกจากราชการ มันเป็นการก้าวข้าม FearZone ครั้งแรกของผม
ผมออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมเริ่มต้นศึกษาสิ่งต่างๆที่ผมสนใจ และก็ได้เจองานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ ผมเริ่มหาข้อมูล ดูตาม Youtube และ เว็บที่เป็นคลังข้อมูลอย่าง W3School
และสิ่งที่ผมได้รู้ก็คือ “ความรู้ของผมตอนนี้และสิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้มันไม่พอจริงๆ”
ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับสายงานนี้มันมีมากมายมหาศาล มีให้เรียนรู้จากสื่อนับไม่ถ้วน มันเยอะแยะไปหมด จนผมเริ่มต้นไม่ถูก
นั่นทำให้ผมเริ่มเข้า LearningZone ผมกลับมานั่งคิดและหาข้อมูล เทียบกับสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันและผมก็ได้คำตอบที่น่าสนใจคือ การสอบเข้า คอร์สออนไลน์ Junior Software Developer #5 ของ The Generation ❤️ ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ทุนผู้ที่สนใจในสายงาน Software developer ได้เรียนรู้การพัฒนา Software และ Softskill ต่างๆในการใช้ชีวิต ถ้าคุณสอบผ่าน คุณจะได้เรียนฟรี!!(แอบโฆษณาให้โครงการสุดที่รักแบบเนียนๆ)
และผมก็จบการศึกษาจาก The Generation ครับ
ขอบคุณโครงการ และ เพื่อนๆ JSD#5 ทุกคน รวมถึง Mentor และ ทีมงานทุกท่านด้วยครับ กราบ..
เป็นโครงการที่ดีมากนะ วางระบบการเรียนการสอนมาดีระดับหนึ่งเลย แนะนำครับ
นอกจากนี้ผมยังเข้าร่วมกลุ่ม FaceBook และพยายามไปงานต่างๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญในสายงาน การพัฒนาเว็บไซต์ จัดขึ้น เพื่อเรียนรู้และหาแนวทางเพิ่มเติม
แม้ว่ามันจะยากลำบาก เหนื่อย และ ท้อ แต่ด้วยความพยายามและการไม่ล้มเลิก ผมสามารถหางานในตำแหน่ง Developer ได้สำเร็จ ผมได้นำประสบการณ์ทหารมาประยุกต์ใช้ในงานใหม่นี้ด้วย ซึ่งทำให้ผมสามารถทำงานกับเพื่อนร่วมงานได้และได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานแม้ผมจะเป็นคนที่เปลี่ยนสายงานมา และนี่แหละคือ GrowthZone ของผม
สรุป
การออกจาก Comfort Zone อาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวและยากลำบาก แต่ผลที่ได้คือการเติบโตและการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง การสร้างความมั่นใจ หรือการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต
ก้าวออกจาก Comfort Zone กันเถอะ การเปลี่ยนแปลงมันน่ากลัว แต่สวยงาม และสนุกไปกับชีวิตใหม่ของคุณ!
เชื่อเถอะครับ มันคุ้มค่าจริงๆ
รักทุกคนครับ จุ๊บๆ By ผมเอง [^u^]
