10 เหตุผลทำไม Dev และคนสาย Tech จะมีชีวิตการทำงานดีย์ๆที่ TD Tech!
สวัสดีครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ในการทำงานที่บริษัท TD Tawandang หรือจะเรียกสั้นว่า ‘TD’ เรามาดูกันว่าทำไม Dev และคนทำงานสาย Tech จะมีชีวิตการทำงานดีย์ๆ พัฒนา Product เพื่อคนไทยที่นี่กันครับ
- เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า
“โชห่วยกำลังจะตาย…”
ภารกิจของบริษัทยิ่งใหญ่และท้าทายมากๆ สิ่งที่ TD ต้องการทำคือช่วยร้านโชห่วยไทยให้อยู่รอดและแข่งขันได้ เพราะฉะนั้นงานที่ทำมี Impact ต่อสังคมไทยสูง สำหรับใครที่เพิ่งอาจจะเคยได้ยินชื่อบริษัท TD ขอเล่าให้ฟังสักนิดครับ
TD จะมีร้านชื่อ “ถูกดีมีมาตราฐาน” ที่จะเข้าไปร่วมมือกับเจ้าของร้านขายของชำหรือโชห่วยเดิม ที่ไม่ว่าร้านจะอยู่มุมไหนของประเทศก็สามารถที่จะปรับปรุงร้านให้มีระบบการจัดการที่ดีผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยครอบคลุมการจัดการตั้งแต่ต้นน้ำระบบ Supply management ไปจนปลายน้ำ POS เลย รวมไปถึงช่วยให้โชห่วยมี Data เพื่อให้ร้านพัฒนาและแข่งขันกับเจ้าตลาดได้
และที่สำคัญการที่ยกระดับร้านโชห่วยให้มีคุณภาพ ส่วนนึงก็จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนรอบๆได้อีกด้วย
2. บริษัทกำลังเติบโตแบบ 10X อย่างปีที่แล้วจำนวนสาขาโต 11 เท่า! ซึ่งปัจจุบันมีสาขาแล้วมากกว่า 2,800 สาขา ยอดขาย 461 ล้านเป็น 5,800 ล้าน! ปีนี้ตั้งเป้าว่าจะโตอีก 10 เท่า เป็น 20,000 สาขา! และในอนาคตมีโอกาสต่อยอดไป South East Asia ได้อีก ตรงนี้เป็นโอกาสสำหรับคนที่สนใจจะเติบโตไปพร้อมกัน
3. เป้าหมายฝั่ง Tech คือต้องการสร้าง “World-class Retail Platform โดยคนไทย เพื่อคนไทย” เพราะงั้น Tech stack ที่ใช้มีความ World-class ต้องเป็น Top-technology edge ที่น่าสนใจและน่าทำงานด้วย
อย่างฝั่ง Back-end ใช้เทคโนโลยีและ Architecture ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น Spring Boot (Reactor), MongoDB, ElasticSearch, Kafka, Big Query, Airflow เป็นต้น
ซึ่งที่นี่จะรันทุกอย่างในลักษณะที่เป็น Container-based และอยู่บน Cloud โดยเป็นลักษณะ Cloud-Native ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยเรื่องของการ Scale ได้ ส่วนฝั่งหน้าบ้านพวกระบบ POS ก็จะรันบนแอนดรอยด์ และใช้ Kotlin ในการพัฒนา
4. ถึงแม้ TD Tech จะเป็นบริษัทไทยแต่พวก Process การทำงานทั้งหมดเป็นมาตราฐานสากล อย่างเราใช้ Agile methodology แบบ Scrumban (เป็น Hybrid ระหว่าง Scrum + Kanban)
เรามีความเชื่อว่าคนสร้าง = คนซ่อม
Developer ควรจะต้องมี Ownership ของโค้ดตัวเอง โดยจะมีการแบ่งเวลามาซ่อมของประมาณ 10–20% นอกเหนือจากการ Release Feature ปกติ
การ Release ฟีเจอร์ของที่นี่ เรากำลังจะไปท่า Canary Release (ค่อยๆลองปล่อยฟีเจอร์ใหม่โดยอาจจะออกแค่ 10% แล้วรอให้ Stable ก่อน แล้วค่อยๆขยายๆ 30–40%) รวมไปถึงการใช้ Feature Toggles ที่สามารถเปิด/ปิด ฟีเจอร์ต่างๆได้ทันที
ส่วน Process คร่าวๆก็เริ่มตั้งแต่ Requirement จากฝั่ง Business ก็จะต้องผ่าน Product Owner กลั่นกรองออกมาเป็น Feature จากนั้นงานทั้งหมดจะผ่านทีม Architect ที่จะเป็นคนหา Solution และทำ POC ก่อน พอผ่านแล้วก็จะเข้าไปในแต่ละทีม ทำงานเป็น Sprint โดยจะมีทีม Infra และ DevOps ทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด
5. Office เพิ่งจะ Unboxing เดือนตุลาคมปี 2021 เรียกว่าใหม่สุดๆ ตั้งอยู่ที่ Sathorn Square ตึกหรูหราใจกลางเมืองย่าน Salary-man ที่เดินทางสะดวกสบายติดกับ BTS สถานีช่องนนทรี ออฟฟิศของ TD มีความ Co-working space มาก มี Facilities ต่างๆเช่นโต๊ะปิงปอง เกมส์ etc.
6. หรือถ้าใครไม่อยากเข้าออฟฟิศทุกวันเราก็สามารถทำงานแบบ Hybrid Working ได้ เช่น อาจจะเข้าออฟฟิศบางวัน อีกวันอยากจะ WFH ก็ทำได้เช่นกัน รวมไปถึงการแต่งตัวหรือเวลาเริ่มงานก็เป็นแบบ Flexible เช่นกัน
7. Level up จากการทำงานกับพี่ๆ Team lead ที่ทุกคนเคยผ่านการทำงานกับ Tech Enterprise ใหญ่ๆมาแล้วทั้งนั้นเพราะฉะนั้นเรื่อง Mindset ของพี่ๆและ Culture การทำงานที่นี้ดีมาก
Manage กันแบบ Inter แต่มีความกันเอง ดูแลกันแบบพี่น้อง ถ้าใครได้มาสัมภาษณ์จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก น่าทำงานด้วยของพี่ๆ Team lead โดยมี 2 เรื่องที่จะเน้นมากเป็นพิเศษคือ
- Freedom เราให้อิสระในการทำงานและความคิดกับทุกคน สามารถทำสิ่งที่อยากทำหรือให้ความเห็นได้เต็มที่ไม่ว่าคุณจะเด็กแค่ไหนก็ตาม แต่เรื่องอิสระก็ต้องมากับพร้อมกับ Responsibility ที่สูงขึ้นด้วย
- Feedback ในการทำงานและการพัฒนา Software แน่นอนว่าเรื่อง Feedback เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในทีมจะมีการทำเรื่องของ Code review การรีวิว Architect ต่างๆ รวมไปถึง Feedback กับ Feature ที่ทีมได้ส่งมอบด้วย
CTO และพี่ๆ Team lead เฮฮามาก มุก 5 บาท 10 บาท นี่เก็บทุกเม็ด รับรองว่ามาที่นี่ทำงานสนุกและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของพี่รุจ CTO เพิ่มเติมได้ที่นี่
8. เรื่อง Learning & Development ที่บริษัทมีพร้อมสำหรับคนที่อยากเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น Online Tutorials อย่าง Coursera, Pluralsight และ Udemy หรือ On-field training เช่น Scrum Training และยังมี Technical Knowledge Sharing จากพี่ๆน้องๆในทีมอีกด้วย
9. เงินเดือนที่นี่ Competitive! แถมสวัสดิการดีงาม ทั่วๆไปก็มาครบตั้งแต่ วันหยุด 15 วัน, Provident Fund, ค่ารักษาพยาบาล OPD/ IPD, ค่าทำฟัน
หรือถ้าเอาแบบที่ไม่มีที่ไหนแน่ๆเลยคือเรามีเบียร์จากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ขายในราคาพนักงาน ที่ Bao cafe! รวมไปถึงส่วนลดค่าอาหารและเครื่อง 20% จากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
ยังไม่พอบางครั้งเราจะได้ไปทำการเทส Alcohol Product ที่กำลังจะออกสู่ตลาดด้วย เช่น โซจู รสพีท องุ่น หรือพวกวิสกี้ เบียร์ แล้วขอ Feedback กลับไปให้กับทีมผลิต (OMG เห้ย ยังงี้ก็มีด้วย!)
แถมที่นี่ Work Hard Play Hard! ทำงานเต็มที่ตอนเล่นก็เต็มที่เช่นกัน เรามีกิจกรรม Engagement Activity ที่ HR จัดให้หลากหลายเพื่อสร้างความสุขในองค์กรแน่นตลอดปี แม้ WFH ก็ไม่มีเหงา!
10. ตอนนี้ทีม Tech มีมากกว่า 200 คนแล้ว ปีนี้ต้องการเพิ่มเป็น 400 คน! (รับอีกเท่านึง แม่เจ้า!) ซึ่งตำแหน่งหลากหลายมากตั้งแต่ Back-end, Front-end, QA, Data Science, UX/UI, Android, Product Owner และอื่นๆอีกมากมาย
อะ ถ้าใครอ่านมาถึงตรงแล้วมี Passion เดียวกันกับเรา ต้องการที่จะเติบโตในด้านความรู้และด้าน Careers แบบ 10X มาฮะ! เข้ามาดูตำแหน่งที่เปิดรับและสมัครได้ที่นี่เลยยย
