แบ่งปันสิ่งที่ได้รับจากการไปงาน Agile Thailand 2019

Sudaporn Jeab
tdg-sm
Published in
2 min readAug 5, 2019

ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Agile Thailand 2019 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2562 ซึ่งจัดที่ ธ.กรุงศรี สำนักงานใหญ่ แถวพระราม 3 (ขอบคุณพี่อ้อย Saranya kaewsa-ard ที่คอย update น้องๆว่ามีเปิดให้จองตั๋วแล้วค่าาาา )

เปิดงาน

การเปิดงานช่วงเช้าเริ่มจากพิธีกรได้เชิญผู้บริหารจากกรุงศรีมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การนำ agile มา implement ในองค์กร โดยที่รู้สึกประทับใจมากก็ตรงเรื่องของการเอา failure ในการทำงานแบบ agile ที่ได้เจอกับตัวมาแชร์ ซึ่งเรามักจะไม่ค่อยรู้หรอกว่า กว่าที่เค้าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านดราม่าอะไรกันมาบ้าง เพราะผู้คนส่วนมากมักจะเอาเรื่องที่ประสบความสำเร็จมาแชร์กันซะเป็นส่วนใหญ่ เลยทำให้เราได้กลับไปนึกภาพอดีตที่ผ่านมาว่า เออ…เราก็มีคนเจ็บเป็นเพื่อนเราเหมือนกันนะ 5555

จากนั้น ได้มีการพักเบรค และหลังจากเบรคแล้ว ทางทีมงานได้เปิดโอกาสให้คนที่เขียนหัวข้อพูดคุยใน session unconference แต่ละช่วงมา pitch หัวข้อของตัวเองอย่างสั้นๆ(มาก) และแยกย้ายไปรับประทานอาหาร และเจอให้ผู้ร่วมงานแยกย้ายไปฟัง session ที่เราสนใจตามหัวข้อดังนี้

เนื่องจากว่ามีหลายหัวข้อที่น่าสนใจมากๆ แต่ไม่สามารถแยกร่างไปฟังได้ ถ้าใครมีอะไรน่าสนใจ รบกวนมาเล่าสู่กันฟังบ้าง รออ่านอยู่นะจ๊ะ ^^

Unconference#1 : Win-Win by Chokchai Phatharamalai

พี่จั๊วะผู้เป็นเทพด้าน NVC (Non-Violent Communication) ได้แบ่งปันเรื่องของการที่จะ win-win โดยได้พูดถึงคำ 2 คำ คือ ความต้องการ และ วิธีการ และพี่จั๊วะได้ยกตัวอย่างของความต้องการและวิธีการให้ฟัง และได้ให้จับคู่ทำกิจกรรม และแชร์ให้คนอื่นฟังประมาณ 5 คู่ ซึ่งสิ่งที่ surprise มากคือ เฮ้ยยย!!!…วิธีการนี้เค้าคิดกันได้งัยนะ โคตรเจ๋งเลย!! แต่ตัวเองขอสรุปแก่นที่ตัวเองได้รับแบบสั้นๆคือ เมื่อใดที่ทีมมี conflict เกิดขึ้น ให้เราถอยหลังกลับไปดูที่ความต้องการของแต่ละคนก่อน อย่าเพิ่งไปคิดถึงวิธีการ เมื่อเราได้รู้ความต้องการของทุกคนแล้ว เราค่อยมาหาวิธีการร่วมกันซึ่งแบบนี้มันจะทำให้เรา Win-Win กันทุกฝ่าย ^^

Unconference#2 : How to get Senior Management buy-in by P’ Gorge FWD

พี่จอร์จผู้บริหารฝ่ายบุคคลของ FWD ได้มาแบ่งปันการเอาการทำงานแบบ agile มาใช้กับงาน HR ได้อย่างไรบ้าง และสิ่งที่ทาง FWD มองว่าถ้า Employee มี experience ที่ดี มันจะส่งผลให้สร้างสรรค์ผลงานออกมาทำให้ Customer มี experience ได้ ทำให้รู้สึกได้ว่าพนักงานที่นี่ต้องมีความสุขแน่ๆที่ผู้บริหารมี mindset แบบนี้ อิจฉาจริงๆ ^^

และใจความสำคัญที่ได้รับจาก session นี้คือ การที่เราจะให้คน buy-in ในการทำงานแบบ agile นั้น ให้เริ่มจากว่า เค้าจะได้อะไรจากการทำ agile ไม่ใช่ เริ่มจากว่า agile คืออะไร หรือ ประโยชน์ของ agile คืออะไร

Unconference#3 : Journey to Agile Coach by Par

ทางคุณภา Agile coach จากสยามชำนาญกิจได้มาแบ่งปันเรื่องเส้นทางการเป็น agile coach chapter 2 โดยคุณภาได้เล่าให้ฟ้งว่าได้ฝึกฝนตัวเองอย่างไรบ้างเริ่มตั้งแต่

  • Shadowing
  • Repeat and repeat
  • Sharing is learning

โดยทุกกระบวนการจะต้องมีการประเมินว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากการกระทำสิ่งเหล่านี้ เพื่อมี improvement ของตัวเอง และคุณภาได้แชร์ key success factor ของ agile coach คือ 40% agile experience+ 60% behaviour scientist

Unconference#4 : 10 Months with Tribe/Squad and What I’ve learn so far by P’ โอ โอฬาร อึงอำนวยพร

พี่โอได้มาเล่าสู่กันฟังกับการทำงานที่ site ลูกค้าแห่งหนึ่ง โดยเอา model spotify มา implement โดยเริ่มต้นจากการอธิบายว่า model spotify คืออะไร เค้าทำกันอย่างไรและ lesson learn ที่พี่โอได้คืออะไร โดยรายละเอียดสามารถไปดูได้ที่ slide ของพี่โอตาม link นี้ https://www.slideshare.net/mobile/olarn/my-experience-with-tribesquads

โดยหลักและใจความสำคัญของ session นี้คือ “Copy/paste will never work.Encourage to apply experiment & learnby yourself.”

Unconference#5 : Dealing with uncontrollable environment in Agile Transformation by P’ อู Chonlasith Jucksriporn

session นี้เข้าไม่ทันช่วงแรกจึงรอคนสรุปดีๆมาให้ดีกว่า อิอิ แต่เท่าที่เข้าไปทันคือ พี่อูให้คนในห้องช่วยกันคิดว่ามีสิ่งอะไรบ้างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งยกตัวอย่างได้เช่น เรื่องของคน, ความต้องการของตลาด, เงินทุน, เวลา, process, legal เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราสามารถอยุ่กับมันได้โดย

  • Goal มีเป้าหมายที่ชัดเจน
  • Shorter feedback loop
  • Transparency
  • Acquire support from managemnet
  • Visualization helps
  • Alignment

จบงาน

สุดท้ายนี้อยากขอบคุณทีมงานทุกคนที่เนรมิตสร้างสรรค์งานดีๆแบบนี้ หวังว่าเราจะได้มีโอกาสเข้าไปร่วมอีกในปีหน้า ^^

--

--