(รีวิว) ฝึกงานเป็น Android Developer ในระยะเวลา 3 เดือนที่ True Digital Group [TDG]

อันดับแรกคงต้องแนะนำตัวก่อนสินะคะ สวัสดีค่ะ เราชื่อแบมบี้ กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปีที่ 4 ค่ะ

ต้องสารภาพเลยว่าตอนแรกเรากลัวการฝึกงานมาก ๆ ตั้งแต่ตอนขึ้นปี 3 แรก ๆ (เพราะต้องฝึกงานหลังจบปี 3) กลัวว่าตัวเองจะหาที่ฝึกงานไม่ได้ กลัวว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายมาไม่ได้ หรือแม้กระทั่งกลัวทำให้พี่เลี้ยงต้องหนักใจในการที่ต้องดูแลเรา

...แต่ปัญหานี้ก็หมดไปเพราะว่ามีเพื่อนในสาขาเดียวกันมาฝึกงานที่เดียวกันถึง 4 คน ! เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ามีเพื่อนไปด้วยอุ่นใจที่สุดค่ะ (ฮ่า) อาจจะไม่ได้ทำให้เราหายกังวลหมดทุกเรื่องแต่ทำให้เรากล้าเผชิญความกลัวมากขึ้นแน่นอน ดังนั้นถ้าใครได้มาอ่านแล้วฝึกงานหลังจากนี้อย่าลืมหาเพื่อนไปฝึกงานที่เดียวกันนะคะ ถึงจะอยู่คนละตำแหน่งหรือคนละฝ่ายก็น่าจะอุ่นใจขึ้นแน่ ๆ 😉

วันที่สัมภาษณ์ 🎤

เพราะได้สัมภาษณ์พร้อมกันกับเพื่อนอีก 3 คนแต่เป็นคนสุดท้ายเลยทำให้พอจะคลายความกังวลได้บ้างเนื่องจากเพื่อน ๆ มาเล่าให้ฟังว่าโดนถามอะไรบ้าง พอถึงเวลาของเราก็ได้รู้ว่าเป็นการสัมภาษณ์ที่บรรยากาศสบาย ๆ อย่างที่เพื่อนบอกจริง ๆ เริ่มที่เราแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นใคร เรียนที่ไหน เคยทำงานหรือโปรเจ็คอะไรมาก่อนบ้าง และเนื่องจากเราเคยเรียนเขียนแอพลิเคชั่นมาจึงมีโปรเจ็คที่ได้ทำแอพ พี่ ๆ เลยถามเราเกี่ยวกับโปรเจ็คแอพที่เราได้ทำไป แล้วพี่ ๆ ก็จะถามเราว่ามาฝึกที่นี่อยากได้ประสบการณ์อะไรกลับไปบ้าง อยากฝึกอะไรด้านไหนหรือเปล่า การที่พี่ ๆ ชวนคุยช่วยทำให้เรารีแล็กซ์และหายเกร็งไปเลยจนจบสัมภาษณ์

การฝึกงาน 💻📱

ทุกคนที่มาฝึกงานพร้อมกันได้แยกกันไปอยู่คนละทีม ส่วนตัวเราเองได้ฝึกอยู่กับ ทีม Privilege และโชคดีที่มีเพื่อนที่รู้จักอยู่แล้วมาอยู่ในทีมด้วยอีกหนึ่งคน (แทบจะจัดโต๊ะจีนฉลองแล้วค่ะ😆) และถึงแม้ว่าเราจะได้ฝึกงานแบบ work from home แต่พี่เลี้ยงในทีมก็ดูแลและสอนงานเราอย่างดี ตอบทุกคำถามที่เราสงสัย คอยช่วยเหลือเวลาที่เราติดปัญหา และสิ่งที่ประทับใจจนอยากขอบคุณคือพี่เลี้ยงในทีมของเราใจเย็นมากเวลาที่เราขอให้ช่วยอธิบายตรงนี้ให้ฟังอีกที พี่ก็พร้อมที่จะอธิบายใหม่และยกตัวอย่างให้เห็นภาพจนเราเข้าใจจริง ๆ

การมาฝึกงานที่นี่เราได้เขียนโค้ดให้แอพพลิเคชั่น True ID จริง ๆ ทำให้เราแอบรู้สึกกังวลว่าเราจะทำได้หรือเปล่านะกับแอพพลิเคชั่นที่ใหญ่และถูกใช้จริงแบบนี้ แต่เราก็จำที่พี่ ๆ บอกได้ว่า

“ตอนเราฝึกงานอ่ะ เราทำผิดไปเถอะผิดได้อยู่แล้ว จะได้จำได้และรู้ว่าทำไมมันถึงผิด เวลาไปทำงานต่อไปจะได้ไม่ผิดตรงจุดเดิมอีก”

ด้วยคำพูดนี้ทำให้เรากล้าที่จะลงมือทำงานมากขึ้นค่ะ แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ยังผิดหรือยังพลาดอยู่แต่เราก็จำไว้เพื่อที่งานต่อไปจะได้ไม่ทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่สองอีก และเราคงจะจำไปจนถึงตอนที่ได้ทำงานจริงในอนาคตเลย

สิ่งที่ได้เข้าร่วมตอนฝึกงาน

1. Daily Scrum: หรือก็คือ Stand up meeting เป็นสิ่งที่เราต้องเข้าเป็นอย่างแรกในทุก ๆ เช้าของแต่ละวันเพื่อบอกว่าเมื่อวานเราทำอะไร วันนี้เราจะทำอะไร ติดปัญหาอะไรตรงไหนไหม อยากให้ช่วยอะไรหรือเปล่า
2. Sprint Planning & Grooming & Sprint Review: เป็นการประชุมที่เราจะได้เห็นการทำงานจริงของพี่ ๆ ในทีม ตั้งแต่การตัดสินใจเลือกงาน การวางแผน การแบ่งงาน ไปจนถึงผลลัพธ์สุดท้ายของงานที่ได้ทำไปผ่านรีวิว
3. Sprint Retrospective: เป็นการประชุมที่ทุกคนจะได้พูดคุยกันภายในทีมถึงภาพรวมการทำงานของทีมว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง พอใจกับการทำงานของตัวเองหรือยัง โดยบางครั้งจะมีกิจกรรมให้ทุกคนได้ทำเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของคนในทีม และแม้ว่าเราจะเป็นเด็กฝึกงานแต่ก็ได้มีส่วนร่วมในการประชุมนี้ด้วยเช่นกัน
4. All-team Sprint Review: เป็นการประชุมที่ทุกทีมจะมารวมตัวกันเพื่อนำเสนองานที่ทีมตัวเองได้ทำไปเพื่อให้ทีมอื่น ๆ ได้เห็นความคืบหน้างานของทีมและได้มีส่วนร่วมในการสอบถามเกี่ยวกับงานที่ทีมได้ทำไป
5. Knowledge sharing: เป็นการประชุมที่พี่ ๆ จะมาแชร์ความรู้หรือเทคนิคใหม่ ๆ ให้ทุกคนได้ฟัง ซึ่งมีหลายเรื่องที่ตัวเราเองยังก็ไม่เคยได้ยินแต่น่าสนใจมาก ๆ ในการไปศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม

ฝึกงานครั้งนี้ได้อะไรบ้าง 🎉

1. ความรับผิดชอบ เนื่องจากที่นี่เราต้องทำงานกันเป็นทีมทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบมาก ๆ กับงานที่เราได้รับมาเพื่อทำงานให้เสร็จทันเวลาไม่ให้คนอื่นในทีมต้องมาคอยเราทำให้เสร็จ
2. ความกล้าแสดงออกและการทำงานเป็นทีม จากการฝึกงานที่ผ่านมาทำให้ได้รู้ว่ายิ่งเรามีความกล้าในการถามพี่ ๆ เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้ความรู้และเทคนิคเพิ่มขึ้นเท่านั้น และยิ่งเราต้องทำงานกันเป็นทีมการสื่อสารกับคนในทีมยิ่งมีความสำคัญมาก ๆ
3. ได้เห็นถึงสายงานทางเลือกในอนาคต เนื่องจากในทีมจะมีหลายตำแหน่งทำงานร่วมกันและเราได้เห็นการทำงานของแต่ละหน้าที่อย่างชัดเจนทำให้เราสามารถดูเป็นทางเลือกในอนาคตว่าเราชอบการทำงานของตำแหน่งอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
4. การทำงานแบบ Scrum ตอนที่เรียนเราได้เรียนแค่แบบทฤษฎีว่ามันคือการทำงานแบบไหน แต่การมาฝึกงานที่นี่ทำให้เราได้เห็นการกระบวนการทำงานของมันและได้มีส่วนร่วมกับมันจริง ๆ

สุดท้ายนี้.. ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนเลยค่ะทั้งที่อยู่ทีมเดียวกันและไม่ได้อยู่ทีมเดียวกัน คนที่เคยคุยและคนที่ไม่เคยคุย พี่ ๆ คุยกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ และต้อนรับพวกเราเหล่าเด็กฝึกงานอบอุ่นมาก ๆ ทุกประสบการณ์ ความรู้ และเทคนิคที่พี่สอนมาทั้งหมดจะถูกเอาไปใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน และจากที่เคยกลัวหลายเรื่องในตอนแรกพอลองมองอีกทีตอนนี้กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วค่ะว่าเรากลัวอะไรขนาดนั้น เพราะพี่ ๆ ที่ดูแลเราอย่างดีเลยทำให้ความกลัวของเราหายไปด้วย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

ปล. ใครจะมาฝึกงานที่นี่เตรียมมุกไว้เยอะ ๆ นะคะได้ใช้แน่นอน 200% ส่วนถ้ากลัวคนอื่นไม่ขำเราก็ชิงขำก่อนเลยค่ะอย่างที่เขาบอกไว้ว่า ขำเปิดก่อนได้เปรียบ