Natthakit Saengrungrat (Ext)
te<h @TDG
Published in
2 min readSep 23, 2022

--

[Review] 4 months! as an Android Developer [Internship] at True Digital Group

สวัสดีครับ พีชนะครับ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีครับ

📝การสมัครและการสัมภาษณ์เบื้องต้น😉

แรกเริ่มรู้จักมาจากเพื่อนเลยชวนกันมาสมัครที่นี่ครับ เพราะเห็นว่าบริษัททรูดิจิทัล
เป็นบริษัทที่น่าสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดผ่านทาง Facebook Page: Ture Internship และสามารถสมัครแบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่าน google form เลย
หลังจากที่สมัครไป ก็จะมีพี่ HR ติดต่อกลับมาพร้อมกับmail📧 เพื่อนัดสัมภาษณ์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การสัมภาษณ์จึงเป็นในรูปแบบออนไลน์ด้วยเช่นกันครับ ก่อนสัมภาษณ์รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่พอได้สัมภาษณ์กับพี่ ๆ เเล้วรู้สึกว่าเป็นกันเองและพี่ ๆ ใจดีกันมาก บรรยากาศตอนสัมภาษณ์ผ่อนคลายสุด ๆ และที่สำคัญสงสัยอะไรก็สามารถถามพี่ ๆ ได้เลย คำถามในการสัมภาษณ์ก็จะประมาณว่า เราชอบทำอะไร เราเขียนภาษาอะไรได้บ้าง เข้ามาแล้วจะทำประโยชน์อะไรให้บริษัท เบื้องต้นก็ประมาณนี้เลยครับ

หลังจากสัมภาษณ์ผ่าน ตอนแรกพี่ ๆ จะให้เราเลือกทีมที่เราสนใจ ซึ่งสุดท้ายโดนหลอกครับ.. นักศึกษาฝึกงานจะถูกแยกออกไปอยู่ในแต่ละทีม ซึ่งผมได้อยู่ทีม Communicator ซึ่งเป็นทีมที่ใหญ่มาก ๆ มีทั้งในส่วนของ Android iOS เเละ
Vsim ตำเเหน่งที่ผมได้ฝึกก็คือ Android Developer ของทีม Communicator นั่นเองครับ

💁‍♂️การฝึกงาน ที่ True Digital Group💻

ต้องขอเกริ่นก่อนว่าการฝึกงานจะเป็นการฝึกแบบ WFH ตลอดระยะเวลา 4 เดือน
โดยเริ่มแรก พี่ ๆ จะเตรียมครอสออนไลน์เอาไว้ให้เราเรียน เนื่องจากเราไม่เคยเขียนภาษา Kotlin มาก่อนเลย ซึ่งครอสนี้ก็จะถือเป็นการปูพื้นฐานไปในตัวด้วยครับ สิ่งที่
พี่ ๆ ให้เรามาเรียนก็จะประกอบไปด้วย

  • Getting Started with Kotlin
  • Android Fundamentals for Basic App Development
  • Android UI Design with XML
  • Debugging and Publishing Your Android Apps

และเมื่อเรียนจบเเล้วก็จะมีพี่มาสอนงานเรา โดยของผมจะมี พี่นุ มาเป็นคนสอนงานให้ครับ ซึ่งพี่นุจะมอบ Workshop เเละให้เราไป Research ข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ใน
การฝึกงาน หลัก ๆ เลยก็คือเรื่อง MVVM เเละ Clean Architecture ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการทำงานครับ หลังจากนั้นก็จะมีนัด Meeting Working Training
กันครับ ในมีตติ้งนี้พี่นุก็จะสอนเเละอธิบายหลักการทำงานของทีมให้ฟัง ซึ่งพี่นุสอนละเอียดมาก พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เห็นภาพเลย ไม่ต้องกลัวที่จะไม่ทันเลยครับ ส่วนตัวคิดว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ

เมื่อพี่เห็นว่าเรามีความรู้ในระดับหนึ่งเเล้ว พี่ก็จะมอบหมายงานให้ลองทำดูครับ
ก่อนที่จะทำงานพี่ก็จะมาไกด์แนวทางในการทำงานก่อน ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้เลย ซึ่งจะมีการทำ features เเละการแก้ bug เวลาติดปัญหาตรงไหนก็สามารถสอบถามได้ทุกเวลา พี่เขาพร้อมซัพพอร์ตเราอยู่ตลอดเลยครับ

📓การเข้าประชุมที่เราได้มีส่วนร่วม💭

📌Daily Scrum เป็นการประชุม ผ่านทาง google meet โดยทีมเราจะเข้าประชุมเวลา 10 โมงเช้าในทุก ๆ วัน โดยหลัก ๆ เราจะต้องพูดอัพเดทกับทีมว่า เมื่อวานเราทำอะไรไปบ้าง วันนี้เราจะทำอะไรเพิ่ม และมีอุปสรรคอะไรเกี่ยวกับงานไหม ถ้ามีสามารถพูดได้เลยเเล้วทุกคนภายในทีมก็จะช่วยกันแก้ไขครับ โดยส่วนใหญ่แล้วเราต้องติดต่อกับคนในทีมอยู่เสมอ ซึ่งพี่ ๆ ในทีมทุกคนใจดีมาก

📌Backlog Grooming เป็นการประชุมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องของงานให้ตรงกัน เเละพูดคุยเกี่ยวกับ detail ของงาน ใน sprint หน้า มีการ planning poker เพื่อใส่ point ตามลำดับความสำคัญของงาน

📌All-team Sprint Review เป็นการประชุมเพื่อรีวิวงาน โดยที่ทุกทีมที่ร่วมประชุม จะมีการนำเสนองานของแต่ละทีม รวมถึงจะมีการถามคำถามเเละให้ feedback จาก ทีมอื่น ๆ ปิดท้ายด้วยการเล่นมุกหลังจากเเต่ละทีมนำเสนอเสร็จ

📌Sprint Planning เป็นการประชุมเพื่อวางแผน กำหนดความยากง่าย และลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น และกำหนดสิ่งที่จะลงมือทำให้สำเร็จจริงในแต่ละรอบของ Sprint Planning

📌Retrospective เป็นการประชุมที่ให้ทุกคนภายในทีมได้พูดถึงสิ่งที่ต้องเจอเกี่ยวกับการทำงาน รวมถึงเป้าหมายและการพัฒนาของทีม เเละการปรับเปลี่ยกระบวนการ การทำงานให้ง่ายขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อคนในทีม โดยการประชุมจะมี 2 สัปดาห์ต่อครั้ง
เเละบางครั้งมีการเล่นเกมเพื่อให้คนในทีมสร้างสัมพันธ์

📋ประสบการณ์ที่ได้รับ🌠💡

  • ความรับผิดชอบ พอได้เริ่มฝึกงานก็มีงานในส่วนที่เราต้องรับผิดชอบ ดังนั้น
    การทำงานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละวันให้เสร็จ และตรงตามเวลาก็ถือเป็นการฝึกความรับผิดชอบที่ดีอย่างหนึ่งครับ นอกจากนี้ยังได้ฝึกความตรงต่อเวลาสำหรับการเข้าประชุม Daily Scrum ทุกวันตอนเช้า เวลา 10.00 น.🕓 ถ้าสายก็จะทำให้คนอื่น ๆ เสียเวลาไปด้วยครับ
  • การทำงานเป็นทีม เนื่องจากงานที่ได้รับมอบหมายจะเป็นส่วนหนึ่งของงานในทีม ถ้าเราทำเสร็จช้าก็จะทำให้คนในทีมล่าช้าไปด้วย เวลาเรามีปัญหาเราควรรีบสื่อสารกับคนในทีมให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน งานจะได้ออกมาราบรื่นและสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีครับ
  • ความรู้จากการฝึกงาน เนื่องจากต้องทำงานร่วมกับพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญกันอย่างมาก ทำให้เราได้รับความรู้จากพี่ ๆ ในทีมไปด้วยครับ ทั้งในด้านการสื่อสารการทำงาน และการเขียนโค้ด รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหา เทียบกับก่อนฝึกแล้วมีความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
  • ความกล้าแสดงออก การฝึกงานที่นี่ต้องติดต่อสื่อสารกับคนในทีม รวมถึงอัพเดทและพรีเซนต์งานกันอยู่บ่อย ๆ ทำให้เราได้ฝึกการพูดและทำให้กล้าแสดงออกมากขึ้น จากที่ปกติผมเป็นคนที่พูดน้อย แต่พอมาฝึกงานก็จำเป็นที่จะต้องสื่อสารให้รู้เรื่องและตรงประเด็นในทุก ๆ เรื่องครับ นอกจากนี้ยังได้ฝึกสกิล
    การเล่นมุกตลกด้วยนะครับ

ก่อนที่จะจบการรีวิวนี้… ผมอยากขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนใน TDG เเละที่ขาดไม่ได้เลย คือ พี่ ๆ ในทีม communicator ที่ได้มอบความรู้เเละประสบการณ์ในการฝึกงานครั้งนี้ให้ผม มีทั้งความสนุก ความตื่นเต้น ความท้าทาย และการได้เจออะไรใหม่ ๆ ในชีวิต อีกทั้งยังได้รับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ต่อได้ในโปรเจ็คของมหาลัยอีกด้วย อยากจะบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักพี่ ๆ ทุกคนใน TDG และขอบคุณมาก ๆ เลยครับ จะเก็บเป็นความทรงจำที่ดีในชีวิตตลอดไปที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมาฝึกงานที่นี่ครับ😉👐

--

--