Re-pot Gymnocalycium เพาะเมล็ด

Anubis
TH Cacti & Succulents
2 min readJul 30, 2015

re-pot อีกครั้ง หลังเวลาผ่านไปปีกว่าๆ

pot ทางขวามือ คือเจ้า Gymno ตัวจิ๋วเมื่อห้าเดือนที่แล้ว

หลังจากแยก Gymno ด่างเพาะเมล็ดไว้เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ต้นปีที่ผ่านมา (ref: Gymnocalycium Seedling) เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนโตขึ้นเร็วมากๆ ลองเทียบดูได้จากภาพเก่านะครับ

รวมเวลาจากครั้งก่อน ผ่านไปห้าเดือน ตอนนี้ก็โตจนเบียดกันอีกแล้ว บางต้นถึงกับเบียดกันจนดินโก่งขึ้นมาถ้าส่องดูจากข้างล่างนี่รากลอยขึ้นมาจากดินกันเลยทีเดียว ในพอทนี้พอดีมีทั้งต้นด่างนิดหน่อย ด่างมาก และบางต้นก็ไม่ค่อยด่างเลย ทำให้การเจริญเติบโตค่อนข้างไปกันคนละ speed ต้นที่ไม่ค่อยด่างจะโตไวกว่าอย่างเห็นได้ชัดและต้นด่างที่โตช้ามากๆ บางต้นก็ดูจะยิ่งโดนเบียดไปกันใหญ่ ก็เลยคิดว่าถึงเวลาจับแยกอีกครั้ง จะได้แยกลงกระถางเดี่ยวของใครของมันกันไปเลย :D

พอมีด่างสวยๆ เพาะเมล็ดกับเค้าบ้าง

เริ่มจาก การเคาะเอากรวดโรยหน้าดินออกก่อนครับ จากนั้นค่อยๆ บีบหรือบิดกระถางเบาๆ แล้วใช้มือหยิบดึงออกมาทีละต้น พยายามดึงเบาๆ แล้วขยับซ้ายขวานิดหน่อย ถ้ารากยังไม่พันกันกับต้นอื่นมาก จะค่อยๆ หลุดออกมาทั้งดินแบบนี้ครับ ถ้าตึงมือไปหรือติดมาหลายต้นก็เอาขึ้นมาเป็นกอแล้วมาค่อยๆ ดึงต่อทีละต้นข้างนอกก็ได้ครับ ไม่มีสูตรตายตัว

จะได้ต้นที่มีรากและดินติดเป็นพวงๆ มาแบบนี้

หลังจากดึงจนหมดพอท ก็นำไปล้างดินออก จะใช้วิธีผ่านน้ำจากสายยางเบาๆ หรือจะใส่น้ำในขันแล้วล้างก็แล้วแต่สะดวกครับ เวลาล้างให้ใช้มือลูบๆ ดินออกจากราก อาจจะมีรากฝอยขาดติดมือไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวเราก็จะตัดแต่งรากให้สั้นอยู่ดีครับ ตรงโคนต้น รอยต่อระหว่างต้นกับรากค่อนข้างช้ำง่าย เวลาล้างดินออกต้องเบามือนิดนึง ไม่ต้องถึงกับสะอาดเอี่ยมก็ได้ครับ

จากนั้นเราจะมาทำการตัดรากฝอยทิ้งไปบ้าง โดยปกติผมชอบตัดรากแก้วไปด้วยเลย โดยตัดให้สั้นหน่อยครับเพราะรากแก้วไม่ได้ช่วยหาอาหารอยู่แล้ว ส่วนการตัดแต่งรากฝอยเดิมออก จะช่วยป้องกันให้ไม้ไม่เน่าง่ายเวลานำลงปลูกใหม่ และจะช่วยให้ไม้แตกรากฝอยใหม่เพื่อหาอาหารได้ดีมากขึ้นครับ โดยช่วงแรกๆ ไม้อาจจะชะงักไปสักช่วงหนึ่ง แต่พอฟื้นตัว รากเดิน ยอดเดินแล้วจะโตเร็วครับ

ตัดฉึ่บๆๆๆ เลย

ดูกันชัดๆ ว่าตัดไปแค่ไหน (อันนี้แล้วแต่ความชอบและความเชื่อส่วนบุคคล ฮ่าๆ)

หลังจากนั้นก็พาไปแช่น้ำผสมยากันเชื้อรา และน้ำยาเร่งรากพวก B1 จากๆ พอเป็นพิธี สัก 10–15 นาที แล้วก็จับไปวางผึ่งลมให้แผลแห้ง ผมใช้วิธีวางในตระกร้าพลาสติก ที่มีรูตะแกรง เพราะจะได้แห้งง่ายและน้ำจะได้ไม่แฉะในภาชนะ โดยวางคว่ำหัวไม้ลงไป รากจะได้ไม่ทับกันจนเป็นแผลเพิ่ม และช่วยหลีกเลี่ยงความชื้นจากด้านล่างด้วยครับ สังเกตุดูว่าแอสโตร ผมก็ตัดรากเช่นกัน เผลอๆ จะกุดกว่าด้วยซ้ำไป (พอดีเมื่อเช้าลืมถ่ายรูป ตัดจนกุดไปหมดละ = =)

หลังจากนั้นก็ตั้งทิ้งไว้ในที่โปร่ง โล่ง ลมพัดผ่านได้ และที่สำคัญฝนไม่สาด ! ถ้าอากาศแห้งๆ ลมโชยๆ ทิ้งไว้สัก 3 วันพอให้แผลแห้งแล้วก็นำลงปลูกได้ครับ ถ้าชื้นๆ เอาชัวร์หน่อยก็ทิ้งไว้สัก 5–7 วัน ตอนลงปลูกอย่าเพิ่งรดน้ำชุ่ม ให้รดน้ำแค่พอชื้นๆผิวเดินก็พอ แล้วค่อยรดชุ่มอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปสัก 1 อาทิตย์ครับ

หลังจากนั้นนำไปวางที่แสงรำไร ให้ไม้ฟื้นตัวสัก 2–3 อาทิตย์ ถ้าสังเกตุว่ายอดเริ่มเดิน หรือเริ่มมีการแทงหนามชุดใหม่ออกมาแล้ว แสดงว่ารากฝอยที่ออกมาใหม่เริ่มทำงาน และหาอาหารได้แล้ว แล้วจึงค่อยทยอยๆ เอาออกแดด หรือนำเข้าโรงเรือนปกติต่อไปครับ ทีนี้รับรองว่าจะโตไวอย่างเห็นได้ชัดเจน

--

--

Anubis
TH Cacti & Succulents

Software Engineer / Photographer / Cactus lover / etc