วิธีคว้าทุน Chevening Scholarship
เรื่องนี้เคยเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2561 แล้วครับ แต่เผยแพร่ไว้ช่องทางอื่น จึงอยากเอามาแปะไว้ใน Medium บ้าง เผื่อว่าจะมีใครสนใจ
จริง ๆ ตั้งใจอยากเขียนเล่าเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เนื่องจากผมเพิ่งฝ่าฟันมรสุมรายงานลูกที่ 1 เสร็จ จึงพอมีเวลาบ้าง อาจจะเขียนช้าไปซักหน่อย เพราะของปี 2019/2020 นั้นเปิดรับสมัครตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2561 และจะปิดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งตอนนี้ก็ยังพอเหลือเวลา สำหรับผู้ที่สมัครปีนี้ลองไปปรับใช้ได้ครับ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้สมัคร ก็นำไปใช้เป็นแนวทางในปีต่อ ๆ ไปได้
หัวข้อนี้ค้นห้าใน Google ก็เจอครับ สาเหตุที่เขียนเพราะว่ามีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนถามเกี่ยวกับทุนนี้ ว่าทำอย่างไร เทคนิคมีอะไรบ้าง ผมเลยอยากแบ่งปันวิธีการที่ผมใช้แล้วมันได้ผล หวังว่าจะได้ประโยชน์กันโดยเฉพาะผู้ที่อยากคว้าทุนนี้
อีกอย่าง ข้อมูลต่าง ๆ ผมจะอ้างทุนของปี 2018/2019 นะครับ ซึ่งเป็นทุนที่ผมกำลังใช้ศึกษาอยู่
ทุน Chevening คืออะไร
จะขออธิบายคร่าว ๆ ครับ มันคือทุนการศึกษาโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อให้มาเรียนต่อในระดับปริญญาโทในสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นหนึ่งในทุนที่มีชื่อเสียงลำดับต้น ๆ ของโลก
ข้อดีหลักเลยคือ เรียนฟรี มีค่าขนม ค่าที่พัก ค่าเดินทาง สามารถไปแต่ตัวทัวร์ยกแก๊งได้เลย (ถ้าประหยัดนะครับ) และอีกอย่างไม่มีสัญญาผูกมัด
ขั้นตอนการคัดเลือกมีไม่มากครับ ขั้นแรกคือเขียนตอบคำถาม 4 ข้อ เป็น essay สั้น ๆ ประมาณ 500 คำ จากนั้นเมื่อผ่านการคัดเลือกก็เข้ารับการสัมภาษณ์ที่สถานทูต และรอประกาศผลรอบสุดท้าย
ส่วนพวกประวัติ ความเป็นมา ข้อกำหนด รายละเอียดอื่น ๆ ไปหาเองครับ มีคนเขียนเยอะแล้ว
http://www.chevening.org/thailand/ อะ แปะลิงก์ซักหน่อย ลองเข้าไปดู
ขอข้ามไปส่วนสำคัญเลยละกันครับ
เทคนิคที่ใช้
ขั้นตอนการเขียนตอบคำถาม
คำถาม 4 ข้อที่ถามมาแบ่งหัวข้อได้ดังนี้
- คำถามเกี่ยวกับความสามารถในการเป็นผู้นำ (Leadership skills)
ข้อนี้อยากให้ไปลองคิดดูครับ ว่าผู้นำที่ดีควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ผมจะไม่บอกนะครับว่ามีอะไร เพราะแนวคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองดูครับว่าเรามีคุณสมบัตินั้นในตัวหรือเปล่า มีอย่างไร อธิบายไปครับ - คำถามเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างเครือข่าย (Networking skills)
การสร้างเครือข่ายสำคัญอย่างไร ทำอย่างไรให้เครือข่ายนั้นมั่นคง เราสามารถทำได้ไหม อย่างไร ลองไปดูครับ - คำถามเกี่ยวกับการศึกษาต่อใน UK
จะไปเรียน UK ก็ต้องมีเหตุผลที่ดีที่จะไปเรียนครับ สาเหตุที่เลือกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้เพราะอะไร สาขานี้เพราะอะไร อยากไปแค่เพราะผู้หญิงสวยกรรมการคงไม่ปลื้มเท่าไหร่ (เก็บไว้เป็นวาระซ่อนเร้นในใจพอครับ ไม่ต้องไปบอกเขา) - คำถามเกี่ยวกับแผนในอนาคต
ทุนเหมือนจะให้เปล่า แต่จริง ๆ แล้วมันไม่เปล่าหรอกครับ เขาต้องการให้เรานำความรู้ที่ได้มาสร้างประโยชน์ด้วย ดังนั้นต้องอธิบายไปครับ ว่าจะนำมันมาทำอะไร มีแผนอย่างไร ยิ่งชัดเจนยิ่งดีครับ
การจะตอบคำถามให้ดีนั้นเราต้องรู้จักจุดประสงค์ของทุนครับ ว่าทุนต้องการคนแบบไหน สำหรับทุนนี้ เป้าหมายหลักคือคนที่มีความเป็นผู้นำและมีความสามารถในการสร้างเครือข่าย ดังนั้นแสดงออกมาให้มากที่สุด และแต่ละข้อนั้นควรยกตัวอย่างของเราให้ชัดเจนครับ เพื่อให้กรรมการเห็นว่าเราทำจริง ๆ ไม่ใช่สร้างเรื่องขึ้นมา ดังนั้นประสบการณ์สำคัญมาก ทุกคนมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวอยู่แล้วครับ อยู่ที่ว่าจะแสดงออกมาได้ดีเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดว่าเราไม่มีจริง ๆ แต่ก็อยากได้ทุนนี้ ต้องใช้เวลาในการสั่งสมประสบการณ์ครับ พยายามนำตัวเองไปอยู่ในจุดที่เราสามารถพัฒนาได้ ถ้าปีนี้ยังไม่สำเร็จ ปีหน้าลองใหม่ ผู้นำที่ดีไม่ควรย้อท้อต่อความยากลำบากครับ
อย่าคิดว่าตัวเองทำอย่างไรก็คงไม่ได้ สมัครไปเถอะครับ มันไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าเราไม่สมัครผลของมันคือไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าสมัคร มันมีทั้งได้และไม่ได้ ดังนั้น สมัครไปเถอะ
ขั้นตอนการตอบสัมภาษณ์
สำหรับตัวผมเอง ผมซ้อมสัมภาษณ์ตั้งแต่วันที่ส่งใบสมัครเสร็จครับ เพราะการรับสมัครสิ้นสุดประมาณเดือนพฤศจิกายน ส่วนการสัมภาษณ์ปีผมจะมีช่วงเดือนมีนาคม (น่าจะประกาศผลรอบแรกเดือนกุมภาพันธ์นะครับ) ดังนั้นตั้งแต่ปิดรับสมัครจนถึงสัมภาษณ์ จะมีเวลาประมาณ 3 เดือน อย่าปล่อยเวลานี้ไปเปล่า ๆ ครับ สร้างทัศนคติที่ดีก่อนว่าเราต้องผ่านรอบแรก ลองวางคำถามที่คณะกรรมการอาจถามเรา จากนั้นคิดคำตอบขึ้นมา ซึ่งคำถามในการสัมภาษณ์ก็เกี่ยวกับสิ่งที่เราเขียนไปตอบคำถามในใบสมัครแหละครับ พยายามอธิบายสิ่งที่เราไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนเพิ่มลงไปด้วย ในใบสมัครมันแค่ 500 คำ แต่ช่วงสัมภาษณ์เรามีเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ดังนั้นพยายามทำให้จุดเด่นของเราที่บรรยายไปเด่นชัดยิ่งขึ้น
ท่าทางการเดิน การนั่ง วิธีการพูด การแต่งตัว ทุกอย่างมีผลหมดครับ อาจจะเล็กน้อยหากเทียบกับสิ่งที่อธิบายไปในย่อหน้าก่อน แต่การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถทำให้คณะกรรมการจดจำและประทับใจเราให้ได้ครับ
อีกนิดนึงครับ ออกเสียงชื่อทุนให้ถูกนะครับ (ชีฟ’ นิง) ไปสัมภาษณ์ออกเสียงผิดคงไม่ดีเท่าไหร่
เทคนิคอื่น ๆ
- รีบสอบเอาคะแนนภาษาอังกฤษเลยครับ เพราะเงื่อนไขของการได้ทุนนี้คือต้องได้ Unconditional offer จากทางมหาวิทยาลัยเท่านั้น ซึ่งการจะได้ Unconditional offer เราก็ต้องไปคะแนนภาษาอังกฤษที่ผ่านเกณฑ์ ใครตั้งใจว่าคะแนนไม่ต้องสูงมาก ไปเรียน Pre-sessional course เอานี่หมดสิทธิ์ครับ
พยายามสอบให้ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ให้เร็วที่สุดครับ ถ้าได้ก่อนสิ้นปีจะดีมากครับ จะได้ไม่ต้องไปกังวลทีหลัง เดี๋ยวจะอธิบายเรื่องนี้ในข้อ 2 ครับ
ถามว่าสอบอะไรดี? IELTS หรือ TOEFL? ไป UK ก็ต้อง IETLS สิ.... ไม่เสมอไปครับ ส่วนตัวผมสอบ TOEFL iBT ครับ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ทางมหาวิทยาลัยทั้งใน UK และ US เปิดรับหมดทั้ง IELTS และ TOEFL ลองเปรียบเทียบความแตกต่างว่าเราถนัดแบบไหน ก็สอบไปครับ (ผมสอบ TOEFL เพราะมันถูกกว่าครับ ไม่มีอะไร เป็นคนขี้งก) - ตอนกรอกใบสมัคร จะมีช่องให้เราเลือกมหาวิทยาลัย 3 อันดับครับ คือจะเป็น 3 สาขาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน หรือจะเป็นสาขาเดียวกันแต่ 3 มหาวิทยาลัยก็ได้ ซึ่งเราจะได้ไปเรียนก็คือใน 3 รายการนี้แหละครับ เปลี่ยนไปเอามหาวิทยาลัยหรือสาขาอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในใบสมัครไม่ได้แล้ว การเรียงลำดับแนะนำให้เอาอันที่เราอยากได้มากที่สุดไว้อันแรก ลองเรียงลำดับและหาเหตุผลให้ดีครับ เพราะกรรมการอาจถามในการสัมภาษณ์ว่าทำไมถึงเรียงแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ลำดับนี้ยังเปลี่ยนได้ครับ เพราะกรรมการจะถามเหมือนกันว่าอยากเปลี่ยนไหม ถ้าอยากแสดงความหนักแน่นก็ตอบไปเลยว่าไม่เปลี่ยน “I’ve made a decision” แบบมั่น ๆ ไปเลย (ผมเลยแนะนำให้เรียงไปเลยครับ ตอบแบบนี้เฟี้ยวกว่าเยอะ)
จากในข้อ 1 สาเหตุที่ผมแนะนำให้ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ก่อนสิ้นปี เพราะเราต้องนำไปสมัครมหาวิทยาลัยนี่แหละครับ แต่ละมหาวิทยาลัยตอบกลับมาช้าหรือเราไม่เท่ากัน อาจเป็นเดือน สองเดือน หรือสามเดือนแล้วแต่ที่ ดังนั้น ถ้าเราสามารถได้คะแนนเร็ว สมัครมหาวิทยาลัยเร็ว ก็จะได้ผลเร็วครับ
แต่หากผลออกมายังไม่ได้ Unconditional offer ก็ไม่เป็นไรครับ ทางทุนจะยังให้โอกาสเรา ทำให้มันเป็น Unconditional ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด (ปีผมรู้สึก 12 กรกฎา) ผมแนะนำให้ได้ Unconditional offer ไปเลยครับ จะได้ไม่ต้องกังวล ยอมเหนื่อยหน่อย แต่ถ้ามีความมุ่งมั่นจริง ๆ ความเหนื่อยแค่นี้มันสบายมากครับ
ทำอย่างไรถ้าได้ Unconditional offer ไม่ทันเวลา? สั้น ๆ ก็คืออดครับ ไปสมัครใหม่ปีถัดไป
สำหรับเทคนิคของผมก็มีเพียงเท่านี้ครับ ใครมีปัญหาอะไรลองสอบถามมาได้ ตอบได้จะตอบ ตอบไม่ได้ก็จะตอบ
หวังว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์นะครับ ขอบคุณครับ