เคยไหม เห็นงบกำไรขาดทุน(จากภาพข้างล่าง) แล้วงง อ่านแล้วไม่เข้าใจ ตัวเลขเต็มไปหมด ไม่รู้ต้องโฟกัสตัวไหนดี วันนี้เจ้าของบล็อกจะมาแชร์วิธีอ่านงบกำไรขาดทุนด้วยปากกา 3 สี ง่ายๆ ที่ใครเห็นแล้ว ก็ต้องเข้าใจ

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า งบกำไรขาดทุนคืออะไร?

งบกําไรขาดทุน เป็นหนึ่งในสามงบทางการเงินที่นักธุรกิจและนักลงทุนใส่ใจ การทำความเข้าใจกับงบกําไรขาดทุน ก็คือจุดเริ่มต้นของการเข้าใจวิธีบริหารธุรกิจ งบกําไรขาดทุนจะเป็นการวิเคราะห์ที่บอกว่าธุรกิจมีกำไรและโอกาสในการเติบโตมากน้อยแค่ไหน

แล้วงบกำไรขาดทุนคืออะไรหล่ะ?

งบกำไรขาดทุน คือ บัญชีที่แสดงถึงรายได้และค่าใช้จ่ายของบริษัทในระยะเวลา 1 ปีเช่น รอบปีบัญชี โดยจะแสดงรายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไรหรือขาดทุนสุทธิ ช่วยให้ผู้อ่านหรือนักลงทุนทราบว่าได้ผลกำไรหรือขาดทุนของกิจการนั้นมาจากส่วนใด

source : รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ -> งบกำไรขาดทุน

เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มอ่านงบกำไรขาดทุนกันเลยดีกว่า

ตัวอย่างข้อมูลเพื่อใช้ในการอธิบาย

ซึ่งขั้นตอนมีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1:
เริ่มจากดูรายได้ทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเราตีกรอบไว้เป็นสีน้ำเงิน เราจะเห็นได้ว่า รายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ของบริษัทนี้ มีรายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 34,844 ล้านบาท ถ้าดูแค่ตรงนี้เราจะเห็นได้ว่าบริษัทมีรายได้เข้าบริษัทเยอะมาก ซึ่งรายได้ทั้งหมดมาจากการให้บริการโทรศัพท์และบริการอื่น เช่น

• รายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(IC)
• รายได้ค่าเช่าโครงข่าย
• รายได้จากการให้บริการ

ขั้นตอนที่ 2:
หลังจากดูรายได้ทั้งหมดแล้ว ต่อไปเราจะมาดู “กำไรจากการดำเนินงาน” นั้นก็คือกรอบสีเขียวในรูปข้างล่าง ซึ่งค่านี้เป็นกำไรที่แสดงให้เห็นว่า จริงๆแล้วบริษัทได้เงินจากการทำธุรกิจมากแค่ไหน และมีมากพอสำหรับใช้จ่ายในเรื่องอื่นไหม ซึ่งมันเป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษเวลาอ่านงบกำไรขาดทุน

“ซึ่งในรูปจะเห็นได้ว่า รายได้ที่บริษัทได้รับต่อปีมีจำนวนเยอะก็จริง แต่กำไรจากการดำเนินงานกลับน้อย เนื่องจากต้นทุนการให้บริการรวม ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการค่อนข้างสูง และยังต้องหักค่าเสื่อมราคาอีกด้วย(ตัดเผื่อทางบัญชี)”

เพิ่มเติม: EBITDA ที่มีเงินจำนวน 12,219 ล้านบาท เป็นเงินสดที่บริษัทถืออยู่ ณ ตอนนั้น

หากใครมีข้อมสงสัยในเรื่อง EBITDA สามารถเข้าไปดูได้ที่ EBITDA ความหมายและการใช้งาน ได้เลย

ขั้นตอนที่ 3:
ดูจาก “กำไรสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นบริษัท” นั้นก็คือกรอบสีเขียวกรอบในรูปข้างล่าง ซึ่งค่าที่หักไปคือ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ตีกรอบสีแดงไว้

“ซึ่งในรูปจะเห็นได้ว่า กำไรสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นบริษัทขาดทุน เนื่องจากต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังคงมีรายได้(ในกรอบสีน้ำเงิน)เข้ามาอยู่ อาจเดาได้ว่าในช่วง 1 ปีนั้นอาจมีเหตุการณ์(เศรษฐกิจ)ที่ทำให้เจ้าหนี้เรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม”

ขั้นตอนที่ 4:
ดูจาก “กำไรสุทธิสำหรับปี” นั้นก็คือกรอบสีเขียวกรอบสุดท้ายในตาราง ซึ่งเป็นค่าที่ต้องหักกำไรสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจการควบคุม

ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม เกิดเมื่อบริษัทแม่เข้าไปถือหุ้นไม่ถึง 100% ส่วนที่ไม่ได้ถือหุ้นคือส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

“แต่ในตารางจะเห็นได้ว่า กำไรสุทธิสำหรับปีของไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ขาดทุน เหตุผลก็คือ 3 ส่วนที่ได้อธิบายมาก่อนหน้านี้นั้นเอง”

สรุป

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงพอที่จะเข้าใจและอ่านงบกำไรขาดทุนด้วยปากกา 3 สีกันได้บ้าง ซึ่งการอ่านงบกำไรขาดทุน จะช่วยให้ผู้อ่านรู้สภาพการเงินของบริษัทว่ามีรายได้เข้ามากแค่ไหน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่และสรุปแล้วเราได้กำไรหรือขาดทุน

และในแง่ของนักลงทุน การวิเคราะห์งบกำไรขาดทุนของกิจการนั้น ทำให้นักลงทุนเห็นภาพเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกิจการ เพื่อเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ช่วยในการประกอบการตัดสินใจลงทุน เช่น การวิเคราะห์งบกำไรขาดทุนเพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือการวิวิเคราะห์มีแนวโน้มของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ ว่าจะมีทิศทางใดในอนาคต นั่นเอง

source : บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์