คำทำนายเกี่ยวกับ COVID-19 จาก Sylvia Browne

Niran Banleurat
Knowledge Spiral
Published in
3 min readMar 29, 2020

เป็นที่ฮือฮาอย่างยิ่งเมื่อ Kim Kardashian ได้แชร์ข้อความจากหนังสือ End of Days : Preditions and Prophecies About the End of the World ที่เขียนไว้โดย Sylvia Browne ในปี 2008 โดยมี bullet หนึ่งที่เขียนไว้ได้สอดคล้องกับเหตุการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้อย่างน่าประหลาดใจ

หนังสือ End of Days และย่อหน้าที่พูดถึงโรคระบาดในปี 2020
Kim Kardashian

“In around 2020 a severe pneumonia-like illness will spread throughout the globe, attacking the lungs and the bronchial tubes and resisting all known treatments. Almost more baffling than the illness itself will be the fact that it will suddenly vanish as quickly as it arrived, attack again ten years later, and then disappear completely.”

“ประมาณปี 2020 โรคร้ายแรงที่มีลักษณะคล้ายนิวโมเนียจะแพร่กระจายไปทั่วโลก จะมีผลกระทบกับปอดและ bronchial tubes (คืออะไรไม่รู้ น่าจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งของปอด วานหมอมาขยายความ) และโรคนี้จะต่อต้านทุกการรักษาที่มีอยู่ โรคนี้จะมาแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว จะกลับมาอีกครั้งสิบปีให้หลัง และหลังจากนั้น ก็จะหายไปอย่างสิ้นเชิง”

นอกจากข้อความในหนังสือ End of Days แล้ว Sylvia Browne ก็ยังเขียนข้อความลักษณะนี้ไว้ในหนังสือ Prophecy: What the Future Holds for You เล่มที่เธอเขียนไว้ในปี 2004

ย่อหน้าที่พูดถึงโรคระบาดในปี 2020 จากหนังสืออีกเล่มหนึ่งของ Sylvia Browne

By 2020 we’ll see more people than ever wearing surgical masks and rubber gloves in public, inspired by an outbreak of a severe pneumonia-like illness that attacks both the lungs and the bronchial tubes and is ruthlessly resistant to treatment. This illness will be particularly baffling in that, after causing a winter of absolute panic, it will seem to vanish completely until ten years later, making both its source and its cure that much more mysterious.”

“ภายในปี 2020 เราจะเห็นคนมากมายสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือยางในที่สาธารณะมากกว่าที่เคยเป็น เนื่องจากการแพร่กระจายของโรคร้ายแรงที่มีลักษณะคล้ายนิวโมเนีย โรคนี้จะมีผลกระทบกับปอดและ bronchial tubes มันจะต่อต้านทุกการรักษาที่มีอยู่ มันจะมาสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนแล้วก็หายไป แต่มันจะกลับมาอีกสิบปีให้หลัง เป็นปริศนาให้คนต้องค้นหาว่ามันมาจากไหนและจะรักษามันอย่างไร”

ตอนแรกผมได้อ่านข่าวนี้ ผมรู้สึกอึ้งและต้องรีบไปค้นหาทันทีว่าป้า Sylvia Browne มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แล้วก็พบว่าแกมีตัวตนอยู่จริง โดยอาชีพของแกก็คือ Psychic แกเคยไปออกรายการทีวีหลายรายการในอดีต แต่ที่ดังที่สุดน่าจะเป็นของ Larry King ทั้งนี้ Sylvia Browne เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2013 ตั้งแต่ที่ข่าวนี้ดังขึ้นมา คนที่ออกมารับหน้าแทนก็คือลูกชายของแกที่ชื่อว่า Chris Dufresne ซึ่งก็มีอาชีพเป็น Psychic เหมือน

Larry King สัมภาษณ์ Sylvia Browne ในปี 2003

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่า Psychic กับ Fortune Teller หรือหมอดูต่างกันอย่างไร Chris ลูกชายของป้า Sylvia อธิบายไว้ในรายการทีวีรายการหนึ่งบอกว่า Psychic ไม่ดูดวงแบบหมอดู คือ ไม่ดูลายมือ ไม่มีไพ่ แต่ที่หยั่งรู้อนาคตได้ เพราะเห็นภาพหรือ vision เป็นพลังเหนือธรรมชาติแบบหนึ่ง

เรื่องการทำนายอนาคต หมอดู พยากรณ์ศาสตร์หรืออะไรเทือกนี้ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้วก็จะอินกับคำทำนายของป้าแกมาก ส่วนคนที่ไม่อินก็จะแอบคิดต่อต้าน เอาเป็นว่าความเชื่อใคร ความเชื่อมัน ถ้าเชื่อแล้วสบายใจก็เชื่อต่อไป คนที่ไม่เชื่อก็ไม่จำเป็นจะต้องไปคิดลบ หรือคิดไม่ดีกับคนที่เชื่อ

จากข่าวด้านบน ผมก็ตามไปหาหนังสือป้าแกมาอ่านต่อ ไม่ได้อ่านละเอียดนะครับ อ่านแบบข้ามๆ ก็พบว่ามันเป็นหนังสือที่อ่านสนุกเหมือนกันนะ หากไม่คิดว่ามันเป็นคำทำนาย แต่เป็นหนังสือ sci-fi เรียกได้ว่าป้าแกเป็นคนที่จินตนาการได้ล้ำลึกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การแพทย์ หรือการเมือง มีเขียนไว้หมดในหนังสือ ตัวอย่างคำทำนายมันส์ๆ คือ

  • ก่อนปี 2012 เราจะมี microchips ที่ฝังไปในสมองเพื่อปรับจูนสัญญาณสมอง และระบบประสาท รักษาโรคพาร์คินสันและอาการอัมพาต
  • ไม่เกินปี 2014 การสแกนม่านตาจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่นิยมแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการกด ATM ระบบความปลอดภัยในสนามบิน ต่างต้องใช้การสแกนม่านตาเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัย
  • ภายในปี 2015 บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลัง จะต้องมีหลังคาโซล่าร์เซล ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านจะไฮเทคยิ่ง ประกอบไปด้วยหน้าต่างที่ทำลายไม่ได้ การเปิดปิดประตูหน้าต่างทุกบ้านจะถูกควบคุมด้วยสมองกล central computer หากมีเหตุ ระบบรักษาความปลอดภัยจะส่งสัญญาณไปที่ตำรวจทันที
  • จะไม่มีคนตาบอดอีกต่อไป ภายในปี 2020 จะมีอุปกรณ์ดิจิตอลตัวเล็กๆ ที่ปลูกถ่ายเข้าไปในสมองของมนุษย์และช่วยให้เกิดการสื่อสารระหว่างตากับสมอง คนตาบอดก็จะกลับมาตาดี
  • จะมี synthetic blood หรือเลือดเทียมภายในปี 2025 เราจะมี supply ของเลือดแบบไม่ต้องพึ่งการบริจาคเลือดอีกต่อไป hooray !!
  • ระบบการศึกษาจะเปลี่ยนไปในปี 2020 เพราะครูจะได้รับเงินเดือนสูงมาก และคนก็แห่กันมาอยากเป็นครู ครูทุกคนต้องเรียน child psychology หรือจิตวิทยาเด็ก เพราะการดูแลอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของเด็ก ก็สำคัญพอๆ กับความรู้
  • ปี 2029 ขยะอวกาศจะตกลงมาสู่โลก และจะมีพายุดาวตกถล่มลงมา เกิดความเสียหายใหญ่หลวงกับมนุษยชาติ
  • ก่อนปี 2050 การเคลื่อนไหวของเปลือกโลกทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ ทวีปที่สูญหายอย่าง Atlantis และ Lemuria จะอุบัติจากใต้น้ำขึ้นมาาาาาา !!!!

ยังมีคำทำนายมันๆ จากคุณป้า Sylvia อีกเยอะ เราก็เห็นอยู่ว่าหลายเรื่องที่ป้าแกทำนายมา มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดตาม timeline ที่แกให้มา มันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ ไม่มีใครรู้ การอ่านหนังสือ End of Days ถ้าไม่คิดว่าเป็นคำทำนาย ก็จะรู้สึกมันส์มาก อย่างที่เกริ่นไปตอนต้น เหมือนกับอ่านหนังสือ sci-fi ที่พูดถึงโลกอนาคต สร้างเสริมจินตนาการดีนักแล

แต่หากมองว่าเป็นคำทำนาย ก็คงเหมือนที่หมอดูหลายๆ ท่านทำ คือ ทายไปร้อย อาจจะถูกสักหนึ่งหรือสอง แต่คนก็จะมองข้ามไอ้ที่ทายผิดไป และหยิบเอาที่ทายถูกมาขยาย ได้ credibility ไปเรียบร้อยโรงเรียน psychic

ทั้งนี้ ย้ำอีกครั้ง ผมไม่มีเจตนาลบหลู่ความเชื่อใคร แค่เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ น่าค้นคว้าเพิ่มเติม เลยไปหาข้อมูลมาเพิ่มให้ทุกท่านได้อ่าน และพิจารณากันเอาเอง ก็แค่นั้นครับ

#KnowledgeSpiral #COVID19 #Psychic #EndofDays #SylviaBrowne

--

--

Niran Banleurat
Knowledge Spiral

Business model enthusiast. Business model and customers insights workshop facilitator. Corporate entrepreneur. Business writer. Gamer. etc.