ทำอย่างไรถึงจะชนะใจคน

Niran Banleurat
Knowledge Spiral
Published in
2 min readJan 12, 2024

รวมประเด็นหลักๆ จาก How to Win Friends and Influene People

How to Win Friends and Influence People โดย Dale Carnegie เป็นหนึ่งในหนังสือคลาสสิคขึ้นหิ้ง โดยหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1936 ก็แค่ 87 ปีที่แล้วเอง หึหึ ถึงตอนนี้ขายไปแล้วกว่า 30 ล้านเล่มทั่วโลก

ถึงแม้หนังสือจะพิมพ์ออกมานานแล้ว ไม่ว่าโลกจะหมุนไปขนาดไหน แต่เนื้อหายังคงความคลาสสิค และยังกลับมาติดชาร์ตหนังสือขายดีอยู่เป็นระยะๆ เพราะหนังสือพูดถึงเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ที่ไม่ค่อยได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ How to Win Friends นี่หมายถึงเอาชนะใจเพื่อน (หรือคนอื่นๆ) นะครับ ไม่ได้หมายถึงเอาชนะคะคานกัน แบบมีผู้แพ้ ผู้ชนะ หวังว่าจะไม่มีใครเข้าใจไปแบบนั้นนะ

หนังสือมีแปลเป็นไทยมานานแล้ว ไปหาอ่านกันได้ แต่ผมขออนุญาตหยิบเอาประเด็นที่ผมชอบในหนังสือเล่มนี้มาเขียน เป็นการ refresh ตัวเองเพราะอ่านมานานแล้ว และหวังว่าจะเกิดประโยชน์กับคนอื่นๆ ครับ 🙂

  1. Give Honest and Sincere Appreciation — “ชื่นชมผู้อื่นจากใจจริง”
  2. เมื่อเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จ หรือทำงานได้ดี ก็ควรจะชื่นชม และชื่นชมออกมาจากใจจริง ไม่ใช่แค่ชมไปงั้นๆ หรือชมไปเพื่อหวังสิ่งตอบแทน ข้อนี้ถ้าทำได้ดี มันจะทำจิตใจเราสงบและเป็นสุข และที่สำคัญมันยังเป็นบุญอีกนะ ที่ช่วยให้คนที่เราชมเขารู้สึกดี สร้าง self-esteem ให้ทำเขาทำสิ่งดีๆ ต่อไป

2. Smile — “ยิ้ม”

รอยยิ้มมันเป็นประตูเปิดทางให้กับสิ่งต่างๆ คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากเรายิ้มก่อน ก็แสดงให้เห็นว่าเราเป็นมิตร ข้อนี้สำหรับคนไทยเมื่อก่อนไม่ใช่เรื่องยาก แต่พักหลังนี้ ผมสังเกตุเห็นว่า เรายิ้มกันยากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเพราะด้วยสภาวะความเครียดต่างๆ รอบตัว แต่ยังไงก็อย่าลืมระลึกถึงรอยยิ้มอันสดใสไว้เสมอๆ นะครับ

3. Remember People’s Names — “จำชื่อคนให้ได้”

ชื่อคือเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้งที่สุดที่คนๆ หนึ่งจะพึงได้ยิน การที่เราจำชื่อใครได้ ถึงแม้จะเจอะกันเพียงครั้งเดียว หรือแวบเดียว มันจะสร้างความประทับใจให้เขาเป็นอย่างมาก แสดงถึงความเอาใจใส่ของเรา ยอมรับว่าข้อนี้ผมเองก็ค่อนข้างอ่อนแอ แต่ก็พยายามหาวิธีต่างๆ มาจดจำชื่อคนให้ได้มากที่สุด ใครมีวิธีไหน มาแชร์กันได้ครับ

4. Be a Good Listener, Encourage Others to Talk About Themselves — “ฟังให้เก่ง และเปิดโอกาสให้คู่สนทนาได้เล่าเรื่องของเขาเอง”

เป็นนักฟังที่ดี พยายามกระตุ้นให้คนอื่นพูดถึงเรื่องของเขา เพราะการฟังเป็นการสร้าง trust หรือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ดีมาก การที่เราตั้งใจฟังเรื่องที่ผู้อื่นกำลังเล่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับเขา ส่วนตัวผมเชื่อว่า ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่ เราต้องยิ่งหัดฟังให้มากขึ้น และพยายามให้น้องๆ พูดให้มากกว่าเราพูด ยิ่งในสังคมแบบเอเชียมันมีวัฒนธรรมเรื่องของ seniority ที่มากกว่าตะวันตก หากผู้ใหญ่เอาแต่พูดๆๆๆ เรื่องของตัวเอง เราคงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้จากน้องๆ เป็นแน่แท้

5. Talk in Terms of Other Person’s Interests — “คุยในเรื่องที่คู่สนทนาเราสนใจ”

สังเกตให้ดีว่าคู่สนทนาเราสนใจเรื่องอะไร และพยายามชักจูงบทสนทนาไปทางนั้น ย้ำว่าต้องทำอย่างจริงใจด้วย การจะทำได้เราต้องพยายามลดอัตตาของเราลง ทำตัวเป็นฟองน้ำ เตรียมพร้อมซึมซับเรื่องดีๆ ที่ผู้อื่นกำลังจะเล่า หากเรื่องที่เขาสนใจเป็นเรื่องเดียว ก็คงจะคุยกันมันส์ แต่หากไม่ใช่ ก็ให้กลับไปข้อ 4 ไปเป็นนักฟังที่ดี

6. Don’t Criticize, Condemn and Complain — “หลีกเลี่ยงการตำหนิติเตียน วิพากษ์วิจารณ์”

ข้อนี้จริงๆ ในหนังสือน่าจะมาแรกๆ ถ้าผมจำไม่ผิด แต่ผมเลือกมาไว้ข้อหลังสุด เพราะผมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขึ้นอยู่กับบริบท แน่นอนว่ามนุษย์เราไม่ชอบให้ใครมาวิจารณ์เรา หรือมาพูดอะไรลบๆ เกี่ยวกับตัวเราอยู่แล้ว โดยเฉพาะหากเรายังไม่พร้อมจะรับคำวิจารณ์​ หรือบริบทยังไม่ได้ทำให้เราเปิดใจรับคำวิจารณ์ แต่หากว่าเราสามารถสร้างบรรยากาศให้เกิด trust ได้ และคนเชื่อว่ากำลังจะได้รับ constructive feedback ไม่ได้จ้องจะมาทำลายกัน การวิจารณ์​ การให้ความคิดเห็นกับงานที่เราทำนั้นสำคัญมาก หากเราไม่ฟังความคิดเห็นใครเลย เราก็คงเปรียบเหมือนกบในกะลาที่ยากจะมองเห็นโลกภายนอก และยากจะพัฒนาตนเองได้

หนังสือยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ อ่านได้เรื่อยๆ อ่านแล้วก็หยิบมาอ่านซ้ำได้ เป็นหนังสือสามัญประจำบ้านที่ทุกคนควรมีติดไว้ ผมไม่ได้ค่าจ้างมาเขียนเชียร์ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ 55 แต่เขียนมาเพราะผมชอบจริงๆ และคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนจริงๆ อย่าลืมว่าถึงแม้โลกทุกวันนี้จะ hi-tech ขนาดไหน แต่มนุษย์ก็คือมนุษย์วันยังค่ำ และแสวงหาความ hi-touch อยู่เสมอ

ข้อสังเกตส่วนตัว หนังสือเล่มนี้ถึงแม้จะชื่อว่าวิธีการเอาชนะใจผู้อื่น แต่ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วมันเริ่มด้วยการชนะใจตัวเองมากกว่า เอาชนะใจไม่ให้เราพล่ามแต่เรื่องของตัวเอง เอาชนะใจให้เราไม่ริษยาความสำเร็จของผู้อื่น เอาชนะความคันปากอยากจะตำหนิ วิจารณ์ นินทา ฯลฯ ของเหล่านี้ไม่ใช่จะทำกันได้เลยง่ายๆ ต้องอาศัยการฝึกฝนและสังเกตตัวเองอย่างเป็นประจำครับ

--

--

Niran Banleurat
Knowledge Spiral

Business model enthusiast. Business model and customers insights workshop facilitator. Corporate entrepreneur. Business writer. Gamer. etc.