Niran Banleurat
Knowledge Spiral
Published in
1 min readMar 1, 2020

--

สาเหตุหกประการของอาการ “หมดไฟ”

อาการหมดไฟหรือ burnout เป็นที่พูดถึงมากเมื่อปีที่ผ่านมา หลายคนเคยเป็นคนที่ active อยู่ดีๆ ก็มีอาการหมดไฟโดยไม่รู้ตัว พอเราไม่รู้สาเหตุมันก็ยากที่จะแก้ไข

Christina Maslach จาก University of California at Berkeley กับ Michael P.Leiter จาก Acadia University ได้ทำการวิจัยและพบว่าสาเหตุของอาการหมดไฟมีอยู่ 6 ประการด้วยกัน

::::

  1. Workload งานเยอะเกินไป จนไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่มีเวลาเรียกพลังกลับมา ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง กลับบ้านไปทีไร หลับผลอยคาโซฟา

2. Perceived Lack of Control ความรู้สึกว่าควบคุมชีวิตตัวเองไม่ได้ รู้สึกว่าชีวิตไร้อิสระ ประสาทจะกินต้องคอย stand by เพื่อคอยรับสายเจ้านาย ต้องคอยอ่าน Line ตลอดเวลา เพราะกลัวนายต่อว่าว่าทำไมตอบช้า หรืออยู่ดีๆ งานที่เคยทำก็หมดความสำคัญ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนก็เคยได้รับการสนับสนุนดี อยู่ดีๆ ตอนนี้ ขออะไรไปก็ไม่ได้ โดนปฏิเสธตลอด ซึ่งเราก็ไม่รู้สาเหตุชัดๆ ว่าเพราะอะไร

3. Reward รู้สึกว่าผลตอบแทนที่ได้ไม่ว่าจะเป็นตัวเงิน ความก้าวหน้า (extrinsic reward) หรือการตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิต ความรู้สึกภาคภูมิใจต่างๆ (intrinsic reward) มันไม่คุ้มค่ากับแรงและกำลังที่เราทุ่มเทลงไป

4. Community ไม่มีความสุขกับเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง เจ้านาย ไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ทำอะไรต้องคอยระวังหลังตลอดเวลา ทำอะไรพลาดมีแต่คนซ้ำ ไม่มีคนคอยประคอง

5. Fairness รู้สึกว่าเราได้รับการดูแลไม่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ ทำอะไรไปไม่เคยมีใครเห็น ไม่เคยได้เครดิต รู้สึกว่าคนอื่นว่าทำน้อยกว่าเรา แต่ทำไมมีแต่คนชื่นชน

6. Values Mismatch เราให้คุณค่ากับสิ่งหนึ่งมาก แต่ทางบริษัทกับไม่ได้คุณค่ากับสิ่งนั้น เรามีความเชื่อบางอย่างที่เป็นเหมือนเป็นเข็มทิศชีวิตของเรา แต่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญ

::::

จะเห็นได้ว่าทั้งหกอย่างนี้ ส่วนใหญ่มันเริ่มจากความรู้สึกของเรา หลายอย่างมันไม่ได้เห็นเด่นชัดเป็นรูปธรรม หลายอย่างขึ้นอยู่กับทัศนคติและการมองโลก เราควรสำรวจตัวเองว่าเราเริ่มมีอาการหมดไฟบ้างหรือยัง เริ่มเหนื่อย เริ่มไม่อยากตื่นไปทำงาน ซังกะตาย ทำงานไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายหรือเปล่า

หากเริ่มรู้สึกเช่นนี้ ลองถามตัวเองไปอีกนิดว่า จากหกข้อข้างบน เรารู้สึกว่าเราเข้าข่ายข้อไหนบ้าง ข้อไหนหนักสุด ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ปรึกษาหารือกับคนใกล้ชิดที่เราเชื่อใจ หลายๆ ครั้งความทุกข์มันเกิดจากการที่เราคิดไปเองคนเดียว หรือเราสื่อสารได้ไม่ดีพอ เราคิดอยู่ในหัว แต่ไม่มีใครรู้ ความคิดลบในหัวมันก็ยิ่งแพร่กระจาย เพราะไม่เคยได้ระบายออก

หากพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว สื่อสารอย่างเปิดอกกับคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้องแล้ว อะไรๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น ก็คงถึงเวลาที่เราต้องพิจารณาว่าเราจะทนอยู่ต่อไปหรือมองหาโอกาสใหม่ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อไป refresh ตัวเราเอง อย่าปล่อยให้อาการหมดไฟมันเรื้อรัง เพราะมันอาจจะนำไปสู่อาการซึมเศร้า และมีผลกระทบในทางลบกับคนที่อยู่รอบข้างเราได้

Reference: ข้อมูลจากบทความจาก Harvard Business Review เรื่อง “6 Causes of Burnout, and How to Avoid Them” โดย Elizabeth Grace Saunders

#KnowledgeSpiral #Burnout

--

--

Niran Banleurat
Knowledge Spiral

Business model enthusiast. Business model and customers insights workshop facilitator. Corporate entrepreneur. Business writer. Gamer. etc.