อย่าไปเปลืองหัว เปลืองใจให้กับเรื่องเล็กๆ

มีหลายเรื่องในชีวิตที่เป็นเรื่องเล็กๆ แต่เรากลับเอามันมาดราม่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่

เช่น อยู่ดีๆ ก็อาจจะมีคนมาขับรถปาดหน้าเรา เราก็โมโหโกรธา กลับเอามาคิดทั้งวัน เจอใครก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ฟัง หรือบางครั้งอาจจะเอาไปโพสท์ลง social media สุมไฟแค้นไว้ในทรวงให้มันร้อนขึ้นไปอีก

ทำไมเราไม่ปล่อยคนๆ นั้นไป? เขาอาจจะมีเหตุผลสำคัญอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องรีบขนาดต้องมาปาดหน้าคนอื่นก็เป็นได้

ในชีวิตนี้มี “เรื่องเล็กๆ” ที่อาจทำให้เราขุ่นใจอีกมากมาย มันเกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันในชีวิตของเรา เช่น การต่อแถวรอคิวอะไรสักอย่าง การที่เราได้ยินผู้คนติฉินนินทาเรา ลูกน้องทำงานไม่ถูกใจ โดนหัวหน้าตำหนิ ชวนเพื่อนไปเที่ยวแต่มันดันไม่ไป แฟนลืมล้างจาน ฯลฯ หากเราเก็บเรื่องเหล่านี้มาคิด มาทำให้เป็นเรื่องใหญ่หมด เราคงจะไม่สามารถหาความสงบสุขทางใจได้เป็นแน่แท้

จะว่าไป degree ของการมองเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีก ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตใจ ประสบการณ์ในอดีต และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เรื่องเดียวกัน เช่น โดนขับรถปาดหน้า บางคนก็ชิลๆ ไม่ซีเรียส อยากปาดก็ปาดไป เดี๋ยวผมก็ไปถึงจุดหมายอยู่ดี แต่บางคนอาจจะรู้สึกว่า เฮ้ย นี่มันเรื่องใหญ่เว้ย เสียศักดิ์ศรี มาปาดหน้าอั๊วได้ยังไง อย่างนี้ต้องตามไปปาดคืน ยอมไมไ่ด้

คนแบบไหนจะมีความสุข จะมี peace of mind มากกว่ากัน?

มันจะเป็นคุณกับตัวเรามหาศาลหากเราเรียนรุ้ที่จะปล่อยวาง ไม่ต้องไปเครียดกังวลกับสารพันร้อยล้านเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา

คนมากมายเสียเวลาไปกับ “เรื่องเล็กๆ” จนลืมมองเห็นแง่งามของชีวิต หากเราค่อยๆ เรียนรู้ที่จะปลดความกังวลในเรื่องเล็กๆ ในชีวิตออก เราน่าจะมีพลังงานเชิงบวกเหลือมากพอในการทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและคนรอบข้าง

======

บทความนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือ Don’t Sweat the Small Stuff ของ Dr. Richard Carlson ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1997 ผมจำได้ลางๆ ว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ เลยหยิบมาอ่านใหม่ เมื่อกาลเวลาผ่านไป ตัวเราเปลี่ยน ความคิดเราเปลี่ยน เรื่องราวต่างๆ ในหนังสือเล่มเก่าที่เคยอ่าน อาจเปิดมุมมองให้กับตัวเราในเวอร์ชั่นปัจจุบันก็เป็นได้

ผมหยิบบาง chapter ที่อ่านแล้วรู้สึกชอบมาแชร์ไว้ แต่คงไม่ได้แปลเป๊ะๆ นะครับ อาจจะใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง หากอยากอ่านแบบแปลเป๊ะๆ ลองไปหาหนังสือเวอร์ชั่นภาษาไทยมาอ่านกันดูนะครับ