คิดใหญ่ ทำเล็ก

We Need Sustainable Success, Not A Sloppy Lie.

Piyorot
The Way It Should Be
1 min readOct 15, 2014

--

The Way It Is

เคยสังเกตมั้ยว่าจะมีคนบางประเภทที่บ้าเห่อทฤษฎีใหม่ๆ ความจริงคือไม่มีอะไรใหม่หรอกเพียงแค่พวกเค้าคงเคยได้ยินมันมาเป็นครั้งแรก เช่น Agile Software Development, Lean Startup, Service Design Thinking, Continuous Delivery, อื่นๆอีกเพียบ … ฟังแล้วก็ออกอาการหูผึ่ง เจ๋งๆ อยากลองๆ ทำเลยๆ

ว่าแล้วก็มีบัญชาลงมาว่า “เฮ้ ต่อไปนี้ทุกทีมต้องใช้หลักการพวกนี้ในการทำงานเท่านั้นนะ” หึๆๆ ซวยกันไปทุกหมู่ทุกเหล่า ออกคำสั่งเสร็จก็นั่งจิบไวน์อยู่บนหอคอยงาช้างโดยไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนทำงานอย่างเรา อาจจะเป็นเพราะ

  1. สบายใจแล้วได้สั่ง ได้หน้าเวลาเอาไปโม้กับคนอื่นว่า “อ๋อๆ รู้จักครับ เด็กๆในทีมผมใช้อยู่ หลักการพวกนี้ ทั้งหมดเลย”
  2. ไม่ได้เข้าใจอะไรพวกนี้อย่างจริงจังเลยหมดปัญญาจะมาช่วยเหลือแนะนำเมื่อทีมงานมีคำถามหรือติดปัญหา (อนาจใจ ฮ่าๆ)

นอกจากจะไม่ช่วยส่งเสริมให้อะไรดีขึ้นแล้วบุคคลเหล่านี้คือคนที่

คิดเล็ก แต่ทำใหญ่

ซึ่งเป็นอันตรายต่อความเจริญรุ่งเรืองขององค์กรคุณ

The Way It Should Be

ถ้าคุณเป็นคนที่คิดเล็กทำใหญ่ … ขอร้อง เปลี่ยนแปลงตัวเองซะเถอะ … สิ่งที่คุณควรจะทำคือ

คิดให้ใหญ่ แต่เริ่มให้เล็ก

ตัวอย่างในชีวิตจริง: อยากทำ Continuous Delivery ในบริษัท เราต้องคิดให้ใหญ่ … เอา Best Practice มากางเลย ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่าเราจะเป็น Expert ให้ได้ ในประเทศนี้เราต้องเจ๋งสุดในเรื่อง Continuous Delivery ไม่ใช่ทำแค่เอาหน้าให้มีเรื่องไปโม้กับคนอื่น

แต่ถึงตอนเริ่มลงมือทำเราต้องทำให้เล็ก … เลือกทีม Pilot มาแค่หนึ่งทีม ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างปั้นให้ทีมนี้บรรลุเป้าหมายใหญ่ … แล้วค่อยมาคิด Scale เรื่องนี้ไปให้ทีมอื่นๆที่เหลือ

Continuous Delivery Maturity Model — Pragma.com

ตัวอย่างจาก Facebook: ทุกคนรู้ว่า Facebook กำเนิดขึ้น ในหอพักของ Mark Zuckerberg ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อปี 2004 เมื่อ Facebook เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก

  • ทำไม Mark Zuckerberg เลือกที่จะ Launch Facebook ให้แค่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเท่านั้น … จากนั้น
  • ทำไมถึงขยายไปที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และเยล เท่านั้น … จากนั้น
  • ทำไมถึงขยายต่อไปให้เฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เท่านั้น … จากนั้น
  • ถึงค่อยขยายไปทั่วโลก ผมได้ใช้ Facebook ก็ตอนปี 2009
  • ถ้ายังจำได้ … ทำไม Facebook User ถึงไม่ได้ใช้ Facebook Timeline พร้อมกันทุกคน ทำไมคนที่ New Zealand ได้ใช้ก่อนตั้งแต่ก.ย. 2011

ทุกอย่างที่เค้าทำมีเหตุผล … เพราะเค้าอยากได้ความมั่นใจก่อนว่าสิ่งที่เค้าคิด วิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่เค้ามี (“Connecting the world”) มันจะสร้างประโยชน์ได้อย่างที่เค้าคาดหวังไว้จริงๆ

จงเป็นคนที่คิดใหญ่แต่เริ่มให้เล็ก … เราต้องการความสำเร็จที่ยั่งยืนไม่ใช่การสร้างภาพลักษณ์แบบฉาบฉวย

ผมเขียนบทความนี้เพราะอยากเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตซอฟท์แวร์ให้ดีขึ้นตามความเชื่อและประสบการณ์ของผม ถ้าเพื่อนๆเชื่อในแนวทางเดียวกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือทำให้สังคมของเราดีขึ้นครับ จะแชร์บทความนี้ผ่าน Social Network หรือจะแบ่งปันเรื่องราวนี้ให้คนที่นั่งข้างๆฟังบ้างก็ได้

The Future Has Arrived — It’s Just Not Evenly Distributed Yet, William Gibson

อนาคตอยู่ตรงนี้แล้ว เรามีหน้าที่ต้องถ่ายทอดมันออกไปให้คนอื่นได้สัมผัสสิ่งดีๆร่วมกันครับ

--

--

Piyorot
The Way It Should Be

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com