Prohibition-era มนุษยชาติทำอย่างไร ในวันที่ขาดสุรา บาร์ และแอลกอฮอล์

Kim
The White Rabbit Speakeasy
2 min readMay 25, 2020

สุรา ,เหล้า ,เบียร์ ,แอลกอฮอล์, เครื่องดื่มมึนเมา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณจะเรียก สิ่งเหล่านี้ถูกตีตราว่าเป็นสิ่งของชั่วร้ายของสังคมไทยมาตลอด (แต่ก็ยังผลิตออกมาอย่างมหาศาล) และล่าสุด สุรา ก็กลายเป็นต้นเหตุของชุมนุมของผู้คนและทำให้เกิดการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐก็ได้ทำการสั่งห้ามร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายสุราในวันที่ 10–30 เมษายน 2563 ที่ผ่านมานั่นเองครับ

ในเมื่อสิ่งชั่วร้าย (ที่เขาว่ากัน) อย่าง เหล้า เบียร์ กลายเป็นสิ่งที่ห้ามซื้อขายกัน จะทำให้สังคมไทยของเราดีขึ้นได้จริงเปล่า?

จน เครียด กินเหล้า

ในประเทศสหรัฐฯอเมริกาช่วงปี 1920 ได้มีเหตุการณ์ที่คล้ายกัน เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 18 ของสหรัฐฯ ได้ทำการห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยช่วงเวลาดังกล่าวได้ถูกเรียกว่า “Prohibition Era” ยุคที่จะทำให้ เศรษฐกิจ และสังคมของอเมริกาตกต่ำลง อย่างไม่น่าเชื่อ

ภาพถ่ายทีมต่อต้านการขายแอลกอฮอล์เพราะก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว

Prohibition Era เริ่มจาก กลุ่มดรายส์ (drys) ผู้เคร่งครัดศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนต์ ได้เรียกร้องให้มีออกกฎหมายเกี่ยวกับการแบนสินค้าประเภทสุรา เนื่องจากเชื่อว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม เช่น โรคพิษสุราเรื้อรัง อาชญากรรม ความรุนแรงในครอบครัว และการทุจริตทางการเมืองในการตั้งร้านขายเหล้า ซึ่งจากเหตุผลที่พูดมา การแบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าจะเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ยล่ะ? แล้วทำไมถึงกลายเป็นเรื่องที่แย่ไปได้?

#ทีมดรายส์

เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทรุดตัวลงทันที เมื่อโรงเบียร์, โรงกลั่นเหล้า และร้านเหล้าต้องปิดตัวลง ทำให้คนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั่วประเทศต้องตกงาน อีกทั้งร้านอาหารยังขาดทุนเนื่องจากรายได้ที่มาจากการขายเครื่องดื่มมึนเมาเหล่านี้ได้หายไป

ถังเบียร์ในยุค Prohibition ขณะถูกทำลายทิ้ง

มากไปกว่านั้นรัฐบาลกลาง ต้องสูญเสียเงินถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากที่ไม่สามารถเก็บภาษีสรรพสามิตจากธุรกิจน้ำเมาได้ ในทางกลับกันต้องใช้เงินถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการแบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั่วประเทศสหรัฐฯอเมริกา

ภาพตำรวจกำลังเบียร์ทิ้งในยุค Prohibition

และในเมื่อคนมันคอแห้ง กระสัยอยากกินเหล้า คนในยุคนั้นก็หาทางออกให้กับตัวเองให้จนได้ เมื่อกฎหมายได้กล่าวแค่ว่า ห้ามขาย, ห้ามผลิต, ห้ามนำเข้าและห้ามส่งออก

แต่ไม่ได้มีข้อความไหนที่บอกไว้ว่าห้ามดื่มสุรานี่นา!!

กลุ่มผู้ดื่มออกมาประท้วงบ้าง

Bootlegging หรือการต้มเหล้าเถื่อนขายจึงเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น เช่นเดียวกับการเกิดขึ้นของ #Speakeasy หรือบาร์ลับ ที่จะรู้จักกันในแวดวงขาดื่มเท่านั้น เนื่องจากการเปิดร้านเหล้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในสมัยนั้น ซึ่งบาร์ลักษณะนี้ได้ความนิยมเป็นอย่างมาก โดยคาดว่ามี Speakeasy เกิดขึ้นถึง 100,000 ร้านในนิวยอร์ค และวัฒนธรรมบาร์ลับ Speakeasy ก็ได้สืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

เหมาโถแก้วมาต้มกลั่นกันเองเลย
บาร์ Speakeasy ในยุค Prohibition

ในเรื่องของปัญหาทางสังคมล่ะเป็นยังไงบ้าง?

Prohibition era กลายเป็นจุดกำเนิดของความรุ่งเรืองของ Ganster Mafia เมื่อเบื้องหลังของการทำเหล้าเถื่อนและบาร์ลับเหล่านี้ ล้วนเกิดจากเหล่ามาเฟียเหล่านี้ “Al Capone” หัวหน้า Gangster ที่โด่งดังแห่ง Chicago ทำเงินในช่วงนั้นได้ถึง 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเทรดเหล้าอย่างผิดกฎหมาย

ตำรวจจับแหล่งต้มเหล้าเถื่อนในยุค Prohibition
Al Capone

ในปี 1932, ประธานาธิบดี Franklin D.Roosevelt ก็ได้ยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับการแบนสุราทิ้งไปซะในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่ 21

หลังจากที่มีการยกเลิกกฎหมายดังกล่าว ท่านประธานาธิบดีก็ได้ดื่มสั่งลาให้กับ Prohibition era ด้วยค็อกเทลแก้วโปรดของเขา “Dirty Martini”

ปธน. Franklin ดื่ม Dirty Martini ดริ๊งก์โปรดหลังยกเลิกกฎหมายห้ามขายเหล้า

และแล้วยุค Prohibition Era ก็ได้สิ้นสุดลง นับเป็นเวลาเพียง 12 ปีเท่านั้นแต่ก็ทำให้เศรษฐกิจและสภาพสังคมของอเมริกาต้องทรุดตัวลงไปอย่างมาก

ในประเทศไทยของเราถึงแม้ว่าบริบทจะต่างกันกับอเมริกา แต่สิ่งที่เหมือนกันระหว่างประเทศของเรากับสหรัฐฯในปี 1920 ก็คือ การมองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสิ่งต้องห้าม และสิ่งชั่วร้ายที่ต้องกำจัดทิ้งออกไปจากสังคม

การมองแก้ปัญหาแบบกำปั้นทุบดินของรัฐบาลไทยที่หักดิบในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาสั้น ๆ จริงอยู่ที่เราอาจจะยังไม่เห็นผลเสียที่ตามมา แต่ถ้าสังคมยังมองว่า สุรา เป็นสิ่งไม่ดี และยังไม่ยอมทำความเข้าใจอย่างแท้จริงล่ะก็ ลองนึกดูสิครับว่าผลเสียที่ตามมา จะมากมายมหาศาลอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับอเมริการึเปล่า?

ตอนนี้คงได้แค่หวังว่าจะมี Speakeasy ดี ๆ ซักแห่งไว้ให้เรานั่งจิบ Negroni เข้ม ๆ แก้เครียด แล้วได้แต่หวังว่า ค็อกเทลแก้วโปรดของของใครหลาย ๆ คนจะเลิกรับบทผู้ร้ายในสังคมของเราเสียที

ติดตามบาร์ Speakeasy ในเชียงใหม่ : https://www.facebook.com/TheWhiteRabbitSpeakEasy

Reference: https://www.history.com/topics/roaring-twenties/prohibition

--

--