เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นจาก 0 ด้วยตัวเอง!!! Part -2 ตอนจบ

Supachai Chankate
こころのこえ。
3 min readDec 20, 2016

もしもし、 おげんきですか?

สวัสดีครับ สบายดีกันหรือเปล่าเอ่ย?

กลับมาต่อกันจากที่ติดค้างเอาไว้ว่ามันจะมีพวกตัวหนังสือที่เขียนไว้แล้วคนทำซับเขาไม่ได้ทำให้ อ้าวเห้ย!! ค้างเลยมันเขียนอะไรไว้ในกระดาษกัน (╯°□°)╯︵ ┻┻

พออยากอ่านออกก็ต้องไปศึกษาตัวอักษรเขากันหล่ะครับทีนี้ ผมอยากให้ทุกคนลองนึกย้อนกลับไปสมัยที่เราฝึกท่องฝึกเขียน ก.ไก่ ถึงฮ.นกฮูก แล้วก็พวกสระต่าง ๆ กันนะครับว่าตอนนั้นเรารู้สึกกันยังไง

อาจจะเรียกได้ว่าหลายคนเกลียดการเรียนภาษาไทยกันไปเลยทีเดียว ยิ่งพวกตัวอักษรที่มันมีหยักเยอะ ๆ อย่าง ฃ ฅ ฆ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ แล้วก็สระแปลก ๆ อย่าง
ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ จำกันสลับสับสนไปหมด

โอ้ย!! วิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม

จากการที่ผมไปค้นหามาทำให้รู้ว่าในภาษาญี่ปุ่น เขาใช้ตัวอักษรอยู่ 3 แบบ ห๊ะ!!! ครับใช้อยู่ที่หมด 3 แบบด้วยกัน โดยมีชื่อเรียกดังนี้ Hiragana, Katakana, Kanji ซึ่งแต่ละแบบก็ใช้แตกต่างกันไปครับโดยผมจะขอสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ แบบที่ผมเข้าใจไว้เลยแล้วกันคือ

Hiragana = ตัวอักษรที่เอาไว้ใช้เขียนคำญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป
Katakana = ตัวอักษรที่เอาไว้เขียนคำในภาษาอื่น เช่นคำภาษาอังกฤษ ฯลฯ
Kanji = ตัวอักษรที่เอาไว้ใช้เพื่อบอกความหมายที่แท้จริงของคำที่เขียนถึง เพราะตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ แล้วมันคือตัวอักษรภาษาจีนแบบย่อของย่อของย่อ เลยทำให้มีข้อจำกัดเรื่องเสียง และคำที่มีอยู่น้อยมั๊ก ๆ ถ้าจะให้เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกัน การเขียนคำว่า รด ในภาษาไทย ถ้าฟังจากเสียงมันจะได้ยินแค่ รด แต่ถ้าเห็นตัวอักษร ก็จะรู้ได้ว่าหมายถึง รถ รส หรือ รด ซึ่งตัวอักษร Kanji ก็เข้ามาช่วยในเรื่องนี้

ข้อมูลตรงนี้ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ สามารถบอกเพื่อให้แก้ไขได้นะครับ ขอบคุณล่วงหน้า

ด้วยเหตุผลประที่ได้กล่าวมาข้างบนทำให้ผมแยกตัวอักษร Kanji ไว้ในระดับเลเวล High Class ตอนนี้ผมเป็นแค่ Novice เลเวล 1 เพราะฉะนั้นขอแค่ 2 แบบ คือ Hiragana กับ Katakana ก่อนแล้วกัน

ตายแล้วแค่ท่องและเขียน ก.ไก่ ถึงฮ.นกฮูก แบบเดียวยังงงจะแย่นี่ต้องทำ 2แบบเลยจะไหวไหมเนี่ย แน่นอนครับความอยากรู้อยากเห็น + พลังความน่ารักของนางเอก
ยากกว่านี้ก็ทำได้ มาเลยข้าพร้อมแล้ว!!!!

เอิ่ม... ไม่เรียนแล้วได้ไหม มีปุ่มยอมแพ้ให้กดไหมครับ?

โอ้แม่เจ้า!!! แค่ ก.ไก่ ถึงฮ.นกฮูก 44 ตัวยังท่องกัน ร้องห่มร้องไห้ นี่พี่มาเป็นร้อย ๆ ตัวเลยเรอะ ต้มกินกี่วันถึงจะจำได้หมดกันนะ หลังจากเห็นความเยอะของมันแล้วผมก็เลยลองไปหาข้อมูลของตัวอักษร Kanji ต่อ พบว่ายังมีอีกหลายพันตัวรอผมอยู่ ตอนนั้นอารมณ์ก็ประมาณภาพข้างล่างนี้เลยครับ

คุณพระเพื่อที่จะดูซีรีย์ให้รู้เรื่องโดยไม่ต้องรอซับมันยากลำบากขนาดนี้เลยเรอะ T^T

หลังจากงอแงอยู่พักนึงด้วยพลังความน่ารักของนางเอกทำให้พลังใจ + 100

สู้ สู้ สู้ \(^人^)/

สู้โว้ย!!! หลังจากเติมพลังใจเสร็จก็เริ่มใช้สายตาลองเพ่งดูแล้วก็ได้พบรูปแบบของตัวอักษรดังนี้

ดูน้อยและมีกำลังใจอ่านขึ้นมาเยอะเลย เยส!!!

จะเห็นว่ามันมีตัวอักษรที่แต่งแต่งกันอยู่ 46 ตัว ในแต่ละแบบ ที่เหลือเป็นการผสมตัวอักษร เพื่อเอาเสียงที่มีสระ(เอียว, เอีย, อิว)แล้วก็ตัวอักษรที่ผมเรียกของผมเองว่า
“ตัวอักษรคีย์ดำ” ถ้ารู้จักเปียโนก็คงเข้าใจกันแหละนะครับ

ผมใช้เวลาในการจำ และเขียนตัวอักษร Hiragana ทั้งหมด 46 ตัว แบบเรียงลำดับได้ภายในเวลา 2 วัน โอ้มันช่างง่ายดายอะไรปานนี้ เพราะหลังจากที่ ผมจำทั้ง 46 ตัวได้แล้ว ตัวอักษรที่ผมเรียกว่าตัวคีย์ดำ มันก็จำได้โดยอัตโนมัติไม่ต้องใช้เวลาเลย ส่วนตัวที่ผสมคำให้ได้คำที่มีเสียงสระ(เอียว, เอีย, อิว)ผมก็จำแค่ว่ามันมาจากเสียง อิ ของแต่ละตัว + ด้วยตัวอักษร ยะ ยุ โยะ แค่นี้ เพียง 2 วันก็จำได้ทั้งตารางแล้ว Ez 555+

หลังจากย่ามใจผมก็เดินทางต่อไปที่ตัวอักษร Katakana แต่ว่าเหตุการณ์มันกลับไม่ง่ายดายเหมือนเดิมซะแล้ว ตัวอักษร Katakana สำหรับผมมันจำยาก จำเย็น ผมเขียนแล้วเขียนอีกก็จำหน้าตามันไม่ได้สักที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ยทั้งที่ก็มีตัวอักษรเท่ากับ แบบ Hiragana แต่ไหงมันจำไม่ได้สักที ทั้งที่ก็ใช้วิธีการจำแบบเดียวกันก็คือการออกเสียง แล้วเขียนตามที่ปากบอกเรียงตามลำดับ ผมใช้เวลากับการจดจำตัวอักษร Katakana ทั้ง 46 ตัวอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ (ผมไม่ได้นั่งเขียนทั้งวันหรอกนะ)ในที่สุดก็สามารถจำทั้ง 46 ตัวได้ และตัวอักษรที่เหลือทั้งแบบคีย์ดำ หรือแบบผสมเอาเสียงสระ มันก็จำได้เองแบบชุดก่อน เยส!! สำเร็จ \^O^/

จำได้แล้วโว้ย!!!!

ไหนลองทดสอบหน่อยซิว่าจะอ่านได้บ้างไหม

เห้ยอ่านได้เกือบหมดเลยเว้ยเห้ย แจ๋ว!!

ผลคืออ่านได้เว้ยเห้ย!!! ถึงได้ไม่หมดแล้วก็ไม่เข้าใจความหมายมันก็เถอะ พอมาถึงจุดนี้ผมเริ่มหาเว็บที่มีการสอนการออกเสียง หรือสอนประโยคที่พูดบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันแล้วก็พวกโครงสร้างประโยค คำช่วย คำเชื่อม เพื่อลองแต่งประโยคดู

ถึงแม้จะยังไม่ได้เข้าใจอะไรมากนักแต่อย่างน้อยตอนนี้ตัวผมเองก็ก้าวมาจากจุดที่เห็นตัวอักษรญี่ปุ่นแล้วงงเป็นไก่ตาแตก มาเป็นพออ่าน พูด และเขียนประโยคง่าย ๆ หรือที่เห็นบ่อย ๆ ได้บ้างแล้ว นี่ยังเหลือโลกของตัว Kanji ที่ผมต้องไปศึกษาเพิ่มเติมอีกเยอะแยะมากมาย…

และนี่ก็คือเรื่องราวการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองของผม
และผมก็มีเว็บไซด์ดี ๆ มานำเสนอ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกันแต่อย่างใดแต่เห็นว่าดีก็เลยบอกต่อกันเป็นเว็บไซด์เรียนบทสนทนา

และก็ยังมีแอพที่ผมใช้ในการทดสอบความจำของตัวอักษร และเรียน Kanji เพิ่มเติม ตัวแอพจะฟรีบางหัวข้อ ถ้าจะปลดล็อคทุกฟังก์ชันก็จ่ายเขาเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

ถ้าหากมีข้อมูลผิดพลาดตรงส่วนไหนผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งด้วยนะครับ

บทความหน้าผมจะนำเรื่องราวอะไรมาฝากกันอีกก็รอติดตามกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ขอตัวไปดูซีรีย์ก่อน

แล้วพบกันใหม่ครับ. ^人^

また会いましょう。^人^

--

--