เพิ่ม Productive ในการ Coding ด้วยการ Drinking BEER!

สงสัยไหม.. ทำไม Programmer ชอบดื่มเบียร์ ?

thip
thipwriteblog
2 min readJan 30, 2020

--

มีใครเคยสงสัยไหมว่า..

ทำไม Programmer ชอบดื่มเบียร์ ?

บางคนอาจจะแย้ง.. เฮ้ย ไม่จริงงง ไม่เกี่ยววว แต่ที่แน่ๆต้องมีคนที่คิดเหมือนเรา.. เออ จริง ทำไมนะ !?

นั่นน่ะซี๊ ทำไมน๊าาา คือเราก็เป็นโปรแกรมเมอร์นะ แต่เราเป็นสปีชีส์ที่ไม่เคยจิบเบียร์เวลาเขียนโค้ด เพราะคิดเองว่า เบียร์มันจะทำให้เรามีฟีลลิ่งแบบเบลอๆ เผลอๆ ชิลๆ รีแลกซ์ๆ สมองทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งมันน่าจะขัดกับฟีลลิ่งในโหมด Working Time

แต่ที่สงสัยจริงจังจนถึงขั้นนั่งหา ก็เพราะเห็นหลายคนรอบๆตัวที่เป็นสาย Dev นี่ กินบ่อยยย กินเก่งงง บางคนที่เป็น role อื่นๆในสาย IT อาจจะเถียงว่า ไม่ใช่เฉพาะเดฟหรอก Manager / BA / SA / Tech Lead / Team Lead / Dev Lead ยาวววไปยัน Tester!! (รวมๆก็ทั้ง Org Chart) เอ่อ…. อันนี้เราไม่เถียง แต่เราขอ scope base on ใกล้ๆตัวว่า อัยที่กินเยอะสุดก็พวก DEV นี่แหล่ะค่ะ!!!

แล้วลองสังเกตนะ เวลาไป join งานอีเวนต์ที่เป็น Tech หรือแนวๆ Startup อะไรอย่างงี้ ต้องมี Beer Free! ทุกที่ คือ เรียกแขกดีกว่าพิซซ่าฟรีสะอีก หาไปหามา ปรากฏว่าไปเจอ ‘ทฤษฎี Ballmer Peak’ (( จริงจังป๊ะร่ะ ))

คำเตือน : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

Ballmer Peak Theory

เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยเรื่อง Drinking & Coding และที่พีคสมชื่อก็คือ มันดันไปเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ Steve Ballmer อดีต CEO ของ Microsoft ที่บอกว่า

การดื่มแอลกอฮอล์

ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการคิด และการเรียนรู้

(Cognitive Ability)

โดยมีการอ้างอิงถึงกรณีศึกษาของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ที่ทำการทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ (Creative Problem Solving Ability) ด้วยการทดลองกับผู้ชายสองกลุ่ม กลุ่มแรกดื่ม Vodka Cranberry ส่วนอีกกลุ่มไม่ดื่ม กินแค่ขนม Snack กรุบกริบ จากนั้นก็ให้ทำแบบทดสอบเล่นเกมส์ตอบคำถามฝึกสมองลองปัญญาแนวแก้ไขปัญหา

ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ดื่มวอดก้า (ซึ่งมีระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด 0.075) สามารถตอบคำถามได้ถูกต้องทั้งหมด 9 ข้อ ส่วนกลุ่มที่ไม่ดื่มตอบถูกเพียง 6 ข้อ ยิ่งไปกว่านั้นคือ แก๊งที่เมากรุ้มกริ่มใช้เวลาในการตอบคำถามเพียง 11.5 วินาที ส่วนแก๊งที่ไม่ดื่มเลยใช้เวลาในการคิด 15.2 วินาที

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะโต้แย้งว่า.. เอ้า! คนเราระดับสมองไม่เท่ากันก็ได้ กลุ่มขี้เมาอาจจะเก่งกว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ((ตอนแรกเราก็นึกสงสัยแบบนี้ล่ะ)) แต่เขาระบุว่า ก่อนที่จะทดลองและเริ่มดื่มแอลกอฮอล์ ได้มีการทดสอบก่อนหน้ากับทั้งสองกลุ่มในสภาพที่มีสติสัมปชัญญะครบเป็นปกติดี และผลก็คือทั้งสองกลุ่มมีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน

https://xkcd.com/323/

จากภาพนี้.. จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพในการ coding จะพุ่งปรี๊ดที่สุด ก็ตอนที่ระดับความเข้มข้นแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ 0.129%-0.138%

แต่!! เขามีหมายเหตุทิ้งท้ายไว้ว่า..

มันได้ผลเฉพาะ Creative Problem Solving (ทักษะในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์) เท่านั้นนะ , ไม่รวมถึง Working Memory (ความจำเพื่อใช้งาน)

ฟังๆดูก็น่าลองเหมือนกันนะ อาจจะ WORK ก็ด๊าย!! ถ้าไม่หลับคากระป๋องเบียร์ หรือฟุบสลบหน้าคอมฯไปสะก่อน

เขียนมาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึงร้านนึงขึ้นมาเลยอ้าาา เป็นร้านนั่งดริงค์ที่เราอยากไปมานานละ แต่ยังไม่มีโอกาส ขอป้ายยาไว้ตรงนี้ละกันนะคะ ชื่อร้าน Code Craft แค่ชื่อก็ใช่! น่าไปโดนจริงๆ อิอิ อะแปะลิงก์ให้ด้วยเลย เพราะเรารู้ว่าถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้ คุณต้องไปเสิชหาต่อแน่ๆ

นี่ไม่ได้ tie-in เลยนะ แค่ส่วนตัวรู้สึกอินกับร้านนี้ก็ตรงที่ เรารู้สึกว่าเจ้าของน่าจะเป็นคนสาย Tech IT Programmer อะไรประมาณนี้แน่ๆ เห็นวันดีคืนดีก็จะมี Tech Event ไปจัดที่นั่นด้วย อีกอย่างก็คือ คราฟท์เบียร์เยอะมากกก คือนี่เป็น Must-visit places ของเราเลยนะ

ปะ เจอกันวันศุกร์!
Friday yeah yeahhh , eiei

--

--