20 เรื่องที่ควรเรียนรู้ เมื่ออยากเริ่มต้นทำธุรกิจ STARTUP (ตอนที่ 1)
20 Topics You Need to Know When Become Start-up Founders
หากพูดถึงการเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นและลงมือทำได้ แต่สิ่งที่ยากก็คือ จะทำอย่างไรให้ธุรกิจสตาร์ทอัพมั่นคงและเติบโตไปได้เรื่อย ๆ
สิ่งที่ผู้เขียนได้เรียนรู้จากผู้ประกอบการธุรกิจ Startup หลาย ๆ ท่าน ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์เจ็บจริงล้มจริง มันทำให้ผู้เขียนสรุปได้ว่า.. สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Startup Failed หรือล้มเหลว ก็คือ .. “ความไม่รู้ ในสิ่งที่ควรรู้”
ในบทความนี้ได้รวบรวม 20 “หัวข้อ” ที่ควรเรียนรู้ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เป็นเหมือน guideline คร่าว ๆ ให้มองเห็นภาพรวมของการทำธุรกิจ Startup ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดนี้ผู้ประกอบการทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจอื่น ๆ ได้ด้วย
บทความมีทั้งหมดสองตอน โดยในตอนที่ 1 นี้จะกล่าวถึง 10 หัวข้อแรกที่ควรเรียนรู้
1. Bootstrapping
Bootstrapping คือ การจัดหาทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยตัวเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยการระดมทุนจากนักลงทุนคนอื่น ๆ อันนั้นจะเรียกว่า Venture Capital (VC) Funding
เราอยากทำธุรกิจด้วยเงินทุนแบบไหน? ใช้เงินทุนตัวเอง หรือ ระดมทุนจากนักลงทุนคนอื่น ๆ
2. Co-Founders
Co-Founders คือ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เป็นทีมเวิร์คคนสำคัญที่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันกันแบบสุด ๆ คิดให้ครบทุกด้าน อ่านเกมธุรกิจที่กำลังจะทำให้ออก เพื่อความก้าวหน้าของธุรกิจ และป้องกันปัญหาที่อาจตามมาทีหลัง ที่สำคัญก็คือ ควรมีบันทึกข้อตกลงทุกเรื่องให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร
มีหลายกรณีศึกษาที่ธุรกิจพังไม่เป็นท่า เพราะผู้ก่อตั้งมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในภายหลัง
3. Product
Product คือ ผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการ อาจจะเป็นเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรืออยู่ในรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งานได้
การคิดและออกแบบ Product เป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ จึงต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้แก้ pain point ของผู้ใช้งาน และตรงกับความต้องการของตลาด
ในหัวข้อนี้ จะประกอบไปด้วยหัวข้อย่อย ๆ หลายอย่าง เช่น
- Design
- Customer Development
- Minimum Viable Product (MVP)
- Product Development
- Product Management
- Product Market-Fit
- Product Strategy
- Product Roadmaps
- User Interview
- User Testing
ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการและเทคนิคในการคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ อย่าลืมไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันนะคะ
4. Engineering
Engineering ในธุรกิจ Start-up นิยามให้หมายถึง การออกแบบโครงสร้างของ Product และการทำงาน ในเชิงของเทคโนโลยี หรือกระบวนการทำงานที่จะใช้ร่วมกัน อย่างเช่น Tech Stack , Development Process เป็นต้น
5. Organizational Chart
Organizational Chart คือ โครงสร้างองค์กร หรืออาจจะเรียกสั้น ๆ ว่า Org Chart ก็ได้ เป็นแผนผังลำดับขั้นตำแหน่งงานและสายงานต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งบางบริษัทอาจแบ่งหน่วยงานตาม Product Based , Market Based หรือ Process Based ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของตัวธุรกิจ
ในหัวข้อนี้อาจเริ่มต้นจากการเลือกประเภทของโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราที่สุด โดยศึกษาจากลิงก์ตัวอย่างด้านล่างนี้
6. Legal
ว่ากันด้วยเรื่องข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในหัวข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร? Product ของเรามีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายอะไรบ้าง รวมไปถึงกฎหมายพื้นฐานต่าง ๆ เช่น กฎหมายการจ้างงาน เป็นต้น
ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีและละเอียดรอบคอบมาก ๆ เพราะหากเกิดปัญหาในภายหลัง นอกจากจะแก้ไขยากแล้ว ยังกระทบถึงชื่อเสียงของบริษัทอีกด้วย
โดยเฉพาะการทำธุรกิจข้ามประเทศ ควรศึกษาข้อกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ให้ดี เพราะมันจะทำให้เรามองเห็นสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของเรา ทำให้เราดำเนินธุรกิจได้ง่ายและสะดวกขึ้นได้
7. Hiring
Hiring คือ กระบวนการจ้างงาน คัดสรรบุคคลเข้ามาร่วมทีม หรือเป็นพนักงานของบริษัท สำหรับรายละเอียดย่อย ๆ ก็อย่างเช่น การกำหนดลักษณะและหน้าที่งานแต่ละตำแหน่ง หรือที่เรียกว่า Job Description (JD) , การคำนวณและกำหนดเกณฑ์ค่าตอบแทน , การหาแหล่งที่จะประกาศรับสมัครงาน , ขั้นตอน process การสัมภาษณ์ หรือมาตรฐานแบบทดสอบต่าง ๆ ที่จะใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน
8. People
ต่อเนื่องจากเรื่องการจ้างงาน ก็คือ การดูแลคน นั่นเอง ทุกบริษัทจำเป็นต้องมีความชัดเจนในการควบคุมและดูแลพนักงาน โดยจัดทำให้อยู่ในรูปแบบเอกสารหรือสัญญาจ้างให้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น
- นโยบายบริษัท
- วัฒนธรรมองค์กร
- คู่มือพนักงาน
- หนังสือชี้แจงสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน
- เกณฑ์การประเมินผลงาน
- นโยบายการจัดการบุคคลในกรณีต่าง ๆ เช่น ลาออก ลาพักร้อน ปลดพนักงาน
9. Management
Management หรือ การบริหารจัดการ เป็นอีกหนึ่งหัวข้อใหญ่ที่มีความสำคัญมาก เป็นส่วนงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ เจ้าของกิจการ ผู้นำองค์กร ผู้บริหาร และหัวหน้างานทุกส่วน ซึ่ง Management Skills หรือ ทักษะในการบริหารจัดการ ประกอบไปด้วยหัวข้อย่อยมากมาย ได้แก่
- Communication
- Company Values
- Crisis
- Decision Making
- Delegation
- Emotional Intelligence
- Exec Meetings
- Feedback
- Focus
- Goal Setting
- Leadership
- Managerial Tactics and Styles
- Meeting Structure
- Mentoring
- Motivation
- Org Structure
- Psychological Safety
- Retrospectives
- Role of the CEO
- Startup Advisors
10. Diversity and Inclusion
Diversity & Inclusion หรือ D&I คือ การบริหารองค์กรที่ประกอบไปด้วยความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของพนักงานหรือทีมงานภายในบริษัท อย่างเช่น ความแตกต่างเรื่องเพศ ความแตกต่างเรื่องวัย (Generation Gap) เป็นต้น หลัก ๆ แล้วจะเป็นส่วนที่ Leadership ผู้นำทีมหรือหัวหน้างานจะต้องเอาใจใส่ คอยสังเกต และให้ความสำคัญเพื่อลดช่องว่างของสิ่งเหล่านี้
บทสรุปทิ้งท้าย
อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นของบทความ การทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพมีความมั่นคงและเติบโตได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าได้เรียนรู้ทุกหัวข้อที่เขียนไว้ในบทความตอนนี้ (และตอนถัดไป) ผู้เขียนเชื่อว่า.. จะทำให้ทุกคนมองเห็นภาพรวมของการทำธุรกิจ Startup ชัดเจนยิ่งขึ้น และความรู้เหล่านี้สามารถช่วยอุดรอยรั่ว ลดความเสี่ยงในการล้มเหลวของธุรกิจได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน