SCB Thailand 2017 #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ
ชวนมาสรุปไฮไลท์ในปี 2017 ของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กับความเป็น Digital Lifestyle Banking ตามแนวคิด “เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ”
ปี 2017 เป็นปีที่ทุกธุรกิจหันมาทำ Digital Transformation เพื่อปรับตัวให้ทันโลกทันเทคโนโลยี และคงอยู่ให้รอดให้ยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบในปัจจุบัน ใครที่รู้ตัวช้าและปรับตัวไม่ทันก็เป็นอันต้องลาออกจากวงการไปอย่างน่าเสียดาย หนึ่งในธุรกิจที่มีกระแสมาแรงและโดดเด่นในช่วงปีนี้คือ FinTech (Financial Technology) ที่มีการนำเทคโนโลยีเรื่อง QR Code, Blockchain, AI, Big Data เข้ามาปรับใช้และกำลังเดินหน้าพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่มีคุณประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งาน ปีนี้จึงเป็นปีที่ทุกธนาคารปรับตัวหันมาทำ Digital Banking กันอย่างจริงจัง
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เราได้เห็นการปรับเปลี่ยนและปล่อยของทยอยออกมาตลอด โดยผ่านตาจากสื่อและช่องทางต่างๆ ซึ่งในระหว่างปีที่ค่อยๆรับรู้ข่าวสารก็ไม่ทันได้ฉุกคิดถึงความเยอะอะไรใดๆ จนมาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2017 กับข่าวล่าสุดที่เป็นการพัฒนา Project ด้วยเทคโนโลยี AI และยังไม่นับรวมถึงข่าวการเปิดตัว SCB Center ต่างๆอีกหลายแห่งที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนนี้ ทำให้นึกมองย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปีและเห็นว่า ปีนี้ SCB ปล่อยของออกมาเยอะมากจริงๆ จึงอยากมาไล่เรียงเก็บประมวลไว้ที่นี่ เอาเท่าที่ระลึกได้แล้วกันนะคะ หากตกหล่นหรือยังขาดอะไรไปก็ใส่ comment มาบอกกันได้นะ ^_^
## การก่อตั้งบริษัทย่อย ##
ในช่วงสองปีนี้จะได้ยินข่าวที่ SCB ก่อตั้งบริษัทย่อยขึ้นมา โดยแต่ละบริษัทก็มีหน้าที่เด่นชัดเฉพาะทางของตัวเอง เพื่อปรับรับกับยุค Digital Transformation ในปัจจุบัน
1.Digital Ventures
ต้นปี 2016 :: อ้าว! ไหนว่าเป็นไฮไลท์ปี 2017 ไงเล่า แหะๆๆ ขอแถมติดมานิดนึงละกันนะคะ เพราะด้วยบทบาทที่อดไม่ได้จริงๆ ถ้าจะไม่พูดถึง ไม่ว่ากันเน๊อออ ต้นปี 2016 SCB ได้เปิดบริษัทย่อยชื่อ Digital Ventures หรือ DV เพื่อลงทุนในธุรกิจ FinTech และพัฒนานวัตกรรมทางด้านการเงิน โดยที่ผ่านมา DV ได้ร่วมลงทุนในด้านต่างๆ ดังนี้
- ลงทุนร่วมกับกองทุน Startup ในต่างประเทศและในประเทศไทย เช่น Golden Gate Ventures, Dymon Asia Ventures, Nyca, Siri Venture (VC ด้าน PropTech จากแสนสิริ)
- ลงทุนโดยตรงกับ Startup ในต่างประเทศ เช่น Ripple (ผู้ให้บริการ Blockchain), PulseiD (ผู้ให้บริการ Geolocation)
- ลงทุนกลุ่ม Startup ในประเทศไทย ที่ผ่านโครงการ DVA b0 เช่น OneStockHome, ETRAN, FlowAccount
2.SCB Abacus
กลางเดือนกันยายน :: SCB ได้เปิดตัวบริษัทย่อยชื่อ SCB Abacus ที่เน้นการพัฒนาด้าน AI และ Big Data โดยเฉพาะ และจะปล่อยผลงานออกมาทุกๆ 6 เดือน ล่าสุดหลังก่อตั้งบริษัทได้เพียง 3 เดือนก็ปล่อยฟีเจอร์ “โปรเพื่อคุณ” (My Deals) ในแอปพลิเคชัน SCB Easy เป็นฟีเจอร์ที่รวบรวมโปรโมชั่นต่างๆมากกว่า 500 รายการ ครอบคลุมทุก Lifestyle ในการดำเนินชีวิตทั้งวัน My Deals มีกลไกการทำงานโดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นหลัก เพื่อเก็บข้อมูล Big Data จากไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ยิ่งลูกค้าใช้งานมากระบบก็จะยิ่งรู้ใจลูกค้ามากขึ้น
## Mobile Banking & Mobile Application ##
ปีนี้เป็นปีที่ทุกธนาคารปรับตัวสู่การเป็น Digital Banking แต่จุดที่ SCB ทำแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิงเลยคือ การเป็น Digital LifeStyle Banking
3.SCB Easy 3.0 (โฉมใหม่)
กลางเดือนสิงหาคม :: SCB ได้เปิดตัว SCB Easy 3.0 ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของ Mobile Banking Application ที่สร้างประสบการณ์การใช้งานในรูปแบบใหม่ เน้นตอบโจทย์ด้าน Lifestyle ของผู้ใช้งาน และที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็ดีตรงมีของฟรีให้ด้วยนี่แหล่ะ Easy Bonus เป็นสิทธิพิเศษที่แม้จะไม่ได้เป็นลูกค้าระดับ VIP มีเงินฝากเป็นหลายๆล้าน ก็ได้สิทธิ์ฟรีๆแบบนี้เหมือนกัน เช่น ตั๋วหนังฟรี, โดนัทฟรี, ไอติมฟรี ฮร๊า..ฟิน นอกจากนี้ก็มี Easy App Protection บริการคุ้มครองความเสียหายจากแอปพลิเคชันอีกด้วย
แน่นอนว่าการพลิกโฉมครั้งนี้มี Effect โดยตรงกับผู้ใช้งาน แต่นอกจากผู้ใช้งานแล้ว ก็ยังสร้างความฮือฮาให้คนในวงการไอทีด้วย เพราะการสร้าง SCB Easy 3.0 เป็นการพัฒนา Digital Platform ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ภายในระยะเวลา 10 เดือน! โดยมีการเปิดเผยข้อมูล Architecture และเทคโนโลยีต่างๆที่นำมาใช้พัฒนา อันนี้น่าสนใจมากค่ะ ใครสนใจข้อมูลเกี่ยวกับ SCB Easy Platform สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Blognone SCB Easy Platform นอกจากนี้การปรับโฉมหน้าตาของแอปพลิเคชัน หรือในเชิงเทคนิคเราเรียกกันว่าการออกแบบ UI/UX อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นการปรับที่ถือว่าใจกล้ามากๆ ที่ลองยื่น Experience ใหม่ให้กับผู้ใช้งานแบบไม่หลงเหลือเค้าโครงเดิมอยู่เลย
4.Chatuchak Guide
กลางเดือนพฤศจิกายน :: SCB เปิดตัวแอปพลิเคชัน Chatuchak Guide แอปพลิเคชันที่รวมร้านค้าในตลาดนัดจตุจักรเอาไว้กว่า 8,000 ร้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ขาช็อปที่ชื่นชอบการเดินสวนจตุจักร (JJ Market) โดยสามารถเลือกดูสินค้า/ค้นหาร้าน/ดูโปรโมชั่น/รีวิวร้าน ได้ง่ายภายในแอปฯเดียว ที่สำคัญเลย! ใครที่มีปัญหาเดิน งง ในดงร้านที่ JJ บ่อยๆ แอปฯนี้สามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของร้านได้แม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี Indoor Location-based Service ไม่หลงแน่นอน ช็อปกันเพลินละทีนี้ ไม่ต้องเปลืองเวลาเดินหาร้านแบบหลงๆ งงๆ ในหลืบในซอย และไม่เพียงแต่สนองนีดขาช็อปฮิปๆชาวไทยเท่านั้นนะ แต่แอปพลิเคชันนี้ยังรองรับถึง 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อีกด้วย
## Cashless Society ##
ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ให้บริการเองต้องปรับตัวทั้งคู่ ทาง SCB ในฐานะผู้ให้บริการก็จัดเต็มปล่อยฟีเจอร์และแอปพลิเคชันใหม่ๆออกมาอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคให้ได้เลือกใช้แบบไร้เงินสดได้อย่างสบายๆ
5.Cashless ATM
บริการกดเงินสดโดยไม่ต้องใช้บัตร ATM เหมาะกับเคสฉุกเฉินมากๆ พวกบัตรหาย ลืมบัตร หรือขี้เกียจพกบัตรอะไรเยอะแยะ ชีวิตทุกวันนี้ก็ยิ่งรีบๆรนๆอยู่ด้วย แค่มีสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชัน SCB Easy ก็กดเงินออกมาใช้มีชีวิตรอดได้แล้ว
6.PromptPay QR
ปลายเดือนสิงหาคม :: SCB เริ่มโปรโมท PromptPay QR บริการรับจ่ายเงินด้วยระบบ QR Code Easy Pay, Easy Scan ซึ่งเราก็จะเห็น QR Code เกลื่อนกลาดเต็มเมืองไปหมด ตั้งแต่พี่วินมอไซค์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของช็อปปิ้งต่างๆ ทีนี้จะโอน จะจ่าย ก็ง่ายอีซี่ๆ
7.SCB Easy Pay — แม่มณี
ต้นเดือนพฤศจิกายน :: SCB เปิดตัว SCB Easy Pay แอปพลิเคชันสำหรับพ่อค้าแม่ค้า โดยมี “แม่มณี” นางกวักยุคดิจิทัลที่พร้อมจะเรียกลูกค้าและรับชำระเงินผ่าน QR Code และยังมีบริการ SCB Connect ผ่านทาง LINE เป็นบริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออกจากบัญชีแบบ real time โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
## Blockchain ##
ยุคนี้ ปีนี้ และปีหน้า ใครๆก็พูดถึงเทคโนโลยี Blockchain และหากอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เป็น FinTech ก็ยิ่งให้ความสนใจและกำลังนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้พัฒนา เพื่อสร้างบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัยให้ผู้บริโภค ทาง SCB เขาก็จัดแล้วจ้า
8.SCB X Ripple and SBI Remit
มิถุนายน :: SCB ร่วมมือกับ Ripple และ SBI Remit จากประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการรับโอนเงินข้ามประเทศแบบเรียลไทม์ด้วยการใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับลูกค้ารายย่อยเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งทำให้การโอนเงินข้ามประเทศมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
## SCB Center ##
เป็นอีกส่วนหนึ่งของการปรับตัวให้เป็น Digital LifeStyle Banking ด้วยการปรับรูปแบบของสาขา และเพิ่มศูนย์บริการเฉพาะทางในด้านต่างๆ เพื่อสร้าง Engagement โดยตรงกับลูกค้า และผลักดันให้การลงทุนและการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
9.TOO FAST TO SLEEP.SCB
ต้นเดือนสิงหาคม :: SCB ร่วมกับ TOO FAST TO SLEEP เปิดตัว TOO FAST TO SLEEP.SCB ที่สยามสแควร์ ซอย 1 สำหรับเป็น Community คล้าย Co-Working Space ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนได้ใช้เป็นพื้นที่ในการอ่านหนังสือ ประชุม ทำงานกลุ่ม โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB EASY ไว้แสดงเมื่อเข้าใช้บริการเท่านั้น ล่าสุด! ก็เพิ่งขยายสาขาไปเปิดที่เชียงใหม่แล้วด้วยนะคะ ถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้าง Engagement กับผู้บริโภคโดยตรงที่สัมผัสได้จริง ถูกใจคนนอนดึก และคนที่ชอบหาสถานที่ทำงานนอกบ้านแน่นอน แถมมีขนม มีน้ำมีกาแฟด้วยน๊า
10.SCB Business Center
พฤศจิกายน-ธันวาคม :: SCB เปิด SCB Business Center หรือศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอีสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี มาที่นี่ที่เดียวจบ ครบทุกเรื่องจริงๆ มีทีมกูรูคอย coach ให้คำปรึกษาครบทุกด้านที่ SME ต้องรู้, มี Co-working และ Meeting room ไว้คอยอำนวยความสะดวก ยุคนี้ใครๆก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ใครสนใจใช้บริการก็ไปได้นะคะ ตอนนี้มี 3 สาขาคือที่ Central world, Siam square และ Central East Ville
11.SCB Investment Center
พฤศจิกายน-ธันวาคม :: SCB เปิด SCB Investment Center หรือศูนย์บริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร เป็นศูนย์รวมความรู้ทุกเรื่องการลงทุน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาให้คำปรึกษา มีโปรแกรมวิเคราะห์หุ้น มีการติวและสัมมนาเจาะลึกเรื่องการลงทุน มีบริการห้องประชุมในรูปแบบ Co-Investment Space และยังมีบริการตู้นิรภัยด้วยระบบ Biometrics ตอนนี้เปิดให้บริการแล้ว 4 สาขาคือ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลนครราชสีมา และเซ็นทรัลขอนแก่น เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง หากเราจะเอาทรัพย์สินที่หามาด้วยความยากลำบากไปเสี่ยง ก็ต้องเสี่ยงแบบมีความรู้นะคะ
12.SCB Service Center
พฤศจิกายน :: SCB เปิด SCB Service Center หรือศูนย์บริการลูกค้ารูปแบบใหม่ คอยให้ความช่วยเหลือ รับเรื่อง ติดตาม ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำต่างๆ สามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะได้ไม่ต้องไปรอกดบัตรคิวปนกับบริการอื่นๆที่สาขา ดูสะดวกและเป็นส่วนตัว
13.SCB Express
สิงหาคม :: SCB เปิด SCB Express สาขาอัตโนมัติรูปแบบใหม่ ที่ให้เราทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตัวเองผ่านเครื่องอัตโนมัติ (Automated Machines) ได้แก่ ฝาก ถอนจ่ายบิลพร้อมทอนเงิน ฝากเช็ค โอนเงิน เติมเงิน ปรับสมุด แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เราทำโดดเดี่ยวคนเดียวนะคะ จะมีพนักงานค่อยช่วยเหลือ เพื่อให้เราเกิดความคุ้นเคยกับเจ้าเครื่องอัตโนมัติพวกนี้ค่ะ ถือเป็นการพลิกโฉมรูปแบบสาขาของธนาคารจากอดีตไปเลย ตอนนี้มีเปิดให้ใช้บริการทั้งหมด 15 สาขา ดูได้ที่นี่ค่ะ SCB Express Branch
## ไฮไลท์อื่นๆ ##
นอกจากไฮไลท์ที่พูดถึงไปแล้ว ก็ยังมีส่วนยิบย่อยอื่นๆที่ฮอตฮิตติดหูติดตาที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ มีอะไรบ้างไปดูกัน
14.ตู้รับฝากเหรียญอัตโนมัติ
กันยายน :: อันนี้ถูกอกถูกใจบรรดานักออมเหรียญ นักหยอดกระปุก หรือเหล่ามนุษย์ผู้ขี้เกียจจับจ่ายด้วยเหรียญแน่ๆ เพราะปกติต้องมานั่งแยก นั่งนับเองทีละเหรียญ แล้วก็จับติดเทปใส ใส่ถุง เอาไปฝากที่ธนาคาร แถมยังต้องรอพนักงานนับใหม่ทั้งหมด เสียค่านับอีก โอ้โห! Pain Point สุดๆ ตอนนี้ความเจ็บปวดได้ถูกบรรเทาลงแล้ว เมื่อ SCB ติดตั้ง ตู้รับฝากเหรียญอัตโนมัติ สิ้นปีนี้ก็แบกกระปุกเดินไปหาเครื่องนี้ได้เลยนะคะ ไม่ต้องนับเองแล้ว เย้ๆ
15.SCB Park Plaza
เดี๋ยวนี้บริษัทไหนๆก็หันมาปรับโฉมออฟฟิศให้ดูเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้พนักงานได้ลดความตึงเครียดจากการทำงาน ที่ SCB ก็เช่นเดียวกันค่ะ บรรยากาศจะน่าทำงานขนาดไหน ตามไปดูกันต่อที่นี่เลย SCB Park Plaza
16.หนังโฆษณา #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ
ต้องยอมรับว่าปีนี้คอนเทนต์ในรูปแบบ VDO มาแรงจริงๆ หนังโฆษณาที่มีเนื้อเพลงสุดฮอต ..เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว~* ของ Room39 และเนื้อเรื่องสุด cute ชุดนี้ จัดทำโดย SCB ซึ่งปล่อยออกมาพร้อมกับการเปิดตัวแอปพลิเคชัน SCB Easy โฉมใหม่ ภายใต้แคมเปญ #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ งานนี้ถือว่า ปัง! มากๆค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง “คุณนายออม” ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์เรื่องการใช้เงินของสาวออฟฟิศ และยังให้แง่คิดในการบริหารเงินด้วยนะ
บทสรุป
โอ้โห! เยอะจัง นี่หยิบแค่เฉพาะเรื่องที่โดดเด่นเห็นเข้าตามาเท่านั้นนะเนี่ย บางเรื่องเป็นความท้าทายที่ต้องใช้ใจที่กล้ามากๆในการตัดสินใจ ลอง ลงมือทำ อีกสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การปรับตัว อย่างในเรื่องของ mobile banking ทาง SCB ก็ปรับให้ตัวเองกลายเป็น Digital LifeStyle Banking ที่ฉีกกฎจาก mobile banking เจ้าอื่นๆอย่างชัดเจน หรือเรื่องการปรับสาขาเป็นรูปแบบใหม่ สร้างเป็นศูนย์เรียนรู้เฉพาะเรื่อง สร้างสาขาที่ผนวกเข้ากับ LifeStyle ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น สร้างสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างและยังไม่เคยมีใครทำออกมา (Innovation) ในฐานะผู้ใช้งานก็พลอยตื่นเต้นที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และรอ..ว่าในอนาคตจะมีอะไรล้ำๆออกมาเล่นกับพฤติกรรมเราอีกบ้าง
สุดท้าย
ในยุคที่ทุกอย่างหมุนไปไวและเชื่อมต่อกันใกล้ไร้พรมแดนขนาดนี้ เราต้องเรียนรู้และเดินหน้าลงมือทำให้ไว ที่สำคัญคือต้องไม่หยุด การหยุดก็ไม่ต่างอะไรกับการถอยหลัง เพราะเทคโนโลยีมันไปไวกว่าที่เราคิดมาก ทำวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะเก่า เราต้องกล้าที่จะลองลงมือ(รีบ)ทำก่อน จะได้ Fail Fast, Succeed Faster : )
