ทำไม Bitcoin ถึงถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Digital Gold กันนะ?

jirawat pattanayutanachot
2 min readJan 17, 2022

Content from the Crew ตอนที่ 3| ทำไม Bitcoin ถึงถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Digital Gold กันนะ? | Story by Khun Jirawat (Big), Technology Team

╔═══════════╗

*บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนแต่อย่างใด*

╚═══════════╝

เชื่อว่าเกือบทุกคนที่สนใจใน cyptocurrency จะต้องเคยได้ยินประโยคเปรียบเปรยที่กล่าวว่า “Bitcoin นั้น เปรียบเสมือน ทองในโลก Digital” เป็นแน่ แต่เคยสงสัยกันไหมครับ ว่าทำไม Bitcoin จึงเปรียบได้กับ ทองในโลก Digital วันนี้เรามาหาคำตอบไปด้วยกันดีกว่าครับ

ประวัติการแลกเปลี่ยนของมนุษย์

นับตั้งแต่มนุษย์เริ่มรู้จักการอยู่รวมกลุ่มกัน และพบว่าแต่ละคนมีงานที่ตนถนัดไม่เหมือนกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน จึงมีการแบ่งหน้าที่กันในการทำงาน เช่น

  • นาย A ถนัดล่าสัตว์ ก็จะทำหน้าที่ล่าสัตว์แต่เพียงอย่างเดียว
  • นาย B ถนัดปลูกข้าว ก็จะทำหน้าที่ปลูกข้าวแต่เพียงอย่างเดียว

ทีนี้ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อแต่ละคนต่างทำงานที่ตนเองถนัดจนเกิดผลผลิตของตนเองมากจนเหลือใช้ แล้วต้องการผลผลิตแบบอื่น ก็จะนำสิ่งของที่ตนเองมี ไปหาแลกกับคนอื่นที่มีสิ่งของที่ตนเองต้องการ ทำให้เกิดระบบแลกเปลี่ยนสินค้าขึ้น เช่น นาย A ล่าสัตว์มาได้จำนวนมาก แล้วอยากกินข้าว จึงขอแลกเปลี่ยนกับข้าวของ นาย B เป็นต้น

แต่ระบบนี้เองก็มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น

  • เรื่องของความต้องการไม่ตรงกันในแต่ละช่วงเวลา : นาย A อยากแลกเนื้อสัตว์กับข้าวของ นาย B แต่นาย B เองยังไม่ต้องการเนื้อสัตว์ในเวลานี้
  • เรื่องของการเก็บมูลค่า : นาย A ล่าสัตว์ได้วันนี้ แต่ยังไม่ได้อยากจะแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าใดๆ เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ เกิดอยากกินข้าวขึ้นมา แม้อยากจะนำเนื้อสัตว์ดังกล่าวมาแลก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเนื้อสัตว์จะเน่า จนสูญเสียมูลค่า ไม่สามาถนำไปแลกเปลี่ยนได้แล้ว

ด้วยปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นในระบบแลกเปลี่ยนสินค้าดังกล่าว มนุษย์จึงคิดหาวิธีแก้ปัญหาขึ้นมา โดยการใช้สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จนเกิด “ระบบเงินตรา” ขึ้นมา

ทอง กับ ระบบเงินตรา

เมื่อมนุษย์ต้องการจะพัฒนาไปสู่ระบบเงินตรา จึงต้องตามหาหาสื่อกลางการแลกเปลี่ยน จึงเกิดการมองหาสิ่งที่จะนำมาใช้ได้ แต่แล้วทำไมต้องเป็น ทอง หล่ะ?

คุณสมบัติโดยทั่วไปของสื่อกลางการแลกเปลี่ยน

  1. หาไม่ง่ายจนเกินไป
  2. หาไม่ยากจนเกินไป
  3. คงทน
  4. ขึ้นรูปทรงได้ง่าย

ซึ่ง ทอง เองก็มีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน จนเกิด ยุคตื่นทอง ที่ทุกคนพยายามที่จะขุดหาทองเพื่อความมั่งคั่งของตน และด้วยคุณสมบัติของทอง รวมไปถึงความมีจำกัดจึงทำให้เกิดยุค The Classical Gold Standard ที่มีการใช้ทองคำเป็นเสมือนสินทรัพย์ค้ำประกันมูลค่าของ ธนบัตรและเหรียญ ขึ้นมา

Bitcoin กับ ระบบเงินตรา

Bitcoin คือ Cryptocurrency ที่ถูกเสนอไอเดียโดย Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นการอธิบายถึงแนวคิดการสร้างระบบแลกเปลี่ยนเงินตราอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่มีตัวกลาง ผ่านบทความเรื่อง “Bitcoin: a Peer-to-Peer Electronic Cash System” ซึ่งได้พูดถึงคุณลักษณะต่างๆของ Bitcoin ในฐานะของ Electronic payment system คือ

  1. สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันได้โดยไม่ต้องการคนกลางที่เชื่อถือได้
  2. ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนระบบจะต้องโปร่งใสเชื่อถือได้ ทั้งสำหรับผู้ซื้อ และผู้ขาย
  3. มีความปลอดภัย ยากต่อการแฮก
  4. มีความเป็นส่วนตัว

ซึ่งภายหลังได้มีการนำบทความดังกล่าวมาพัฒนาและสร้าง Block แรก หรือที่เรียกว่า “Genesis Block” ซึ่งในระหว่างการพัฒนาดังกล่าวได้มีการกำหนดคุณสมบัติต่างๆของ Bitcoin ไว้ รวมถึงการกำหนดปริมาณสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ

ซึ่งจากคุณสมบัติดังกล่าวในฐานะของเงินตราของ Bitcoin เราก็จะพบว่า Bitcoin เองได้มีการนำมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้าบนโลกจริง โดยกรณีที่โด่งดังมากที่สุดกรณีนึง คือ การแลกเปลี่ยน Bitcoin จำนวน 10,000 BTC กับ พิซซา 2 ถาด มูลค่า 25 ดอลล่าร์ (คิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนที่ 4 BTC ต่อ 1 เซนต์) ในปี พ.ศ. 2550 ก่อนที่ Bitcoin จะได้รับความนิยมมากขึ้นจนราคาซื้อ-ขาย บนเว็ปเทรด Binance ณ เวลาที่เขียนบทความ อยู่ที่ 1 BTC ต่อ 42832 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าจำนวนมหาศาลภายในระยะเวลา 15 ปี

Bitcoin กับ ทอง

จากข้างต้นเมื่อเรานำ Bitcoin มาเปรียบเทียบกับทอง จะพบว่าทั้ง 2 ล้วน มีคุณสมบัติร่วมกันในแง่ของการเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนที่มี ปริมาณจำกัด และด้วยมูลค่าของ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทำให้ Bitcoin ถูกมองเป็น Store of value ที่เอาไว้เก็บมูลค่าที่เทียบเท่าหรือดีกว่าทองคำ

Bitcoin จะเข้ามาแทนที่ ทองคำ ?

อย่างไรก็ตามหากจะบอกว่า Bitcoin จะสามารถเข้ามาเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนกลางของโลก ในฐานะ Digital Gold แล้วละก็ อาจจะต้องพิจารณาในเรื่องต่างๆดังต่อไปนี้ประกอบด้วย

  1. แม้ว่ามูลค่า หรือ ราคาของ Bitcoin จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ในระยะสั้นแล้วราคาของ Bitcoin จะมีความผันผวนมากกว่าทองคำ ทำให้ยังเป็นที่กังวลของหลายๆ คนหากจะต้องมีการรับชำระสินค้าด้วย Bitcoin
  2. การยอมรับจากภาครัฐ เนื่องจาก Bitcoin นั้นทำงานผ่านระบบกระจายศูนย์ (Decentralize) ทำให้ไม่สามารถถูกควบคุมได้โดยหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการควบคุมปริมาณเงินที่ไหลเวียนในระบบได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการออกนโยบายทางการเงิน ทำให้ปัจจุบันแม้สถานะการการยอมรับให้ใช้ในการชำระหนี้ตามกฏหมาย ของ Bitcoin จะดีขึ้นมากหากเปรียบเทียบกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังน่าจับตามองนโยบายที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลในหลายๆประเทศต่อไป
  3. ความเชื่อถือในเงินกระดาษสกุลหลักๆ ที่น้อยลง ทำให้คนหันมาถือสินทรัพย์ทางเลือกที่ไม่ได้ผูกติดมูลค่าอยู่กับความน่าเชื่อถือของประเทศใดประเทศนึง อย่างเช่น ทอง หรือ Bitcoin
  4. ความเป็นไปได้ในการเติบโตของมูลค่าตลาดของ Bitcoin ในอนาคตเมื่อเทียบกับทอง (ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่มูลค่าตลาดของ ทอง อยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ)
  5. การนำ Bitcoin ไปใช้เป็นคู่เทรด ร่วมกับสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ ทำให้มีลักษณะใกล้เคียงกับยุคสมัยของ Gold standard

แล้วคุณหล่ะ คิดว่า Bitcoin จะกลายมาเป็น Digital Gold ในโลกยุคถัดไปได้หรือไม่?

╔═══════════╗

บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็น “Tokenization Success Partner” ทางบริษัทมีทีมงานและบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะให้บริการเกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ Tokenomics การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และรวมไปถึงการเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (บริษัทอยู่ระหว่างการรอเปิดใช้งานใบอนุญาตฯ จาก ก.ล.ต.)

╚═══════════╝

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ contact@tokenx.finance

สนใจสมัครงาน ส่ง CV มาได้เลยนะครับที่ join@tokenx.finance

--

--