ถ่ายและแต่งภาพยังไงให้ดู“ฐา”?

Tor Chanon
torcnn
Published in
3 min readJun 19, 2016

--

สวัสดีครับทุกคน เรา @torcnn เอง วันนี้เราจะมาแชร์วิธีการถ่ายและแต่งภาพโทนสว่าง ให้ดูมีความฟรุ้งฟริ้งใสๆ หรือพูดง่ายๆคือมีความ “ฐา” นั่นแหละ เราจะแบ่งบทความออกเป็นสองพาร์ท คือตอนถ่ายกับตอนแต่ง เพราะสองสิ่งนี้มันจำเป็นต้องไปด้วยกัน บทความนี้จะชี้ให้เห็นว่ามันมีข้อควรระวังหรือมีองค์ประกอบอะไรบ้างที่ทำให้ภาพเราดูฐา เริ่มเลยนะ!

หมายเหตุ: รูปเยอะนะ

ตอนถ่าย

1.พาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศฐาๆ

อันนี้สำคัญสุดเลย เน้นว่าสำคัญที่สุด สำคัญกว่าข้ออื่นๆทุกข้อ แต่กลับเป็นสิ่งที่มักจะถูกมองข้าม เราจะหยิบกล้องไปถ่ายในโลเคชั่นมั่วๆซั่วๆไม่ได้ เราต้องเลือกสถานที่ที่มันเอื้ออำนวยหน่อย ถ่ายในสถานที่ที่เน้นสีขาวๆ หรือมองแล้วรู้สึกสะอาด สบายตา (ถึงแม้ในไทยมันจะหาสถานที่แบบนี้ไม่ค่อยได้ แต่พยายามกันหน่อยนะ) อย่าให้มีสิ่งของหรือวัตถุที่ไม่จำเป็นเข้ามาในภาพเยอะเกินไป ถ้าถ่ายในร่มพยายามเลือกสถานที่ที่แสงโทนขาวๆ อย่าไปถ่ายตามร้านที่ใช้ไฟสีส้มๆหรือสีแปลกๆ อย่าไปถ่ายในที่ที่บรรยากาศรกๆ สกปรก หรือสถานที่ที่ใช้สีฉูดฉาดมากๆ และสุดท้ายพยายามฝึกหาโลเคชั่นถ่ายภาพให้ชิน บางมุมมันถ่ายรูปออกมาไม่สวยจริงๆก็อย่ามัวหลอกตัวเองว่ามันสวยครับ ไปหาที่ใหม่เถอะ

2. อย่าถ่ายตอนแสงหมด

ถ้ามันมืดมากๆแล้วจะฟรุ้งฟริ้งยังไงอะถามใจดู ถึงแม้มันจะยังพอมีหนทาง อย่างเช่นไปอาศัยไฟห้าง ให้คนแบกไฟ LED ไปยืนส่องตัวแบบ หรือใช้แฟลชยิงเอา แต่ชีวิตเราก็ไม่ได้เซเลบขนาดจะมีคนถือไฟเดินตามน่ะเนอะ กลับบ้านไปนอนแล้วค่อยตื่นมาถ่ายใหม่ดีกว่า ใช้แสงธรรมชาติจากพระอาทิตย์นี่ง่ายที่สุดแล้ว

3. อย่าถ่ายตอนแดดเปรี้ยง

ไม่ใช่แค่แสงน้อยที่ไม่ดี แต่การถ่ายในที่ที่แสงเยอะไปมันก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะมันจะทำให้เกิดเงาดำเยอะแยะเต็มไปหมด ภาพจะดูแข็งเกินไป ไม่ฟรุ้งฟริ้ง หากจะถ่ายในช่วงเวลาแดดเปรี้ยง ให้พยายามหลบเลี่ยงไปตามมุมตึกหรือถ่ายในร่มแทน หากหลบไปถ่ายตามร้านกาแฟที่มีม่านกรองแสงเบาๆจะดีมาก หรือถ้าคิดจะถ่ายกลางแจ้ง ให้ถ่ายช่วงบ่ายแก่ๆสักสี่ห้าโมง หรือจะเป็นช่วงเช้าก่อนเวลาสายก็ได้ครับ

4.ระวังแสงสะท้อนจากกำแพงสีๆ

นี่คือเรื่องที่หลายคนมองข้าม บางทีเวลาแสงตกกระทบใส่กำแพงสีจัดๆและสะท้อนเข้าตัวแบบมันจะไปเอาสีของกำแพงมาด้วย นอกจากกำแพงแล้วมันอาจจะมีพวกผ้าสีแปลกๆที่สะท้อนสีเข้าหน้าตัวแบบได้เหมือนกัน ซึ่งมันจะทำให้เราแต่งภาพยากขึ้นไปอีก เวลาถ่ายรูปต้องพยายามสังเกตสิ่งแวดล้อม พยายามเลือกโลเคชั่นที่กำแพงสีขาวหรือสีอ่อนๆนะครับ

5.เลือกเลนส์รูรับแสงกว้างๆและโฟกัสให้เข้าที่ดวงตา

หากประสงค์จะถ่ายภาพให้ดูมีอะไรก็หาเลนส์รูรับแสงกว้างๆมาเบลอหลังสักหน่อยเนอะ ตัวแบบจะได้เด่นๆ นอกจากนี้มันจะทำให้แสงเข้ามาในภาพเยอะขึ้นด้วย ทำให้เราไม่ต้องเพิ่มISOเยอะ แต่ใครที่ใช้เลนส์รูรับแสงกว้างๆต้องระวังภาพเบลอด้วยนะครับ ตอนถ่ายพยายามโฟกัสให้เข้าที่ตาของตัวแบบ เพราะการที่ตาชัดเท่ากับภาพชัด เว้นแต่เราอยากจะไปโฟกัสที่จุดอื่นจริงๆ

5. ชดเชยแสงให้สว่างๆ

หัวใจของภาพแนวฐาๆคือจะต้องดูสว่างเกินจริงนิดๆ ซึ่งถ้าเราสามารถทำให้ภาพมันดูสว่างอยู่แล้วตั้งแต่ตอนถ่าย ตอนแต่งเราก็ไม่ต้องทำอะไรมาก เผลอๆคือถ่ายปุ๊บลงได้เลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มอะ แต่ข้อควรระวังคืออย่าให้มันสว่างเกินไป เวลาวัดแสงเราว่าเอาซักไม่เกิน +1 เดี๋ยวมันจะสว่างเกินจนไม่เห็นอะไร

6.วิ่งหา foreground

เราสามารถเพิ่มความฟริ้งให้ภาพได้ด้วย foreground ครับ เจ้า foreground เนี่ยคือจุดนอกโฟกัสที่อยู่ด้านหน้า ถ้าได้ดอกไม้หรือใบไม้มาบังหน้าเลนส์สักหน่อยก็จะทำให้ภาพเราดูฟรุ้งฟริ้งขึ้นไปอีกระดับ

7.ถ้าเป็นไปได้ เปิดโหมด Smooth/Soft Skin หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผิวดูเนียนๆ

อันนี้สำหรับคอเซลฟี่ครับ เดี๋ยวนี้กล้องน่าจะมีโหมดนี้กันทั้งนั้นแหละ ข้อดีของโหมดนี้คือจะได้ผิวที่เนียนสวย และช่วยลดภาระในการแต่งภาพในภายหลังได้

8.ยิ่งตากล้องกับนางแบบสนิทสนมกันเท่าไหร่ยิ่งดี

อาจจะไม่เกี่ยวกับฐาไม่ฐา แต่จากประสบการณ์ตรง มันจะช่วยเรื่องอารมณ์ของภาพได้ดีเลยแหละ เพราะไม่ใช่ทุกคนหรอกที่เป็นนางแบบได้ และไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะไม่เขินกล้อง ดังนั้นหากอยากได้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเหมือนถูกบังคับ ก็ต้องเกิดจากคนสองคนที่อยู่ด้วยกันแล้วเป็นธรรมชาติ ไอ้เรื่องท่าโพสนี่ไม่ต้องสอนหรอก ให้ทุกอย่างมันเป็นไปเอง และผู้หญิงก็คงรู้มุมสวยของตัวเองดี หากคนที่ไม่สนิทกันออกไปถ่ายรูปด้วยกัน สิ่งที่เราจะได้อาจเป็นแค่รอยยิ้มทื่อๆขาดความสดใสก็ได้

ตอนแต่ง

9.อัด Exposure เข้าไป

ถ้าตอนถ่ายมามันสว่างไม่พอ (อาจจะเกิดจากการที่ถ่ายในร้านกาแฟที่แสงน้อยไปหน่อย) ก็อัดExposureเพิ่มเข้าไปอีก เพราะแสงโอเวอร์คือหัวใจของภาพแนวนี้เลยครับ แสงในภาพจะต้องดูสว่างๆ แต่อย่าเพิ่มแสงเยอะไปนะ เดี๋ยวอะไรๆในภาพจะหายหมด

10.รู้จัก Highlights

เนื่องจากภาพแนวนี้เป็นภาพที่ต้องเล่นกับแสงสว่าง จึงควรรู้จักเครื่องมือนี้และใช้ให้เป็นครับ เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มหรือลดความสว่างในส่วนสว่างของภาพได้ เนื่องจากตะกี๊เราอัดExposureเข้าไปเยอะแล้วใช่มะ ทำให้เราอาจจะต้องใช้เครื่องมือHighlights ช่วยลดความสว่างเพื่อดึงดีเทลของภาพคืนมาครับ แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเรารู้สึกว่าแสงขาวในภาพดูหม่นหมองไปหน่อย เราก็เพิ่ม Highlights เข้าไปแทน ก็จะทำให้ส่วนสว่างดูสว่างสดใสยิ่งขึ้นไปอีก ลองเลือกใช้ดูครับ ไม่มีกฎตายตัวหรอก

ลองสังเกตส่วนสว่างของภาพเพื่อดูความต่าง

11.รู้จัก Shadows

เครื่องมือ Shadows เป็นเครื่องมือที่เล่นกับส่วนที่เป็นเงามืด ถ้าปรับขึ้น ส่วนมืดก็จะสว่างขึ้น ถ้าปรับลง ส่วนมืดก็จะมืดลง ซึ่งถ้าเราถ่ายมาสว่างอยู่แล้ว การดัน Shadows ขึ้นก็จะทำให้ส่วนมืดสว่างไปด้วย ดูฐาไปอีกระดับ

12.ลด Temperature

ภาพแนวนี้ควรจะดูสบายๆ ฟุ้งๆ เย็นๆ ซึ่งถ้าเราแต่งภาพโทนอุ่นคงจะผิดตีม เพราะฉะนั้นเวลาแต่งก็ปรับลดอุณหภูมิลงไปซักหน่อย นอกจากนี้การปรับ Temperature จะขจัดสีผิวของนางแบบที่ดูส้มๆเหลืองๆออกไป กลายเป็นสีออกขาวๆแทน

13.ถ้าอยากให้ภาพดูคม อย่าบังอาจเพิ่มClarityเยอะ ให้เน้นใช้Sharpenแทน

เครื่องมือClarityเป็นเครื่องมือที่มีผลกับเส้นในภาพเหมือนกับSharpenแต่มีผลในคนละแง่ครับ Clarityจะทำให้เส้นดูเข้มขึ้น แต่Sharpenจะทำให้เส้นดูคมขึ้น หากเราจะแต่งภาพสไตล์สดใส การเพิ่มClarityคงไม่เหมาะ เลี่ยงเถอะ เพราะมันจะทำให้เส้นดำๆในภาพดูดำขึ้นไปอีก

14.ลองหัดใช้ Tone Curve

อันนี้จะเป็นอะไรที่ Advance ขึ้นมานิดนึง เราจะอธิบายคร่าวๆพอแล้วไปศึกษาเพิ่มเติมเอาเองได้ การปรับ Tone Curve คือการปรับสมดุลของความสว่างในภาพเรา เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่สามารถพบเห็นได้ตามโปรแกรมแต่งภาพระดับโปร แต่จริงๆบางแอปพลิเคชั่นในมือถือก็มีอย่างเช่น Lightroom Mobile

สำหรับการแต่งให้ดูฐานั้น เราแนะนำให้ไปเน้นปรับในส่วน Shadows ซึ่งก็คือส่วนของเส้นที่อยู่ทางซ้ายล่าง หากเราดึงปลายด้านซ้ายของ Curve ขึ้นแบบตรงๆ ส่วนมืดก็จะสว่างยิ่งขึ้น รวมถึงภาพทั้งภาพก็จะสว่างด้วย แต่ถ้าเราจับตรงกลางของ Curve ดึงลงมา ภาพจะสว่างน้อยลงและออกเป็นโทนตุ่นๆ ให้ฟีลพร่าๆมัวๆนิดนึง แล้วแต่คนชอบนะ จริงๆนอกจากเรื่องแสง เราสามารถปรับ Tone Curve ของสีได้ด้วย ไม่ว่าจะโทนสีแดง โทนสีเขียว หรือโทนสีน้ำเงิน ไปลองเล่นกันดูนะ

15.อย่าหวังพึ่งพาแต่ฟิลเตอร์

โปรดระลึกเสมอว่า โลกนี้ไม่มีฟิลเตอร์หรือพรีเซตที่กดคลิกเดียวแล้วรูปออกมาสวยในทันที เพราะเวลาเราถ่ายต่างแสงต่างสถานที่ ภาพมันก็ดูไม่เหมือนกันตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเราต้องยืดหยุ่นให้เป็นด้วยนะครับ พยายามฝึกฝนจนรู้ให้ได้ว่าภาพของเราขาดอะไร ต้องเพิ่มหรือลดอะไร อย่าหวังพึ่งฟิลเตอร์เพียงอย่างเดียวล่ะ

ในVSCOcamหรือหลายๆแอปพลิเคชั่นจะมีฟิลเตอร์ให้ใช้ ซึ่งมันจะส่งผลกับเนื้อสีของภาพโดยรวม บางอันทำให้สีสันซีดลง และบางอันก็มีผลกับส่วน Shadows และ Highlights เจ้าฟิลเตอร์เนี่ยสามารถใช้ได้นะครับ และเราไม่กำหนดด้วยว่าจะต้องใช้อันไหน เพราะมันแล้วแต่คนชอบจริงๆ ความฐาเองก็ไม่ได้มาจากฟิลเตอร์เป็นหลัก

สรุป

รู้หลักแล้ว ทีนี้อยากจะฐาแค่ไหนก็แล้วแต่ตัวเองเลยครับ อยากสว่างมากสว่างน้อยก็แล้วแต่ ส่วนเรื่องสีสดหรือสีซีดเนี่ยก็ค่อยไปปรับSaturationเอาตามความพอใจ อย่าลืมว่าโลเคชั่นและสภาพแสงสำคัญที่สุด! จากการถามคนที่แต่งรูปแนวนี้หลายๆคน แนวทางการแต่งจะคล้ายๆกัน แต่ไม่ได้เหมือนกันแบบ100% เพราะแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกันน่ะเนอะ

โอย เป็นบทความที่ใช้นางแบบเปลืองเหลือเกิน

ติดตามบทความใหม่ๆได้ทาง Facebook / Twitter / Instagram นะครับ มีเรื่องใหม่ปุ๊บจะแจ้งให้ทราบ หากว่าอยากจะย้อนอ่านบทความเก่าๆ สามารถอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยนะจ๊ะ medium.com/@torcnn

ไปละ บรัย

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn