รีวิว Canon EOS M50 กล้องมิเรอร์เลสตัวท็อปสำหรับ Beginner

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readJul 15, 2018

--

“กล้องมิเรอร์เลสรุ่นพี่ของ Canon EOS M100 มาแล้ว”

สวัสดีครับ เรา @torcnn นะ

กล้องมิเรอร์เลสของแคนนอนเดี๋ยวนี้มีออกมาหลายรุ่นมากๆครับ แต่ล่าสุดแคนนอนก็ยังปล่อยกล้องรุ่นใหม่อย่าง Canon EOS M50 ออกมาเพิ่มอีกเมื่อต้นปี 2018 นี้ ซึ่งรุ่นนี้เป็นกล้องระดับ Beginner ตัวท็อป โดยมีช่องมองภาพมาให้ และมีวิดีโอ 4K ด้วย

เราจะรีวิว Canon EOS M50 เป็นพาร์ทๆนะครับ

เซนเซอร์

ใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ดังนั้นเอาเลนส์อะไรไปติดก็ต้องจับตัวเลขคูณ 1.6 เข้าไปด้วยนะถึงจะได้ระยะเทียบเท่า (เช่นติดเลนส์ 22mm ก็ต้องเอา 22x1.6 ก็จะได้ระยะเทียบเท่า 35.2mm)

ความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล จำนวนพิกเซลเท่านี้ก็ถือว่ามาตรฐานครับ เหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป

กล้องสามารถดัน ISO ได้ตั้งแต่ 100–25,600 (ขยายได้ถึง 51,200) เดี๋ยวจะให้ดูรายละเอียดคร่าวๆนะครับ อันนี้คือภาพเต็มๆที่เราเอามาเทสให้ดู

ใช้ ISO ที่ 800 ซูมรายละเอียด ยังคลีนๆครับ ใช้งานได้สบาย

ISO ที่ 1600 เห็น Noise เม็ดๆเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย แต่รวมๆยังคลีนอยู่

ที่ ISO 3200 จะเห็นว่ามี Noise หนักขึ้น แต่ยังไม่ได้รบกวนภาพเยอะจนเกินไป

ที่ ISO 6400 อันนี้รายละเอียดจะถูกกลบด้วย Noise พอสมควรละ แต่ภาพรวมยังคงใช้ได้อยู่ครับ รวมๆจัดว่าทำได้ดีเลยสำหรับกล้องเซนเซอร์ APS-C

ไฟล์ RAW

เรื่องแรกเลยคือไฟล์ RAW เปลี่ยนไปใช้นามสกุลใหม่ครับ คือ .CR3 ประโยชน์คือมันยังคงความเป็นไฟล์ RAW แบบเดิมอยู่แหละ แต่ว่าไฟล์มีขนาดเล็กลง ทำให้เราเก็บภาพได้เยอะขึ้นไปอีก ไฟล์นึงอยู่ที่ประมาณ 16–20MB เท่านั้น

คุณภาพของไฟล์อยู่ในระดับดีครับ สามารถเอามาดึงเล่นได้อิสระ เปิดรายละเอียดส่วน shadows ได้โอเค และรายละเอียดส่วน highlights อย่างท้องฟ้า ถ้ายังมีสีฟ้าเหลืออยู่นิดๆก็สามารถดึงเอากลับมาได้นะ

การถ่ายเป็นไฟล์ RAW จะสามารถนำมาแก้ไวท์บาลานซ์ทีหลังได้ครับ

ระบบประมวลผล Digic 8

Canon EOS M50 มีการใช้ระบบประมวลผลใหม่ Digic 8 ที่ช่วยให้โฟกัสในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นครับ นี่เป็นกล้องตัวแรกที่ใช้ระบบประมวลผลตัวใหม่นี้เลยด้วย

ระบบโฟกัส

Canon EOS M50 มีระบบโฟกัส 2 แบบ คือ Contrast Detection กับ Phase Detection ครับ กล้องซีรีส์ M ของแคนนอนสมัยนี้จะมี Phase Detection ทุกตัวอะ (ทางแคนนอนเรียกระบบนี้ว่า Dual Pixel) ซึ่งนับเป็นพื้นฐานที่ดี เพราะมันเป็นระบบโฟกัสที่ช่วยให้โฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เวลาที่เราถ่ายอะไรอยู่แล้วมีจุดสนใจใหม่เข้ามาในภาพ กล้องจะสามารถตรวจจับและเปลี่ยนจุดโฟกัสไปมาได้โดยใช้เวลาไม่นาน เป็นประโยชน์กับงานวิดีโอมากๆ

ช่องมองภาพ (Viewfinder)

Canon EOS M50 มีช่องมองภาพมาให้ด้วย นี่น่าจะเป็นกล้องแคนนอนซีรีส์ M พร้อมช่องมองภาพที่เปิดตัวราคาถูกที่สุดแล้วแหละ

ช่องมองภาพจะช่วยได้มากในสภาวะที่แสงล้น เช่นเวลาถ่ายกลางแดดซึ่งปกติเราจะมองหน้าจอไม่ค่อยเห็น การส่องเข้าไปในช่องมองภาพนี่ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้เยอะ

หน้าจอ

หน้าจอเป็นแบบสัมผัส สามารถพลิกออกด้านข้างได้ และหมุนได้ตามใจชอบเลย ข้อดีก็คือเราอยากจะได้มุมไหนเราก็ได้ จะมุมเสย มุมกด มาหมด แต่ข้อเสียก็คือมันมักใช้เวลาเยอะกว่านิดหน่อยในการพลิกปรับ หากเทียบกับกล้องที่จอพลิกแค่ขึ้นบน-ลงล่าง

พลิกมาเซลฟี่ก็ได้อะ แต่มันยังไม่180องศานะ เหมือนขาดไป 1–2 องศานี่แหละ 555

เราสามารถใช้หน้าจอสัมผัสนี้ควบคู่กับตอนเราส่องช่องมองภาพได้นะครับ ระหว่างที่เราส่องอยู่ เราสามารถเอานิ้วแตะเลื่อนๆบนหน้าจอเพื่อขยับจุดโฟกัสได้เลย

ปุ่มต่างๆและการควบคุม

แม้ปุ่มมีไม่เยอะมาก แต่การควบคุมกล้อง Canon EOS M50 สามารถควบคุมได้ด้วยมือขวามือเดียวเกือบจะทั้งหมดครับ บริเวณด้านขวานอกจากมีปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มวิดีโอ วงแหวนปรับโหมด ยังมีวงแหวนปรับค่ากล้อง (Control Dial) มาให้อีก1วง พร้อมกับปุ่ม M-Fn ด้วย

มองเผินๆ หากเป็นกล้องระดับเริ่มต้นทั่วๆไปที่มีวงแหวนปรับค่ากล้องมาให้แค่1วง อาจจะพาให้คิดว่าเวลาใช้โหมด Manual มันต้องใช้สองมือปรับควบคู่กันเสมอ แต่ Canon EOS M50 ไม่เป็นอย่างนั้นครับ เนื่องจากเราสามารถกดปุ่ม M-Fn เพื่อสลับการควบคุมไปมาระหว่างค่าความเร็วชัตเตอร์กับค่ารูรับแสงได้

ตำแหน่งของปุ่ม M-Fn ก็ไม่ได้อยู่ตรงไหนไกล มันก็อยู่ข้างๆปุ่มชัตเตอร์นั่นแหละ

ถ้าใครไม่ชอบควบคุมด้วยวงแหวน ก็สามารถกดหน้าจอแทนได้ ไม่มีดีเลย์ เรื่องนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล สำหรับคนที่โปรอยู่แล้วอาจจะรู้สึกว่าการกดจอมันช้ากว่าการหมุนวงแหวน แต่กับคนที่หัดเล่นใหม่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันง่ายกว่า

มาที่ด้านหลัง รวมๆแล้วปุ่มมีไม่เยอะ มีเครื่องหมายกำกับไว้ชัดเจน ติดอยู่อย่างเดียวคือมันมีปุ่ม AF-MF อยู่ในตำแหน่งที่กดง่ายไปหน่อย ซึ่งมันเป็นปุ่มที่เอาไว้สลับโหมดระหว่าง “ออโต้โฟกัส กับ แมนนวลโฟกัส” เกรงว่าคนหัดใหม่ๆบังเอิญมือไปโดนแล้วปรับกลับไม่เป็นจะสับสนเอาได้ เราจึงแจ้งไว้เพื่อทราบ

ตัวกล้องมีแฟลชให้ใช้งาน แต่ไม่ได้มีปุ่มกดเพื่อให้แฟลชเด้งขึ้นมา เราต้องใช้มือดึงแฟลชขึ้นมาด้วยตัวเอง

เซลฟี่

สีสวยครับ จบ แคนนอนไม่เคยทำให้ผิดหวังหรอกเรื่องสีผิว คือมันไม่ชมพูเว่อจนเกินไป กำลังพอเหมาะพอดี

ด้วยความที่หน้าจอมันพลิกออกด้านข้าง ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆที่จอพลิกขึ้นหรือพลิกลง ทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องการเซลฟี่นะครับ อย่าไปมองที่จอด้านข้างล่ะ

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

ถ้าโฟกัสต่อเนื่องจะถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ประมาณ 7.4 ภาพต่อวินาทีครับ แต่ถ้าโฟกัสจุดเดียวจะถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 10 ภาพต่อวินาที

วิดีโอ

อย่างแรกเลยคือมันมีช่องเสียบไมค์ครับ!! 555 ไม่ต้องห่วงเรื่องการบันทึกเสียงละ

มีวิดีโอ 4K ที่ 24p มาให้ใช้งานด้วย แต่ 4K ยังไม่สามารถนับเป็นงานหลักของกล้องตัวนี้ เพราะเมื่อตั้งค่าเป็น 4K มันจะถูกครอปเข้าไปอีก 1.7 เท่า อีกเรื่องคือพอถ่าย 4K กล้องมันจะไม่สามารถโฟกัสต่อเนื่องได้ เราต้องหมุนเอาเอง

อย่างไรก็ตาม วิดีโอ Full HD (1920 x 1080 @ 60p) ยังเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้ดีมากๆ เหตุผลนึงก็เพราะว่ากล้องมันมีกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ครับ

กันสั่นอิเล็กทรอนิกส์

กันสั่นอิเล็กทรอนิกส์พูดง่ายๆก็เป็นการครอปภาพเข้าไปเพื่อลดความสั่นไหว ทำให้แม้ไม่มี Gimbal ก็สามารถได้ฟุตเทจที่ลื่นไหลได้ และก็ครอปออกไปไม่เยอะนะ แค่ประมาณ 1.1 เท่า

ด้วยกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ผสมกับสีสันของใบหน้าคนที่ออกชมพูนิดๆในวิดีโอ ทำให้มันเป็นกล้องที่เหมาะกับการ vlog ครับ หันกล้องถือถ่ายหน้าตัวเองได้สบายๆเลย สีสวยดี ภาพไม่สั่นรุนแรง ฟุตเทจพร้อมใช้

สำหรับคนที่จะ vlog จริงจังนะครับ หากใช้เลนส์ 11–22mm มาถ่ายจะให้ภาพมุมกว้างสวยงามกว่า แต่เท่าที่สังเกต ภาพจะสั่นกว่าเลนส์คิตอยู่นิดหน่อย

ส่วนภาพนิ่งก็โอเคอยู่ ภาพนี้เราใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1 วินาที เอากล้องพาดกับราวจับริมสะพาน ก็ยังไหวครับ

แบตเตอรี่

มีที่ชาร์จแยกให้ เมื่อชาร์จเต็มที่ถ่ายได้ประมาณ 235 ภาพ จัดว่าไม่เยอะมากครับ อาจจะต้องหาแบตสำรองมาติดไว้ซักก้อน

บอดี้ น้ำหนัก และการจับถือ

ว่าด้วยเรื่องดีไซน์ก่อน ดีไซน์ออกมาไม่เหมือนตัวไหนในซีรีส์ M ซักตัวครับ แต่เอาตรงๆเลยนะ ถึงไม่มีโลโก้ Canon แปะที่หัวก็รู้อยู่ดีอะว่าดีไซน์แบบนี้นี่กล้อง Canon ชัวร์ 5555 หน้าตาเหมือนยกกล้อง DSLR แคนนอนมาฉายไฟฉายย่อส่วน

บอดี้ Canon EOS M50 จัดว่าเล็กมากสำหรับกล้องที่มีช่องมองภาพ น้ำหนักแค่ 390 กรัมเท่านั้น

ที่สำคัญคือมันมี Grip ที่ยื่นออกมาให้จับ ลองแล้วเข้ามือดีครับ มีพื้นที่ให้วางนิ้วโป้งที่ด้านหลังด้วย

บอดี้เค้าจะมีให้เลือก 2 สีคือสีขาวกับดำนะ เลนส์คิตก็จะมี 2 เวอร์ชั่นตามสีกล้องด้วย

เลนส์คิต

เลนส์คิตที่มาพร้อมกับกล้องตัวนี้คือเลนส์ 15–45mm f3.5–6.3 ซึ่งเมื่อคูณ 1.6 ตามคุณสมบัติของเซนเซอร์ก็จะได้เป็นช่วง 24–72mm ครอบคลุมแทบทุกช่วงที่คนเราถ่ายในชีวิตประจำวันแหละ แต่รูรับแสงที่ 6.3 จัดว่าค่อนข้างแคบ ยิ่งซูมเยอะ ก็จะทำให้แสงเข้ามาในภาพได้น้อยลง

เลนส์คิตตัวนี้มี Distortion พอสมควรนะครับที่ระยะ 15mm (กว้างสุด) ทำให้มันอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเวลาใช้ถ่ายสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพราะเราจะสังเกตเห็นความบิดเบี้ยวได้ในภาพครับ ลองมองที่พื้นด้านล่างดู

แต่เราสามารถกดแก้ไขความบิดเบี้ยวนี้ได้ใน Lightroom นะ คลิกเดียว

สำหรับมือใหม่ จะเอาเลนส์คิตมาเรียนรู้ก็เป็นเรื่องดีครับ แนะนำเลยแหละ แต่สำหรับใครที่มีประสบการณ์อยู่บ้าง รู้ว่าเราจะถ่ายอะไร เราแนะนำให้มองข้ามเลนส์คิตแล้วออกเลนส์เฉพาะทางไปเลย จะเป็นประโยชน์มากกว่า

ราคา

  1. EOS M50 (เฉพาะตัวกล้อง) 24,190 บาท
  2. EOS M50 (พร้อมเลนส์ EF-M 15–45mm f/3.5–6.3 IS STM) 27,290 บาท
  3. EOSM50(พร้อมเลนส์EF-M15–45mmf/3.5–6.3ISSTM และ EF-M55–200mm f/4.5–6.3 IS STM) 36,790 บาท

สำหรับแพ็กเกจแรก(1)เหมาะกับคนที่รู้อยู่แล้วว่าต้องการซื้อเลนส์อะไรเพิ่ม หรือตั้งใจจะใช้คู่กับเลนส์ DSLR Canon ที่มีอยู่อยู่แล้วครับ ส่วนแพ็กเกจถัดมา(2)เหมาะกับคนที่เป็นมือใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะออกเลนส์ไปในทิศทางไหน ก็ลองเอาเลนส์คิตมาฝึกฝนดูก่อน ส่วนแพ็กเกจสุดท้าย(3)เหมาะกับคนที่เน้นช่วงครบๆ อยากได้ทั้งระยะทั่วไป จนถึงระยะซูมที่ไกลมากๆ

สรุป

กล้อง Canon EOS M50 เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นที่สเปคโอเคตัวนึงครับ ใครที่ชอบสีสันภาพของ Canon อยู่แล้วก็น่าจะตัดสินใจได้ไม่ยาก งานสาย vlog ก็ยังแจ่มเหมือนเดิมด้วย ยังไงก็ตามเราจะลิสต์ข้อดีและข้อสังเกตให้เป็นข้อๆนะครับ

ข้อดี

  1. สีภาพสวยอยู่แล้ว เหมาะมากๆกับคนที่กะจะถ่ายแค่ไฟล์ JPEG ไปใช้งาน
  2. เปลี่ยนจุดโฟกัสไปมาได้ลื่นไหล รวดเร็วดี เพราะมี Dual Pixel
  3. หน้าจอสัมผัส หมุนได้ทุกทิศทาง สัมผัสสั่งงานได้ทุกอย่างตั้งแต่ตั้งค่ายันถ่ายรูป
  4. มีช่องมองภาพ ช่วยได้เวลาถ่ายกลางแจ้ง
  5. สามารถปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงได้ด้วยมือเดียวแม้มีวงแหวนแค่1วง
  6. กันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ดีมาก แม้จะมีการครอปบ้าง แต่ออกมาลื่นไหลดี
  7. กริปยื่นออกมาพอสมควร วางนิ้วได้ประมาณ2–3นิ้ว มีที่พักนิ้วโป้งด้านหลังบอดี้
  8. ขนาดเล็กมาก น้ำหนักเบา
  9. สามารถต่อ Adapter เพื่อใช้เลนส์ DSLR ของแคนนอนได้

ข้อสังเกต

  1. พื้นที่โฟกัสจะครอบคลุมแค่ไหนขึ้นอยู่กับเลนส์ที่เลือกใช้ครับ ถ้าเป็นเลนส์ EF-M 18–150mm F3.5–6.3, 55–200mm F4.5–6.3 และ28mm F3.5 macro จะครอบคลุมมากที่สุด (88 x 100% กับจุดโฟกัส 121 จุด) แต่ถ้าไม่ใช่เลนส์เหล่านี้ ความครอบคลุมจะลดลง และจุดโฟกัสจะลดเหลือแค่ 99 จุด
  2. 4K ที่ใส่มาให้ยังไม่เหมาะใช้งานเต็มรูปแบบ เพราะมีการครอปภาพอยู่พอสมควร แต่สำหรับกล้อง Beginner ก็ถือว่าดีที่ใส่มาให้
  3. มีวงแหวนควบคุม 1 วง การควบคุมจะช้ากว่าสำหรับคนที่ชำนาญแล้ว
  4. แบตยังไม่อึด อาจต้องสำรองไว้อีกก้อนหากออกทริป

เท่านี้ครับกับรีวิว Canon EOS M50 เพื่อนๆสามารถอ่านบทความอื่นๆได้ทาง medium.com/torcnn เช่นเคยนะครับ ส่วนใครที่เล่น Twitter หรือ Facebook ก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้ครับ

ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn