รีวิว Canon EOS M100 กล้องมิเรอร์เลสตัวเล็กน่ารักพร้อมระบบโฟกัส Dual Pixel

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readNov 23, 2017

--

“อีกหนึ่ง vlogging camera ที่น่าจับตาของ Canon!”

สวัสดีครับ เรา @torcnn เองเด้อ

หลังจากที่ Canon ไปพัฒนากล้องมิเรอร์เลสระดับที่สูงกว่าอยู่นาน แฟนๆก็พากันคาดหวังให้เค้าทำรุ่นล่างให้โฟกัสเร็วๆแบบรุ่นพี่ M5 และ M6 บ้าง ไม่รู้ว่าความคิดนั้นไปเข้าหูผู้พัฒนาของ Canon หรืออย่างไร เพราะล่าสุด Canon ได้เปิดตัวกล้องรุ่น EOS M100 ซึ่งถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่เอาเทคโนโลยีโฟกัสระดับ M6 มาใช้ด้วย!

Background

กล้อง Canon EOS M100 เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นซีรีส์ใหม่ที่ถูกวางไว้เหนือ M10 แต่ยังจัดเป็นซีรีส์ที่อยู่ข้างล่าง M3 อีกทีนึงครับ ถ้าจะเรียงจากระดับบนไปล่างก็คือ M5 > M6 > M3 > M100 > M10

ภายนอกของ M100 จะดูคล้ายคลึงกับรุ่น M10 คือจะคลีนๆ ปุ่มน้อย มีรูปร่างแบนๆ แต่บอดี้ด้านหน้าจะมีลวดลายขรุขระๆเพิ่มเข้ามา

เราจะกล่าวถึงสเปคเป็นพาร์ทๆเหมือนเดิม เริ่มเลยนะครับ

เซนเซอร์

เซนเซอร์ที่ใช้เป็นเซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C (จับเลนส์อะไรไปติดต้องคูณ1.6ถึงจะได้ระยะเทียบเท่าครับ เช่นเอาเลนส์ 22mm ไปติด จะได้ระยะ 22x1.6 = 35mm) เซนเซอร์มีพัฒนาการจาก M10 โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 24 ล้าน จากเดิม 18 ล้าน

ค่า ISO ที่สามารถปรับได้อยู่ในช่วง 100 ถึง 25,600 และขนาดของภาพที่ถ่ายได้มีอัตราส่วนที่ 3:2 ครับ

ชัตเตอร์

ชัตเตอร์เร็วสุดที่ 1/4000 วินาที ช้าสุด 30 วิ มีโหมดBulbให้ใช้งาน ไม่มีโหมด Silent Shooting นะครับ

การโฟกัส

ไฮไลต์ของกล้อง Canon EOS M100 ก็คือเรื่องการโฟกัสนี่แหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นกล้องระดับเริ่มต้น แต่ยกเครื่องระบบโฟกัสใหม่ให้เป็นแบบ Dual Pixel สำหรับคนทั่วๆไปที่ยังใหม่กับเรื่องกล้องอาจยังไม่ทราบครับว่า Dual Pixel คืออะไร แต่เราบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้กล้องตัวนึงดีกว่าอีกตัว

เจ้า Dual Pixel เนี่ยเป็นชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกเทคโนโลยีการโฟกัสของ Canon ครับ จริงๆแล้วถ้าจะกล่าวถึงมันให้สากลกว่านี้(เอาชื่อที่คนทั้งโลกเค้าเรียกกัน) มันก็คือการโฟกัสชนิด Phase Detection Autofocus นั่นแหละ

Phase Detection Autofocus (PDAF) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้กล้องคำนวณระยะโฟกัสได้ เมื่อทราบว่าขาดเหลือเท่าไหร่ กล้องก็จะบอกให้เลนส์ชดเชยระยะโฟกัสไปจำนวนเท่านั้น ทำให้โฟกัสได้เร็วกว่าโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สิ่งที่เราถ่ายมีการเคลื่อนไหวเข้าออก

ระบบนี้จะแตกต่างจากระบบโฟกัสชนิดจับคอนทราสต์ (Contrast Detection) ดั้งเดิมที่เราคุ้นชินกัน ที่มักจะหมุนเลนส์โฟกัสเข้าออกไปเรื่อยๆจนกว่าจะจับคอนทราสต์ได้ ทำให้ในบางสถานการณ์อาจจะกินเวลานาน

ด้านล่างเป็นตัวอย่างการโฟกัสต่อเนื่องของ Canon EOS M100 ครับ จะเห็นว่ากล้องสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสเข้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อน้องยื่นดอกไม้เข้ามาใกล้ และเปลี่ยนจุดโฟกัสกลับตามเดิมเมื่อน้องเอาดอกไม้ออก ระยะเวลาในการโฟกัสจัดว่าแทบไม่ต้องรอเลย ทำได้ดีครับ

แต่การโฟกัสแบบ Dual Pixel ของ Canon EOS M100 จะครอบคลุมเฉพาะบริเวณกลางภาพนะครับ ไม่ได้ครอบคลุมบริเวณขอบภาพ

ปุ่มต่างๆและการควบคุม

ตามตรงเลยคือมันยกคอนเซปของ Canon EOS M10 มา ปุ่มจะน้อยๆ ดูอย่างข้างบนนี่มีแค่ปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มวิดีโอ ส่วนวงแหวนปรับเมนูก็มีอยู่เพียงสามโหมด ดังนั้นคนที่ชอบอะไรง่ายๆ ไม่อยากเห็นเมนูเยอะๆให้ตาลาย น่าจะถูกใจรุ่นนี้ครับ

ด้านบน แทบไม่มีอะไรให้ดูวุ่นวายเลย
  • โหมด Scene Intelligent Auto (สีเขียวๆ) เหมาะกับสถานการณ์ที่อยากคิดน้อยๆครับ ให้กล้องคิดให้ไปเลย โหมดนี้จะปรับค่าอะไรไม่ค่อยได้
  • โหมดถ่ายภาพ (รูปกล้อง อยู่ตรงกลาง) อันนี้จะเหมาะกับคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้องในระดับนึง เราสามารถเข้าถึงโหมด M, Av, Tv, P ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงลูกเล่นต่างๆผ่านโหมดนี้ได้ด้วย
  • โหมดวิดีโอ เมื่อปรับใช้แล้วมันจะปรับอัตราส่วนภาพเป็น 16:9 โดยอัตโนมัติ เมนูต่างๆที่สนับสนุนการถ่ายวิดีโอจะโผล่ขึ้นมา เรายังสามารถกดชัตเตอร์ถ่ายรูปตามปกติได้ แต่ภาพที่ได้จะเป็นขนาด16:9 ดังนั้นอย่าลืมเปลี่ยนโหมดล่ะ

รอบๆปุ่มชัตเตอร์จะมีวงแหวนปรับค่า ซึ่งใช้ปรับได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสง การปรับค่าต่างๆเหล่านี้จำเป็นต้องใช้การสัมผัสหน้าจอร่วมด้วยอยู่เสมอๆ

ด้านหลัง ปุ่มน้อยมากเหมือนรุ่น M10

ด้านข้างของกล้องจะมีปุ่มไกที่เลื่อนให้แฟลชเด้งขึ้นมาได้

มีแฟลชให้ใช้งาน

หน้าจอ

หน้าจอพับเซลฟี่ได้180องศา เป็นแบบทัชสกรีน อันนี้จะมีประโยชน์มากๆเวลาเลือกจุดโฟกัสครับ เราสามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกที่ที่เราจะโฟกัสได้เลย เรื่องนี้ไม่ได้ดีต่อภาพนิ่งเพียงอย่างเดียว แต่กับวิดีโอก็เป็นประโยชน์ด้วย

พลิกจอขึ้นได้ 180 องศา

เซลฟี่

เซลฟี่นี่จัดเป็นเรื่องสำคัญสุดๆเลยสำหรับกล้องระดับเริ่มต้นครับ จะอยู่หรือตายนี่แทบจะเป็นเรื่องชี้ชัด 555 เราเลยขอเทสเรื่องเซลฟี่ให้ดูกันนิดนึง

เวลาพลิกจอขึ้นมาเซลฟี่เนี่ย มันจะมีโหมดนึงชื่อว่าโหมด Self-Portrait (แสดงขึ้นมาตอนเราพลิกจอ) ซึ่งเราจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ครับ ฟังก์ชั่นนี้จะอยู่บนหน้าจอเราเลย อยากใช้ก็กดเอา

ลองดูแบบไม่ใช้โหมด Self-Portrait ก่อน อันนี้เป็นโหมดออโต้ธรรมดาครับ เอาแบบให้กล้องคิดให้เลย สังเกตได้ว่าสีผิวจะออกชมพูเล็กๆ ภาพตัวอย่างไม่ได้ปรับสีหรือปรับแสงนะครับ

Auto
Auto

มาถึงโหมด Self-Portrait บ้าง โหมดนี้พอกดใช้ เราสังเกตได้เลยว่าสีผิวจะออกส้มกว่าโหมดออโต้เล็กน้อย แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างคือความเนียนของผิว โหมด Self-Portrait ผิวจะเนียนกว่าอย่างชัดเจน และความเนียนสามารถปรับระดับได้

Self- Portrait
Self- Portrait

ลองดูเทียบกันครับ ถ้าเปิดฟังก์ชั่น Self-Portrait เวลาเซลฟี่ผิวจะเนียนกว่ามาก เกลี่ยทุกรูขุมขนยันไรผม แต่สีจะไม่ออกชมพูเหมือนเวลาใช้โหมดออโต้ครับ

โหมดออโต้ กับ Self-Portrait

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

เนื่องจากมีการใช้ระบบประมวลผลใหม่ชื่อ DIGIC 7 ทำให้ถ่ายต่อเนื่องได้รัวขึ้นที่ 6 ภาพต่อวินาที

วิดีโอ

วิดีโอละเอียดสุดเป็น Full HD (1920 x 1080/60p) ความลื่นไหลของภาพย่อมดีกว่าตัว M10 ที่ 30p แน่นอน

เวลาถ่ายวิดีโอ เราสามารถเปิดใช้งานกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ได้ (มันจะเหมือนกับเรา Crop ภาพเข้าไปนิดหน่อยเพื่อให้วิดีโอของเราดูเหมือนสั่นไหวน้อยลง) ฟังก์ชั่นนี้ใช้งานพอได้ครับ ลดการสั่นไหวได้ระดับหนึ่ง

นี่คือตัวอย่างตอนเดินถือถ่ายปกติ

ลองกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์

ลูกเล่นต่างๆ

ในโหมดถ่ายภาพ มันจะมีลูกเล่นต่างๆให้เราสามารถเลือกใช้กันได้ครับ อันที่ดูเข้าท่าที่สุดเราว่าคือโหมด Toy Camera ซึ่งจะให้ฟีลภาพออกโทนเขียวๆ เก่าๆ สวยดีครับ

Toy Camera

พวกขาวดำก็มีให้ใช้งานเหมือนกัน เหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์มเลย

B/W Grain

แต่มันจะมีฟังก์ชั่นนึงที่เรียกได้ว่าแทบจะใช้จริงไม่ได้คือ Fish-eye ครับ มันเอียงจนประหลาด เว้นแต่จะเอาไว้แกล้งเพื่อน 555

ฟิชอาย

บอดี้และการจับถือ

ขนาดเล็กกำลังน่ารัก ข้อดีที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความจิ๋วและหน้าตาที่เป็นมิตรคือมันไม่สร้างความรำคาญให้คนที่ถูกถ่ายมากเท่ากล้องตัวใหญ่ๆ

บอดี้น้ำหนัก 302 กรัมเท่านั้น (รวมแบตและ SD Card) แต่สิ่งที่แลกมากับน้ำหนักเบาๆคือมันไม่มี Grip ด้านหน้า แต่ด้านหลังของบอดี้จะมีพื้นที่ให้วางนิ้วโป้งยื่นออกมานิดหน่อย วัสดุเป็นเหมือนยางๆ ช่วยให้เวลาจับไม่หลุดมือง่ายๆ

เนื่องด้วยความที่มันไม่มี Grip ด้านหน้า ส่วน Grip ด้านหลังก็ไม่ได้ยื่นออกมามากนัก มันจึงไม่เหมาะกับคนมือใหญ่ๆโดยเฉพาะคุณผู้ชายครับ แต่กับสาวๆมือเล็กๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

บอดี้ไม่ได้ทนฝุ่นทนฝนนะ จะใช้งานต้องระมัดระวังเรื่องน้ำและอุณหภูมิดีๆ อย่าพาไปเที่ยวเจอหิมะเด็ดขาด

เลนส์คิต

เลนส์คิตหรือเลนส์ที่ติดมากับกล้องคือเลนส์ 15–45mm f3.5–6.3 เป็นเลนส์ที่ใช้ถ่ายทั่วๆไปได้ แต่ไม่ได้เก่งทางใดทางหนึ่งครับ เอาไว้ฝึกถ่ายรูปสนุกๆพอได้อยู่

เลนส์คิต 15–45mm

ตัวเลนส์มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เวลาจะใช้งานทุกครั้งต้องปลดล็อกด้วยการหมุนให้เลนส์ยื่นออกมา เวลาใช้เสร็จก็หมุนกลับให้เข้าที่ด้วยนะ ปุ่มปลดล็อกอยู่ตำแหน่งตามภาพข้างล่างเลย เลื่อนขึ้นแล้วก็หมุนเลนส์ทุกครั้งที่ใช้

เลื่อนขึ้นและหมุนเลนส์เพื่อปลกล็อกทุกครั้ง

หลายคนอาจสงสัยว่าเลนส์คิตตัวนี้เนี่ยมันเบลอหลังได้มากแค่ไหน ต้องบอกก่อนครับว่ามันเบลอได้ไม่มาก แต่จะเบลอได้พอประมาณเมื่อใช้ถ่ายวัตถุขนาดเล็กๆ และพื้นหลังอยู่ไกล

เบลอได้อยู่

บริเวณขอบภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้จะเบี้ยวๆนิดนึง ถ้าใช้ถ่ายทั่วๆไปจะไม่เห็นความต่าง แต่เวลาใช้ถ่ายอะไรที่เป็นเส้นตรงอย่างเช่นสถาปัตยกรรมอาจจะต้องระวังนิดนึง จากรูปข้างล่างลองสังเกตด้านบนของภาพดู

ใครที่อยากถ่ายรูปให้ออกมาดูขายาวๆก็ให้เอาขาของตัวแบบไว้บริเวณริมๆของภาพ ช่วงมุมกว้าง(ใช้ระยะประมาณ15mm)ของเลนส์ตัวนี้จะช่วยยืดขาให้ยาวขึ้นได้ แต่หากถ่ายมุมกด อาจจะออกมาหัวโตและขาสั้น ดังนั้นควรใช้อย่างระวังนะครับ

เอาขาไว้บริเวณขอบๆ ช่วงขาจะยาวขึ้นกว่าความเป็นจริงนิดหน่อย
อย่าถ่ายมุมกดแบบนี้ พี่ขอร้อง

การส่งภาพ

มีทั้ง Wi-Fi, Bluetooth และ NFC ครับ เลือกช่องทางกันตามสะดวก

แบตเตอรี่

ถ่ายได้ประมาณ 295 ช็อต และจะมีที่ชาร์จแบตแยกให้ครับ แบตเตอรี่เป็นคนละรุ่นกับ Canon M5 และ M6 โดยของ M100 จะมีขนาดเล็กกว่า เอาไปใช้ด้วยกันไม่ได้นะ

ราคา

มีให้เลือก2แพคเกจครับ

  • Canon EOS M100 +15–45mm ราคา 22,990
  • Canon EOS M100 +15–45mm กับ 22mm 27,990

ถ้าอยากได้ภาพเบลอหลังนิดๆ หรือคิดว่ามีโอกาสถ่ายกลางคืนบ่อย เราขอแนะนำให้ซื้อแพคเกจที่2นะครับ

สรุป

กล้อง Canon EOS M100 เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นซีรีส์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่น M10 ในหลายๆด้านเลยครับ สเปคใหม่ช่วยส่งเสริมงานภาพนิ่งและวิดีโอได้เป็นอย่างดี เราจะลิสต์ข้อดีและข้อสังเกตให้เป็นข้อๆ จะได้ตัดสินใจกันง่ายๆนะครับ

ข้อดี

  1. ความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น24ล้าน เหลือเฟือต่อการใช้งานทั่วไป และสามารถนำไปอัดภาพขนาดใหญ่ได้โดยภาพไม่แตก
  2. ขนาดเล็ก หน้าตาเป็นมิตร
  3. เซลฟี่ได้ สีสันสวยดี
  4. ปุ่มไม่เยอะ ไม่งง เมนูไม่ซับซ้อน
  5. หน้าจอพับ180องศา แตะหน้าจอเพื่อสั่งการได้
  6. มีระบบโฟกัส Dual Pixel โฟกัสเข้ารวดเร็วดี
  7. ราคาไม่แพง กล้องที่มีระบบโฟกัส Dual Pixel ในราคาช่วงนี้มีน้อยมากๆนะครับ

ข้อสังเกต

  1. เหมาะกับคนมือเล็กๆ เพราะมันไม่มี Grip
  2. การใช้เลนส์ 15–45mm ต้องปลดล็อกก่อนใช้งานเสมอๆ
  3. ปุ่มน้อยทำให้การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆไม่อาจทำได้โดยเร็ว
  4. บอดี้ไม่ได้ทนฝุ่นทนฝน ต้องระมัดระวังการโดนน้ำและการเจออุณหภูมิหนาวจัด
  5. พื้นที่ที่โฟกัสแบบ Dual Pixel ได้ครอบคลุมเฉพาะบริเวณกลางๆภาพ
  6. เลนส์ของกล้องตระกูล EOS M ยังมีตัวเลือกไม่มากนัก คนที่อยากได้เลนส์เบลอหลังเยอะๆอาจจะต้องต่อ adapter กับเลนส์ DSLR Canon ใช้ไปก่อน

เท่านี้ครับกับรีวิว Canon EOS M100 ใครเป็นสายถ่าย vlog น่าจะชอบเพราะมันขนาดเล็กและโฟกัสต่อเนื่องได้รวดเร็ว หากใครที่กำลังสนใจ Canon G7X II อยู่ด้วย อันนี้ก็จะคล้ายๆรุ่นนั้นเพียงแต่เซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าแถมเปลี่ยนเลนส์ได้อีกด้วย

ใครที่อยากเห็นภาพเพิ่มเติมจากกล้องรุ่นนี้สามารถเลื่อนลงไปดูด้านล่างได้เลย

เพื่อนๆสามารถติดตามบทความอื่นๆได้ทาง medium.com/torcnn หรือมาพูดคุยกันทาง Twitter, Facebook และ Instagram ได้ครับ เราขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ และขอให้ทุกคนสนุกกับการถ่ายภาพนะจ๊ะ :D

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn