รีวิว Canon EOS M100 กล้องมิเรอร์เลสตัวเล็กน่ารักพร้อมระบบโฟกัส Dual Pixel
“อีกหนึ่ง vlogging camera ที่น่าจับตาของ Canon!”
สวัสดีครับ เรา @torcnn เองเด้อ
หลังจากที่ Canon ไปพัฒนากล้องมิเรอร์เลสระดับที่สูงกว่าอยู่นาน แฟนๆก็พากันคาดหวังให้เค้าทำรุ่นล่างให้โฟกัสเร็วๆแบบรุ่นพี่ M5 และ M6 บ้าง ไม่รู้ว่าความคิดนั้นไปเข้าหูผู้พัฒนาของ Canon หรืออย่างไร เพราะล่าสุด Canon ได้เปิดตัวกล้องรุ่น EOS M100 ซึ่งถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่เอาเทคโนโลยีโฟกัสระดับ M6 มาใช้ด้วย!
Background
กล้อง Canon EOS M100 เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นซีรีส์ใหม่ที่ถูกวางไว้เหนือ M10 แต่ยังจัดเป็นซีรีส์ที่อยู่ข้างล่าง M3 อีกทีนึงครับ ถ้าจะเรียงจากระดับบนไปล่างก็คือ M5 > M6 > M3 > M100 > M10
ภายนอกของ M100 จะดูคล้ายคลึงกับรุ่น M10 คือจะคลีนๆ ปุ่มน้อย มีรูปร่างแบนๆ แต่บอดี้ด้านหน้าจะมีลวดลายขรุขระๆเพิ่มเข้ามา
เราจะกล่าวถึงสเปคเป็นพาร์ทๆเหมือนเดิม เริ่มเลยนะครับ
เซนเซอร์
เซนเซอร์ที่ใช้เป็นเซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C (จับเลนส์อะไรไปติดต้องคูณ1.6ถึงจะได้ระยะเทียบเท่าครับ เช่นเอาเลนส์ 22mm ไปติด จะได้ระยะ 22x1.6 = 35mm) เซนเซอร์มีพัฒนาการจาก M10 โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 24 ล้าน จากเดิม 18 ล้าน
ค่า ISO ที่สามารถปรับได้อยู่ในช่วง 100 ถึง 25,600 และขนาดของภาพที่ถ่ายได้มีอัตราส่วนที่ 3:2 ครับ
ชัตเตอร์
ชัตเตอร์เร็วสุดที่ 1/4000 วินาที ช้าสุด 30 วิ มีโหมดBulbให้ใช้งาน ไม่มีโหมด Silent Shooting นะครับ
การโฟกัส
ไฮไลต์ของกล้อง Canon EOS M100 ก็คือเรื่องการโฟกัสนี่แหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นกล้องระดับเริ่มต้น แต่ยกเครื่องระบบโฟกัสใหม่ให้เป็นแบบ Dual Pixel สำหรับคนทั่วๆไปที่ยังใหม่กับเรื่องกล้องอาจยังไม่ทราบครับว่า Dual Pixel คืออะไร แต่เราบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้กล้องตัวนึงดีกว่าอีกตัว
เจ้า Dual Pixel เนี่ยเป็นชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกเทคโนโลยีการโฟกัสของ Canon ครับ จริงๆแล้วถ้าจะกล่าวถึงมันให้สากลกว่านี้(เอาชื่อที่คนทั้งโลกเค้าเรียกกัน) มันก็คือการโฟกัสชนิด Phase Detection Autofocus นั่นแหละ
Phase Detection Autofocus (PDAF) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้กล้องคำนวณระยะโฟกัสได้ เมื่อทราบว่าขาดเหลือเท่าไหร่ กล้องก็จะบอกให้เลนส์ชดเชยระยะโฟกัสไปจำนวนเท่านั้น ทำให้โฟกัสได้เร็วกว่าโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สิ่งที่เราถ่ายมีการเคลื่อนไหวเข้าออก
ระบบนี้จะแตกต่างจากระบบโฟกัสชนิดจับคอนทราสต์ (Contrast Detection) ดั้งเดิมที่เราคุ้นชินกัน ที่มักจะหมุนเลนส์โฟกัสเข้าออกไปเรื่อยๆจนกว่าจะจับคอนทราสต์ได้ ทำให้ในบางสถานการณ์อาจจะกินเวลานาน
ด้านล่างเป็นตัวอย่างการโฟกัสต่อเนื่องของ Canon EOS M100 ครับ จะเห็นว่ากล้องสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสเข้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อน้องยื่นดอกไม้เข้ามาใกล้ และเปลี่ยนจุดโฟกัสกลับตามเดิมเมื่อน้องเอาดอกไม้ออก ระยะเวลาในการโฟกัสจัดว่าแทบไม่ต้องรอเลย ทำได้ดีครับ
แต่การโฟกัสแบบ Dual Pixel ของ Canon EOS M100 จะครอบคลุมเฉพาะบริเวณกลางภาพนะครับ ไม่ได้ครอบคลุมบริเวณขอบภาพ
ปุ่มต่างๆและการควบคุม
ตามตรงเลยคือมันยกคอนเซปของ Canon EOS M10 มา ปุ่มจะน้อยๆ ดูอย่างข้างบนนี่มีแค่ปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มวิดีโอ ส่วนวงแหวนปรับเมนูก็มีอยู่เพียงสามโหมด ดังนั้นคนที่ชอบอะไรง่ายๆ ไม่อยากเห็นเมนูเยอะๆให้ตาลาย น่าจะถูกใจรุ่นนี้ครับ
- โหมด Scene Intelligent Auto (สีเขียวๆ) เหมาะกับสถานการณ์ที่อยากคิดน้อยๆครับ ให้กล้องคิดให้ไปเลย โหมดนี้จะปรับค่าอะไรไม่ค่อยได้
- โหมดถ่ายภาพ (รูปกล้อง อยู่ตรงกลาง) อันนี้จะเหมาะกับคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้องในระดับนึง เราสามารถเข้าถึงโหมด M, Av, Tv, P ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงลูกเล่นต่างๆผ่านโหมดนี้ได้ด้วย
- โหมดวิดีโอ เมื่อปรับใช้แล้วมันจะปรับอัตราส่วนภาพเป็น 16:9 โดยอัตโนมัติ เมนูต่างๆที่สนับสนุนการถ่ายวิดีโอจะโผล่ขึ้นมา เรายังสามารถกดชัตเตอร์ถ่ายรูปตามปกติได้ แต่ภาพที่ได้จะเป็นขนาด16:9 ดังนั้นอย่าลืมเปลี่ยนโหมดล่ะ
รอบๆปุ่มชัตเตอร์จะมีวงแหวนปรับค่า ซึ่งใช้ปรับได้ทั้งความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสง การปรับค่าต่างๆเหล่านี้จำเป็นต้องใช้การสัมผัสหน้าจอร่วมด้วยอยู่เสมอๆ
ด้านข้างของกล้องจะมีปุ่มไกที่เลื่อนให้แฟลชเด้งขึ้นมาได้
หน้าจอ
หน้าจอพับเซลฟี่ได้180องศา เป็นแบบทัชสกรีน อันนี้จะมีประโยชน์มากๆเวลาเลือกจุดโฟกัสครับ เราสามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกที่ที่เราจะโฟกัสได้เลย เรื่องนี้ไม่ได้ดีต่อภาพนิ่งเพียงอย่างเดียว แต่กับวิดีโอก็เป็นประโยชน์ด้วย
เซลฟี่
เซลฟี่นี่จัดเป็นเรื่องสำคัญสุดๆเลยสำหรับกล้องระดับเริ่มต้นครับ จะอยู่หรือตายนี่แทบจะเป็นเรื่องชี้ชัด 555 เราเลยขอเทสเรื่องเซลฟี่ให้ดูกันนิดนึง
เวลาพลิกจอขึ้นมาเซลฟี่เนี่ย มันจะมีโหมดนึงชื่อว่าโหมด Self-Portrait (แสดงขึ้นมาตอนเราพลิกจอ) ซึ่งเราจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ครับ ฟังก์ชั่นนี้จะอยู่บนหน้าจอเราเลย อยากใช้ก็กดเอา
ลองดูแบบไม่ใช้โหมด Self-Portrait ก่อน อันนี้เป็นโหมดออโต้ธรรมดาครับ เอาแบบให้กล้องคิดให้เลย สังเกตได้ว่าสีผิวจะออกชมพูเล็กๆ ภาพตัวอย่างไม่ได้ปรับสีหรือปรับแสงนะครับ
มาถึงโหมด Self-Portrait บ้าง โหมดนี้พอกดใช้ เราสังเกตได้เลยว่าสีผิวจะออกส้มกว่าโหมดออโต้เล็กน้อย แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างคือความเนียนของผิว โหมด Self-Portrait ผิวจะเนียนกว่าอย่างชัดเจน และความเนียนสามารถปรับระดับได้
ลองดูเทียบกันครับ ถ้าเปิดฟังก์ชั่น Self-Portrait เวลาเซลฟี่ผิวจะเนียนกว่ามาก เกลี่ยทุกรูขุมขนยันไรผม แต่สีจะไม่ออกชมพูเหมือนเวลาใช้โหมดออโต้ครับ
การถ่ายภาพต่อเนื่อง
เนื่องจากมีการใช้ระบบประมวลผลใหม่ชื่อ DIGIC 7 ทำให้ถ่ายต่อเนื่องได้รัวขึ้นที่ 6 ภาพต่อวินาที
วิดีโอ
วิดีโอละเอียดสุดเป็น Full HD (1920 x 1080/60p) ความลื่นไหลของภาพย่อมดีกว่าตัว M10 ที่ 30p แน่นอน
เวลาถ่ายวิดีโอ เราสามารถเปิดใช้งานกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ได้ (มันจะเหมือนกับเรา Crop ภาพเข้าไปนิดหน่อยเพื่อให้วิดีโอของเราดูเหมือนสั่นไหวน้อยลง) ฟังก์ชั่นนี้ใช้งานพอได้ครับ ลดการสั่นไหวได้ระดับหนึ่ง
นี่คือตัวอย่างตอนเดินถือถ่ายปกติ
ลูกเล่นต่างๆ
ในโหมดถ่ายภาพ มันจะมีลูกเล่นต่างๆให้เราสามารถเลือกใช้กันได้ครับ อันที่ดูเข้าท่าที่สุดเราว่าคือโหมด Toy Camera ซึ่งจะให้ฟีลภาพออกโทนเขียวๆ เก่าๆ สวยดีครับ
พวกขาวดำก็มีให้ใช้งานเหมือนกัน เหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์มเลย
แต่มันจะมีฟังก์ชั่นนึงที่เรียกได้ว่าแทบจะใช้จริงไม่ได้คือ Fish-eye ครับ มันเอียงจนประหลาด เว้นแต่จะเอาไว้แกล้งเพื่อน 555
บอดี้และการจับถือ
ขนาดเล็กกำลังน่ารัก ข้อดีที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความจิ๋วและหน้าตาที่เป็นมิตรคือมันไม่สร้างความรำคาญให้คนที่ถูกถ่ายมากเท่ากล้องตัวใหญ่ๆ
บอดี้น้ำหนัก 302 กรัมเท่านั้น (รวมแบตและ SD Card) แต่สิ่งที่แลกมากับน้ำหนักเบาๆคือมันไม่มี Grip ด้านหน้า แต่ด้านหลังของบอดี้จะมีพื้นที่ให้วางนิ้วโป้งยื่นออกมานิดหน่อย วัสดุเป็นเหมือนยางๆ ช่วยให้เวลาจับไม่หลุดมือง่ายๆ
เนื่องด้วยความที่มันไม่มี Grip ด้านหน้า ส่วน Grip ด้านหลังก็ไม่ได้ยื่นออกมามากนัก มันจึงไม่เหมาะกับคนมือใหญ่ๆโดยเฉพาะคุณผู้ชายครับ แต่กับสาวๆมือเล็กๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
บอดี้ไม่ได้ทนฝุ่นทนฝนนะ จะใช้งานต้องระมัดระวังเรื่องน้ำและอุณหภูมิดีๆ อย่าพาไปเที่ยวเจอหิมะเด็ดขาด
เลนส์คิต
เลนส์คิตหรือเลนส์ที่ติดมากับกล้องคือเลนส์ 15–45mm f3.5–6.3 เป็นเลนส์ที่ใช้ถ่ายทั่วๆไปได้ แต่ไม่ได้เก่งทางใดทางหนึ่งครับ เอาไว้ฝึกถ่ายรูปสนุกๆพอได้อยู่
ตัวเลนส์มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เวลาจะใช้งานทุกครั้งต้องปลดล็อกด้วยการหมุนให้เลนส์ยื่นออกมา เวลาใช้เสร็จก็หมุนกลับให้เข้าที่ด้วยนะ ปุ่มปลดล็อกอยู่ตำแหน่งตามภาพข้างล่างเลย เลื่อนขึ้นแล้วก็หมุนเลนส์ทุกครั้งที่ใช้
หลายคนอาจสงสัยว่าเลนส์คิตตัวนี้เนี่ยมันเบลอหลังได้มากแค่ไหน ต้องบอกก่อนครับว่ามันเบลอได้ไม่มาก แต่จะเบลอได้พอประมาณเมื่อใช้ถ่ายวัตถุขนาดเล็กๆ และพื้นหลังอยู่ไกล
บริเวณขอบภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้จะเบี้ยวๆนิดนึง ถ้าใช้ถ่ายทั่วๆไปจะไม่เห็นความต่าง แต่เวลาใช้ถ่ายอะไรที่เป็นเส้นตรงอย่างเช่นสถาปัตยกรรมอาจจะต้องระวังนิดนึง จากรูปข้างล่างลองสังเกตด้านบนของภาพดู
ใครที่อยากถ่ายรูปให้ออกมาดูขายาวๆก็ให้เอาขาของตัวแบบไว้บริเวณริมๆของภาพ ช่วงมุมกว้าง(ใช้ระยะประมาณ15mm)ของเลนส์ตัวนี้จะช่วยยืดขาให้ยาวขึ้นได้ แต่หากถ่ายมุมกด อาจจะออกมาหัวโตและขาสั้น ดังนั้นควรใช้อย่างระวังนะครับ
การส่งภาพ
มีทั้ง Wi-Fi, Bluetooth และ NFC ครับ เลือกช่องทางกันตามสะดวก
แบตเตอรี่
ถ่ายได้ประมาณ 295 ช็อต และจะมีที่ชาร์จแบตแยกให้ครับ แบตเตอรี่เป็นคนละรุ่นกับ Canon M5 และ M6 โดยของ M100 จะมีขนาดเล็กกว่า เอาไปใช้ด้วยกันไม่ได้นะ
ราคา
มีให้เลือก2แพคเกจครับ
- Canon EOS M100 +15–45mm ราคา 22,990
- Canon EOS M100 +15–45mm กับ 22mm 27,990
ถ้าอยากได้ภาพเบลอหลังนิดๆ หรือคิดว่ามีโอกาสถ่ายกลางคืนบ่อย เราขอแนะนำให้ซื้อแพคเกจที่2นะครับ
สรุป
กล้อง Canon EOS M100 เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นซีรีส์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่น M10 ในหลายๆด้านเลยครับ สเปคใหม่ช่วยส่งเสริมงานภาพนิ่งและวิดีโอได้เป็นอย่างดี เราจะลิสต์ข้อดีและข้อสังเกตให้เป็นข้อๆ จะได้ตัดสินใจกันง่ายๆนะครับ
ข้อดี
- ความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น24ล้าน เหลือเฟือต่อการใช้งานทั่วไป และสามารถนำไปอัดภาพขนาดใหญ่ได้โดยภาพไม่แตก
- ขนาดเล็ก หน้าตาเป็นมิตร
- เซลฟี่ได้ สีสันสวยดี
- ปุ่มไม่เยอะ ไม่งง เมนูไม่ซับซ้อน
- หน้าจอพับ180องศา แตะหน้าจอเพื่อสั่งการได้
- มีระบบโฟกัส Dual Pixel โฟกัสเข้ารวดเร็วดี
- ราคาไม่แพง กล้องที่มีระบบโฟกัส Dual Pixel ในราคาช่วงนี้มีน้อยมากๆนะครับ
ข้อสังเกต
- เหมาะกับคนมือเล็กๆ เพราะมันไม่มี Grip
- การใช้เลนส์ 15–45mm ต้องปลดล็อกก่อนใช้งานเสมอๆ
- ปุ่มน้อยทำให้การเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆไม่อาจทำได้โดยเร็ว
- บอดี้ไม่ได้ทนฝุ่นทนฝน ต้องระมัดระวังการโดนน้ำและการเจออุณหภูมิหนาวจัด
- พื้นที่ที่โฟกัสแบบ Dual Pixel ได้ครอบคลุมเฉพาะบริเวณกลางๆภาพ
- เลนส์ของกล้องตระกูล EOS M ยังมีตัวเลือกไม่มากนัก คนที่อยากได้เลนส์เบลอหลังเยอะๆอาจจะต้องต่อ adapter กับเลนส์ DSLR Canon ใช้ไปก่อน
เท่านี้ครับกับรีวิว Canon EOS M100 ใครเป็นสายถ่าย vlog น่าจะชอบเพราะมันขนาดเล็กและโฟกัสต่อเนื่องได้รวดเร็ว หากใครที่กำลังสนใจ Canon G7X II อยู่ด้วย อันนี้ก็จะคล้ายๆรุ่นนั้นเพียงแต่เซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าแถมเปลี่ยนเลนส์ได้อีกด้วย
ใครที่อยากเห็นภาพเพิ่มเติมจากกล้องรุ่นนี้สามารถเลื่อนลงไปดูด้านล่างได้เลย
เพื่อนๆสามารถติดตามบทความอื่นๆได้ทาง medium.com/torcnn หรือมาพูดคุยกันทาง Twitter, Facebook และ Instagram ได้ครับ เราขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ และขอให้ทุกคนสนุกกับการถ่ายภาพนะจ๊ะ :D