รีวิว GoPro Fusion กล้องถ่าย360องศาตัวแรกจากโกโปร

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readApr 26, 2018

--

“กล้อง360องศาจากโกโปร ที่แทบไม่ต้องคิดเวลากดถ่าย”

สวัสดีครับ เรา @torcnn นะ

พูดถึง GoPro คงเป็นอะไรที่หลายๆคนคุ้นเคยกันดีด้วยชื่อเสียงในตลาดกล้องประเภท ActionCam ครับ มันมักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของผู้ที่อยากจะถ่ายภาพหรือวิดีโอในสถานการณ์ที่กล้องทั่วไปยากจะเข้าถึง ที่สำคัญคือตอบโจทย์เรื่องการพกพาด้วย ทำให้พกไปในที่ต่างๆได้ง่าย

กล้อง ActionCam โดยทั่วๆไปมันมักจะให้มุมกว้าง สามารถเก็บภาพโดยรอบได้ดี แต่นั่นอาจไม่พอสำหรับบางคนครับ GoPro เค้าเลยออกกล้องรุ่นใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “Fusion” ซึ่งเป็นกล้องถ่ายรูป 360 องศา

คอนเซปของเจ้าตัวนี้ไม่มีไรมากครับ ถ่ายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวมาให้หมดนั่นแหละ แล้วค่อยกลับมาคิดทีหลังว่าจะเอามุมไหนอะไรยังไง

อะ นี่ ตัวอย่างภาพ

เห็นความ 360 องศาของมันมั้ย นี่แค่กดถ่ายแล้วก็ยืนถือไว้เฉยๆนะ ง่ายมากเว่อ เริ่มการรีวิวเลยละกัน เราจะเริ่มที่ตัวบอดี้ก่อนนะครับ

บอดี้

ขนาดบอดี้ของ GoPro Fusion จะมีขนาดที่ใหญ่และหนักกว่า GoPro ตระกูล Hero ครับ แต่รวมๆก็ยังจัดว่าเล็กและถือได้สบายๆ ไม่ได้หนักเกินแบก การออกแบบดูแข็งแรงดี ทั้งบอดี้ถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุที่เป็นยาง บอดี้ป้องกันน้ำได้ที่ลึก5เมตรด้วยนะ ช่วงสงกรานต์นี่บอกเลยว่าเก่งสุดในงาน

แต่ก่อนจะไปเจอน้ำ เช็กให้ดีด้วยนะครับว่าช่องทุกอย่างปิดสนิทหมดแล้ว

หน้าเลนส์จะนูนออกมาพอสมควร เราจึงไม่แนะนำให้วางกล้องสุ่มสี่สุ่มห้าครับ มันจะเสี่ยงต่อการที่หน้าเลนส์จะสกปรกหรือเสียหาย

ถ้าไม่ได้กำลังติดกับที่จับ แนะนำว่าอย่าวางแบบหันหน้าเลนส์ใส่พื้น ให้วางกลับหัวหรือตะแคงแบบในรูปจะปลอดภัยกับหน้าเลนส์มากกว่า แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ใส่ Soft case ที่มีมาให้จะปลอดภัยที่สุด

ด้านข้างจะมีช่องให้เสียบชาร์จแบตเตอรี่ได้ หัวเสียบเป็น USB type C

ฝั่งตรงข้ามกันก็จะมีช่องให้ใส่ Micro SD Card เราจำเป็นที่จะต้องใช้ Micro SD Card 2 แผ่นนะ เพราะเวลามันบันทึก มันจะบันทึกแยกกล้องหน้ากล้องหลังกัน

อุปกรณ์

ปกติเวลาใช้งาน เราไม่ต้องใช้มือในการถือบอดี้กล้องตรงๆหรอกครับ เพราะเค้ามีที่จับมาให้ในกล่องด้วย วัสดุภายนอกเป็นยาง จับแล้วหนุบหนับมือ ไม่ได้มาเป็นท่อนพลาสติกเปล่าๆ จับแล้วรู้สึกมั่นคงดีครับ

เราสามารถกางขามันออกได้ เผื่อจะเอาไปวางถ่าย Long Exposure เราแนะนำให้กางขาตั้งแบบนี้เสมอๆเวลาที่ไม่ใช้ อย่าไปวางกับพื้นให้หน้าเลนส์สกปรกล่ะ

ตรงคอของมันยังยืดออกได้ด้วย ช่วยให้ได้มุมที่สูงขึ้นนิดหน่อย

ตัวบอดี้กล้องจะเชื่อมกับไม้จับด้วยคอของมันตรงนี้ครับ เราสามารถที่จะขยับตำแหน่งซ้ายขวา หรือแม้กระทั่งปลดมันออกได้

ถ้าเราอยากที่จะติดกล้องบนหมวกหรือที่อื่นๆ เราสามารถใช้คอที่มีเทปแปะอยู่ได้ เค้าให้มาสองแบบ แบบนูนกับแบบแบน

การใช้งาน

บนตัวกล้องจะมีปุ่มกดอยู่แค่สองปุ่มเท่านั้น การเลือกโหมด การกดถ่าย การเซ็ตค่าต่างๆ ล้วนใช้แค่สองปุ่มนี้

เราสามารถใช้สมาร์ทโฟน(iOS รุ่นใหม่ๆ หรือแอนดรอยด์บางรุ่น) ในการเชื่อมต่อเพื่อดูสิ่งที่กำลังถ่ายอยู่ได้ผ่านแอป GoPro (formerly Capture) หรือจะถ่ายก่อนแล้วค่อยมาดูก็ได้แหละ การใช้กล้องตัวนี้มันไม่ต้องคิดเยอะอยู่แล้ว55

สามารถเช็กชื่อสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตที่ซัพพอร์ตการทำงานของ Fusion ได้ ที่นี่ ครับ

เมื่อเปิดมา(กดปุ่มข้างๆค้างไว้แป๊บนึง)หน้าจอก็จะขึ้นประมาณนี้ครับ ซึ่งจะบอกว่าเราอยู่โหมดไหน ถ่ายไปแล้วฟุตเทจที่เท่าไหร่ เมมโมรี่เหลือแค่ไหน แบตเหลือแค่ไหน

กล้องจะมีโหมดถ่ายวิดีโอ โหมดถ่ายภาพ และโหมดถ่ายต่อเนื่อง เราสามารถสลับโหมดไปมาได้ด้วยการกดปุ่มเปิดปิดด้านข้าง1ครั้ง สำหรับโหมดถ่ายต่อเนื่องจะมีโหมดย่อยลงไปอีก3แบบ ได้แก่ Time Lapse, Time Lapse Video และโหมดถ่ายกลางคืน

โหมดวิดีโอเราจะสามารถถ่ายเป็น 5.2K (30fps/25fps) หรือ 3K ได้ (60fps/50fps)

โหมดถ่ายกลางคืน(NT L PHO)จะมีความพิเศษกว่าโหมดอื่นอยู่นิดหน่อยตรงที่มันเป็นโหมดเดียวที่สามารถตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์หรือISOได้ ซึ่งค่า ISO ที่ใช้ได้คือ 800, 400, 200 และ 100

เวลาจะใช้งานกล้องตัวนี้ก็แค่เลือกโหมดที่ตัวเองอยากใช้แล้วก็กดปุ่มวงกลมสีแดง มันก็จะถ่ายไปเรื่อยๆ ทีนี้ก็เหลือแค่สิ่งเดียวที่ต้องทำแล้วครับ ใครจะถือไว้หรือจะวางกล้องไว้ตรงไหนก็แล้วแต่จะสร้างสรรค์เลย กล้องมันจะถ่าย360องศาไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะกดปุ่มวงกลมสีแดงซ้ำอีกรอบ

เรื่องแบตเตอรี่เราว่าเหลือเฟือนะ เราถ่ายๆหยุดๆไปสามสี่ชั่วโมง แบตยังเหลือประมาณ 50%

ได้ฟุตเทจมาแล้ว ทำอะไรได้บ้าง (Post-Production)

ตอนถ่ายอะไม่เท่าไหร่ เพราะมันเก็บภาพมาหมดอยู่แล้ว แต่ตอนได้ฟุตเทจมาแล้วจะทำยังไงต่อนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทาง GoPro เค้าจะมี Option ให้เราสองทางครับ คือจัดการกับไฟล์บนสมาร์ทโฟน หรือบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันก็มีข้อดีต่างกันไป เผลอๆเราอาจจะต้องใช้ทั้งสองแบบ

บนสมาร์ทโฟน

เราจะต้องมีแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า GoPro (formerly Capture) ก่อนครับ จากนั้นก็เชื่อมต่อกับกล้อง เราก็จะสามารถเข้าถึงไฟล์วิดีโอและภาพในตัวกล้องได้ผ่านแอป

เราก็จะเข้ามาที่หน้าดูวิดีโอและภาพ จะมีไฟล์คละๆกันในลักษณะที่หมุนๆดูไม่รู้เรื่อง ให้ลองจิ้มดูแต่ละภาพดูเอาครับว่ารายละเอียดมันเป็นยังไง ทีนี้เราจะเอาวิดีโอหรือรูปไหนก็ให้ Import มันเข้ามาใน Local Media ก่อน

สมมติว่าภาพนี้คือภาพที่เราอยากได้ เราก็กดที่ Icon ที่คล้ายๆกับดาวน์โหลดครับ เท่านี้มันก็จะเข้ามาอยู่ใน Local Media ของเราแล้ว

การ Import มันเข้ามาใน Local Media เป็นเหมือนการสูบรูปหรือวิดีโอเข้ามาไว้ในเครื่องครับ แต่มันจะยังไม่เข้าไปอยู่ใน Gallery ของสมาร์ทโฟนเรานะ มันจะเหมือนเก็บไว้ในคลังก่อนเพื่อเตรียมต่อยอดหรือเตรียม Export อีกที

การดึงไฟล์เข้ามาสู่ Local Media เป็นอะไรที่จะเปลืองแบตกล้องนิดนึงอะ แป๊บๆลด1%ละ ดังนั้นรีบๆ Import ให้เสร็จแล้วรีบปิดกล้องนะครับจะได้ไม่เปลืองมาก

พอ Import เสร็จ จากนั้นให้เราออกมาหน้าแรกครับ จุดนี้ไม่ต้องเชื่อมต่อกับ GoPro Fusion แล้ว จากนั้นเราก็จะเห็น Icon ที่เป็นรูปภาพ นี่แหละคือคลัง Local Media ที่อยู่ในแอปเราตอนนี้

เข้าไปก็จะเจอกับคลิปและรูปภาพที่เรา Import ไว้

อันนี้เราพูดถึงการแชร์รูปภาพก่อนนะครับ เราสามารถที่จะแชร์ภาพของเราได้2แบบ

  • แบบ Grab Photo แชร์ออกไปเป็นภาพสี่เหลี่ยม จะครอปเฉพาะส่วนที่อยากเอาได้
  • แบบ 360 Photo แชร์ออกไปเป็นภาพ 360 องศา ให้ไปหมุนดูเอาบนเฟซบุ๊กหรือบนแพลตฟอร์มอื่นๆ

ในฟังก์ชั่น Grab Photo เราสามารถที่จะบิด ทำให้ภาพโค้งงอ หันไปทางไหนก็ได้ และครอปเอาเฉพาะส่วนที่เราอยากจะเอา

ส่วนการแชร์ 360 Photo เราไม่ต้องทำอะไรมาก แค่กดแชร์อย่างเดียว มันก็จะไปขึ้นเป็นภาพ 360 องศาในเฟซบุ๊กให้คนเขาหมุนเล่นกันเอาเอง

แล้วถ้าเป็นฟุตเทจวิดีโอล่ะ ก่อนอื่นเราก็ไปที่ไฟล์วิดีโอใน Local Media ของเรา มันจะมีฟังก์ชั่นสำคัญอันนึงที่เรียกว่า OverCapture ครับ เป็น Icon วงกลมที่ไม่เต็มวง

OverCapture เป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยจัดการไฟล์วิดีโอ 360 องศาของเรา และเป็นเหตุผลสำคัญที่หลายๆคนตัดสินใจซื้อ GoPro Fusion กันเลย หน้าที่ของมันคือการทำให้ไฟล์วิดีโอ360องศาของเรากลายมาเป็นวิดีโอจอสี่เหลี่ยมปกติครับ ความสร้างสรรค์มันจะอยู่ที่ตรงนี้แหละ

เมื่อกดปุ่มอัด OverCapture วิดีโอที่เราอัดไว้ก็จะเล่นไปเรื่อยๆ ทีนี้เราอยากเฟรมภาพแบบไหนก็ใช้วิธีหมุนมือถือตามเอาครับ จะขึ้นลงซ้ายขวา จะเฟรมภาพใบหน้าเรา จะแพนออกไปดูวิวก็ทำได้

ที่สำคัญคือระหว่างอัด OverCapture เราสามารถที่จะย่อขยาย บิดโค้งภาพได้ด้วย2นิ้ว ทำให้สามารถได้ภาพฟุตเทจแปลกๆตามตัวอย่างข้างบนครับ คล้ายๆกับ GrabPhoto นั่นแหละ เพียงแต่เป็นวิดีโอที่อัดไปเรื่อยๆ

ข้างล่างนี้ก็เป็นตัวอย่างของฟุตเทจหลังใช้ OverCapture ครับ

ตัวอย่างการใช้งาน OverCapture บนมือถือครับ

ได้ฟุตเทจออกมาเป็นแบบนี้

บนคอมพิวเตอร์

มาถึงการจัดการไฟล์ 360 พวกนี้บนคอมกันบ้าง ซึ่งวิธีจะปวดหัวกว่าหน่อย เนื่องจากมันบันทึกลง SD Card 2 แผ่น เริ่มจากการโหลดโปรกรมที่ชื่อว่า Fusion Studio ครับ

วิธีเก็บไฟล์ก็คือให้เราสร้างโฟลเดอร์มา1อัน แล้วภายในโฟลเดอร์นั้นก็ให้สร้างโฟลเดอร์สำหรับเมมกล้องหน้าและเมมกล้องหลังแยกกัน ก๊อปไฟล์ใน Micro SD Card ลงไป จากนั้นก็เข้าโปรแกรม Fusion Studio เพื่อเปิดโฟลเดอร์อันใหญ่

เมื่อกดเปิดปุ๊บก็รอไปครับ ถ้าใครถ่ายมาเยอะก็รอมันพรีวิวนานหน่อย

หน้าตาของ Interface ก็จะประมาณนี้ เราสามารถที่จะหมุน เอียง สร้างสรรค์ได้เต็มที่ก่อนจะเซฟออกมาเป็นภาพสี่เหลี่ยม แน่นอนว่าเราสามารถเซฟออกมาเป็นภาพแบบ 360 ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังสามารถปรับสีสันได้ด้วย แต่ไม่ถึงกับละเอียดมากนะครับ เราไม่สามารถปรับความอิ่มสี(Saturation)ในนี้ได้ แต่มันจะมีโปรไฟล์สีให้เลือกสองแบบ คือ Flat กับ GoPro ซึ่งแบบ Flat จะเป็นสีซีดๆ ส่วนแบบ GoPro จะเป็นสีสดๆ

เทียบสี Flat กับ GoPro

ถ้าเป็นวิดีโอ เราสามารถที่จะเซฟเป็น 360 ได้

แต่ OverCapture บนคอม เท่าที่ทดลองเล่น มันยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองภาพไปมาระหว่างวิดีโอกำลังเล่นได้เหมือนบนสมาร์ทโฟนครับ เราอาจจะต้อง Render เพื่อนำไปจัดการอะไรแบบนี้ต่อในโปรแกรมจำพวก Adobe Premier อีกทีนึง

ก่อนเราจะ Render ไฟล์ออกมาจาก Fusion Studio โปรแกรมเค้าก็จะถามก่อนว่าเราจะเอาไฟล์นี้ไปทำอะไร เพื่อที่เค้าจะได้ทำไฟล์ออกมาให้เหมาะสมกับการแสดงผลที่สุดครับ เช่นจะเอาไป Edit ต่อ จะลง Facebook จะลง YouTube จะเอาความละเอียดสูงแค่ไหน ส่วน 360 Audio จะเป็นการแสดงผลเรื่องเสียงตามทิศทางที่กล้องแพนไปหาครับ

เมื่อกด Render ที่เหลือก็จะเป็นช่วงเวลาของการรอ ใช้เวลาพอสมควรเดียวแหละ

สรุป

กล้อง GoPro Fusion เป็นกล้องถ่าย 360 องศาที่ใช้ไม่ยากครับ เนื่องจากควบคุมด้วยไม่กี่ปุ่ม และมี OverCapture รองรับการตัดแต่งวิดีโอ เดี๋ยวเราจะสรุปข้อดีและข้อสังเกตต่างๆเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจนะ

ข้อดี

  1. ถ่ายง่ายโคตร แค่กดปุ่มแล้วถือไว้เฉยๆ
  2. ใช้เวลากับสิ่งอื่นได้มากขึ้น ได้สัมผัสบรรยากาศรอบตัวมากกว่าโดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รูป ก็เราแทบไม่ต้องสนใจกล้องเลยนี่นะ
  3. ปุ่มน้อย ไม่วุ่นวาย
  4. บอดี้ดูแข็งแรงดี กันน้ำลึกห้าเมตร
  5. ขนาดพอดีฝ่ามือ พกพาไม่ยาก
  6. มีอุปกรณ์สำคัญอย่างที่จับให้พร้อม ยืดหดได้ แถมเป็นขาตั้งได้อีก
  7. ถ่ายมาแล้ว จะหมุน จะพลิก จะเอียงซ้ายขวา สร้างสรรค์ได้หมด แล้วใช้ grab photo ในการบันทึกภาพทรงสี่เหลี่ยมได้ อยากได้ภาพแค่ตรงไหน แคปเอาเลย ตอนตัดก็สนุกดี นั่งหมุนๆๆๆ
  8. โปรแกรม OverCapture ในสมาร์ทโฟนนี่ไฮไลต์เลย ช่วยเยอะมาก ทำให้ฟุตเทจวิดีโอดูไม่น่าเบื่อ ใครที่สาย vlog หรือปกติถ่ายด้วย GoPro Hero อยู่แล้ว ตัวนี้เราคิดว่าน่าเอาไปเสริมทัพเลย

ข้อสังเกต

  1. เหมาะที่จะถ่ายในสถานการณ์ที่มีปริมาณแสงเหลือเฟือ การถ่ายกลางคืนจะทำให้คุณภาพดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด
  2. บันทึกลง SD Card 2 แผ่น แยกกันระหว่างกล้องหน้าหลัง เลยทำให้การจัดการไฟล์บนคอมจะปวดหัวนิดหน่อย
  3. เหมาะกับคนที่ใช้ iOS มากกว่า เนื่องจากปัจจุบันมือถือแอนดรอยด์ที่รองรับ OverCapture มีน้อยมากๆ
  4. ใช้เวลาพอสมควรในการ Render คอมกับมือถือควรจะสเปคแรงพอตัว
  5. เลนส์สกปรกง่ายเพราะมันนูนออกมา ต้องหมั่นเช็ดหน้าเลนส์ให้สะอาดเป็นประจำ ไม่งั้นมันจะมีผลกับภาพที่ได้

เท่านี้ครับกับรีวิว GoPro Fusion เป็นกล้องที่แทบไม่ต้องคิดเวลาถ่าย แถมตอนตัดคือสนุกกับการหมุนนั่นหมุนนี่มากๆ อย่าปักใจคิดว่าเราต้องเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมหรือดำน้ำถึงจะเหมาะกับกล้อง GoPro Fusion นะ 360องศาของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จริงๆเราจะใช้ถ่ายชีวิตประจำวันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนก็ได้ บางคนอาจจะไปเที่ยว ปั่นจักรยาน รีวิวบ้านและคอนโด ถ่ายรูปเล่นกับเพื่อน หรือติดกล้องกับน้องหมา การเล่าเรื่องต่างๆผ่านภาพ360องศาเป็นอะไรที่สนุกและแปลกใหม่เสมอ แม้เราจะไม่ได้หยิบกล้องไปผจญภัยที่ไหนก็ตามครับ

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn