รีวิวกล้องสมาร์ทโฟน Huawei GR5 2017

Tor Chanon
torcnn
Published in
4 min readFeb 10, 2017

--

— สมาร์ทโฟนกล้องคู่จากHuaweiในราคา 8,990 บาท! —

สวัสดีครับทุกคน เรา @torcnn รอบนี้เราจะมารีวิวกล้องมือถือครับ นั่นก็คือเจ้า Huawei GR5 2017 นั่นเอง ในชื่อรุ่นนี้มันมีคำว่า 2017 อยู่ด้วย เวลาเรียกต้องเรียกให้เต็มๆด้วยล่ะ

Background

Huawei GR5 2017 เป็นสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปี2016ครับ โดยเป็นสมาร์ทโฟนที่หั่นสเปคจากรุ่นพี่ๆลงหน่อย แต่ก็หั่นราคาลงไปด้วยกว่าครึ่ง ทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่จับต้องได้ง่ายมากๆ ตามทีวีหรือยูทูบช่วงนี้เราน่าจะเห็นโฆษณา Huawei ที่มิวนิษฐาเป็นพรีเซนเตอร์อยู่บ่อยๆ ก็คือรุ่นนี้แหละ จริงๆแล้วรุ่นนี้ในต่างประเทศมีชื่อว่า Huawei Mate9 Lite แต่พอเข้าไทยถึงได้มาเปลี่ยนเป็นชื่อ GR5 2017 นี่แหละ ในส่วนถัดๆไปเราจะรีวิวเรื่องกล้องเพียงอย่างเดียวนะครับ

น่ารักมาก กรี๊ดๆ

กล้องคู่

ด้วยความที่เป็นรุ่นล่าง กล้องคู่ของ Huawei GR5 2017 เลยไม่ได้ออกแบบร่วมกับ Leica เหมือนสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆของ Huawei นะครับ และหน้าที่ของกล้องสองตัวจะแตกต่างจากรุ่นท็อปตัวอื่นๆ โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด12ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียด2ล้านพิกเซล เมื่อทำงานร่วมกัน กล้องตัวแรกจะถ่ายตามปกติ ส่วนกล้องตัวที่สองจะช่วยเก็บเรื่องการเบลอหลังมาให้

เวลาเราดูกล้องอย่าดูแค่จำนวนพิกเซลนะ แต่ให้ดูที่ขนาดของพิกเซลด้วย ยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งทำให้เก็บแสงได้ดี ซึ่งขนาดพิกเซลของกล้อง(ตัวแรก)อยู่ที่ 1.25 ไมครอน แล้วใหญ่มั้ย? ถือว่าใหญ่ใช้ได้สำหรับกล้องสมาร์ทโฟนครับ ค่ารูรับแสงของเลนส์กล้องจะอยู่ที่ f2.2 ซึ่งช่วยให้แสงเข้ามาในภาพได้มากขึ้น จะมีประโยชน์เวลาถ่ายในสภาวะแสงน้อย

ภาพที่ได้จากกล้องหลังสามารถเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดีเลยนะ แต่ส่วนตัวเราว่ามันให้สีที่หม่นๆเล็กน้อย เอามาแต่งให้สีสดหน่อยก็น่าจะใช้ได้ละ

ขนาดภาพที่เหมาะสมและใหญ่ที่สุดที่ถ่ายได้คือ 4:3 ครับ ขนาดกว้างคูณยาวเหมือนกับกล้อง Micro Four Thirds ใครที่เดิมทีใช้กล้อง Olympus หรือ Panasonic มาก่อนน่าจะเคยชินแล้ว

การโฟกัส

การโฟกัสของกล้องหลัง Huawei GR5 2017 เค้าเคลมว่าสามารถโฟกัสได้ภายใน 0.3 วินาที และมาพร้อมระบบโฟกัสแบบ Phase Detection Autofocus ซึ่งการโฟกัสประเภทนี้จะสามารถจับการเคลื่อนไหวของวัตถุในภาพได้รวดเร็วกว่าแบบ Contrast Detection Autofocus ดั้งเดิมที่เราใช้กันครับ

กล้องหน้า

วัตถุประสงค์ของกล้องหน้าหลักๆก็คือมีไว้เซลฟี่เนอะ กล้องหน้าของเค้ามีจำนวนพิกเซลอยู่ที่8ล้าน ซึ่งความละเอียดเพียงพอกับการถ่ายหน้าตัวเองอยู่แล้ว (คงไม่มีใครอยากได้รายละเอียดบนหน้าเยอะๆ) สีสันของเซลฟี่กล้องหน้าของ Huawei GR5 2017 จะไม่ออกชมพูจัด แต่จะมีสีเหลืองปนๆอยู่ด้วย

เมื่อเปลี่ยนเป็นกล้องหน้า เราจะเข้าโหมดบิวตี้อย่างอัตโนมัติ และสามารถเลือก Beauty ได้ตั้งแต่ระดับ 0–10 แต่ละระดับจะสร้างความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า เช่น ตาโต หน้าเนียน

Beauty ระดับ 5 ตาโตขึ้น หน้าเนียนขึ้น

กล้องหน้าเค้าไม่มีแฟลชนะ ถ้าเป็นการเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อย กล้องจะใช้แสงจากหน้าจอแว้บขึ้นมานิดนึงเพื่อช่วยให้หน้าสว่างขึ้น

ฟังก์ชั่นถ่ายภาพต่างๆ

เวลาที่เราเข้าแอปกล้องแล้วเลื่อนไปทางซ้าย เราจะเห็นเมนูขึ้นมาเต็มไปหมด อันนี้คือโหมดถ่ายภาพครับ ซึ่งมีหลายโหมดให้เลือก ตั้งแต่ถ่ายธรรมดา โหมดถ่ายHDR โหมดถ่ายอาหาร โหมดโปร โหมดบิวตี้ โหมดพาโนรามา และอื่นๆ ก็เลือกใช้กันตามสะดวก แต่เราจะหยิบยกมาพูดหลักๆสองโหมดคือ โหมด Photo (Wide Aperture) กับโหมด Pro Photo

โหมดเบลอหลัง (Wide Aperture)

โหมดย่อยนี้จะอยู่ในโหมด Photo วิธีเข้าโหมดเบลอหลังก็คือให้กดที่ไอคอนด้านบน(อันที่2)ที่เป็นรูปรูรับแสง กล้องจะทำการวิเคราะห์ระยะชัดลึกของภาพ เพื่อให้เราสามารถเลือกจุดโฟกัสในภายหลังได้

อย่างภาพข้างล่างนี้ พอถ่ายมาปุ๊บ เราสามารถที่จะมากดเลือกบริเวณในการโฟกัสใหม่ได้ แค่เอานิ้วจิ้ม

เราสามารถเลือกระดับความเบลอหลังได้ด้วย การเบลอจะเป็นการเบลอด้วยซอฟต์แวร์ ถ้าใช้ค่าfต่ำภาพก็ยิ่งเบลอมาก ถ้าใช้ค่าfสูงภาพก็ยิ่งเบลอน้อย เราว่าไม่ควรใช้ f ต่ำเกินไปนะ เพราะมันมีโอกาสเบลอกินบริเวณขอบของจุดโฟกัสและภาพจะออกมาตลกได้ แนะนำให้ใช้ซัก f4.0 ขึ้นไป ส่วนตัวเราชอบใช้ f8 เพราะมันเบลอกำลังดี ไม่หลอกตา

f4.0
f8.0
f2.8
f4.0
f8.0

หมายเหตุ: เวลาที่ใช้โหมดนี้ เรารู้สึกว่าภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างฟุ้ง เวลานำไปแต่งอาจจะต้องเพิ่ม Contrast เข้าไปอีกหน่อย

หมายเหตุ2: เพื่อให้ใช้โหมดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้ถ่ายวัตถุที่ห่างออกไปไม่เกิน2เมตรครับ

โหมด Pro Photo

โหมดนี้จะให้อิสระเราในการตั้งค่ากล้องต่างๆได้ตามใจ เราสามารถเลือกค่าความเร็วชัตเตอร์ เลือกค่าISO ปรับระดับแสง(EV) เปลี่ยนโหมดวัดแสง เปลี่ยนโหมดโฟกัส หรือเปลี่ยนค่า White Balance เองได้ แต่รูรับแสงจะยังคงที่อยู่ที่ f2.2 นะ

โหมด Pro Photo ของ Huawei GR5 2017 จะมีการหั่นสเปคลงจากรุ่นท็อปๆนิดนึง คือมันไม่สามารถถ่ายออกมาเป็นไฟล์ RAW ได้ อย่างไรก็ตามถ้าชีวิตเราไม่ได้คิดจะถ่ายภาพเป็นไฟล์RAWมาแต่งในโปรแกรมเฉพาะทาง ก็มองข้ามเรื่องนี้ไปได้นะฮะ

(อย่างเราเองเนี่ยก็เป็นพวกบ้าแต่งไฟล์RAWคนนึง แต่ถึงมือถือบางรุ่นมันจะทำมาให้ใช้ เราก็ใช้ไฟล์RAWไม่บ่อยอยู่ดี)

ภาพข้างล่างนี้เราเลือกใช้ชัตเตอร์สปีดที่ 1/30 วินาที และแต่งขาวดำครับ พอมีโหมดโปรแล้วใช้ถ่ายแพนนิ่งได้สบายๆเลย

ราคา

8,990 บาท เรื่องนี้แหละที่เป็นอีกไฮไลต์ ราคาเท่านี้จริงๆ ไม่ได้อ่านผิด ถ้าซื้อผ่านโปรค่ายต่างๆอาจจะมีโปรถูกไปอีก

สรุป

Huawei GR5 2017 เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการลงทุนสูงนัก มีงบหมื่นเดียวก็ซื้อได้แล้ว ในขณะที่สเปคโอเค มีฟังก์ชั่นถ่ายรูปหลากหลาย ใช้งานง่าย และสำคัญที่สุดคือมีคุณมิวนิษฐาคนสวยเป็นพรีเซนเตอร์ 5555

จบแล้วกับรีวิวสั้นๆเกี่ยวกับกล้อง Huawei GR5 2017 นานๆทีจะรีวิวกล้องสมาร์ทโฟน ดังนั้นผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยเด้อ หากใครสนใจก็ไปลองเล่นที่ช็อปดูนะครับ ใครซื้อแล้วลองถ่ายผลงานมาให้ดูด้วยนะ

เพื่อนๆสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ทั้งทาง Facebook, Twitter และ Instagram ได้เหมือนเคย หรือติดตามบทความเรื่องกล้องอื่นๆได้ทาง medium.com/torcnn นะครับ

บ๊ายบาย

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn