รีวิว Panasonic Lumix G85 กล้องมิเรอร์เลสวิดีโอ4Kพร้อมกันสั่น5แกน

— กล้องมิเรอร์เลสเซนเซอร์ Micro Four Thirds พร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็มสุดๆ —

สวัสดีจ้ะ เรา @torcnn เอง รอบนี้เราจะมารีวิวกล้องมิเรอร์เลส Panasonic Lumix G85 ซึ่งเป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่จากค่ายพานาโซนิกครับ ทาง Panasonic ได้ส่งกล้องตัวนี้มาให้เราลองเล่น หลังจากเราได้ลองเล่นประมาณสองสามอาทิตย์ ก็พบว่านี่เป็นกล้องที่ยัดอะไรๆมาให้เยอะมาก เราว่าคุ้มเลยแหละ น่าจะถูกใจเพื่อนๆสายวิดีโอกันหลายคน

Background

กล้อง Panasonic Lumix G85 (หรืออีกชื่อในบางประเทศคือ G80) เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปี2016ครับ เป็นกล้องคลาสมิเรอร์เลส นั่นหมายความว่ามันจะไม่มีกระจกภายในตัวกล้องเหมือนกับกล้อง DSLR จึงทำให้มีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่นัก กล้องตัวนี้เกิดมาเพื่อคนที่รักในงานวิดีโอ ในขณะที่งานภาพนิ่งเค้าก็ใช้ได้ เพราะมีฟังก์ชั่นหลายๆส่วนที่สนับสนุนงานภาพนิ่งด้วย

เราจะรีวิวเป็นส่วนๆเหมือนเคยเพื่อความง่ายนะฮะ กล้องตัวนี้จะเหมาะกับเราแค่ไหน ลองไปอ่านส่วนต่อๆไปกันเลย

เซนเซอร์

เซนเซอร์ของกล้อง Panasonic Lumix G85 เป็นเซนเซอร์ขนาด Micro Four Thirds ซึ่งเป็นเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าฟูลเฟรม(หรือฟิล์ม35mm)อยู่2เท่า ดังนั้นเมื่อเรานำเลนส์อะไรก็ตามมาติด จะต้องจับเลขทางยาวโฟกัสของเลนส์นั้นคูณ2จึงจะได้ระยะเทียบเท่า เช่น สมมติเอาเลนส์ 25mm ไปติด ก็จะได้ระยะเทียบเท่า 50mm บนฟูลเฟรมงี้

กล้อง Panasonic Lumix G85 มีจำนวนพิกเซลอยู่ที่16ล้าน ซึ่งโคตรเพียงพอกับการถ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ส่วนตัวเราค่อนข้างพอใจกับ16ล้านนะ เพราะถ้าพิกเซลมากไปกว่านี้อาจไม่เหมาะนักเวลาถ่ายในสภาวะแสงน้อย อัตราส่วนของภาพที่จะได้จากเซนเซอร์นี้คือ 4:3 เซนเซอร์ตัวนี้ไม่มี AA filter (หรือ low-pass filter) เป็นผลให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น

เซนเซอร์ของเค้าไม่ใช่เซนเซอร์ที่ใหญ่อะไรมากมาย การทำหน้าชัดหลังเบลอและการนำไฟล์ภาพนิ่งมาถลุงอย่างหนักหน่วงจึงไม่ใช่เรื่องที่เค้าโดดเด่น แต่ไม่ใช่ว่าเบลอหลังไม่ได้หรือเอาไฟล์RAWมาแต่งได้ไม่ดีนะ ลองดูนี่

อันนี้เราถ่ายมาพลาดเอง รูปเลยดูสว่างไปเยอะเลย แต่หลังจากเราเอาไฟล์ RAW ที่ได้มาดึงให้ภาพสว่างน้อยลงเกือบๆ2สต๊อป ก็ผ่านอยู่นา

ข้อดีของเซนเซอร์ Micro Four Thirds คือมันจะทำให้เลนส์ทั้งหมดทั้งมวลที่เราใช้มีขนาดเล็ก ลองสังเกตดู เลนส์ของ Panasonic นี่ขนาดเล็กทั้งนั้นเลย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้เลนส์ Micro Four Thirds ของค่ายเพื่อนบ้านได้ด้วย

ชัตเตอร์

ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดอยู่ที่ 1/4000 วินาที มีโหมดBulb เราสามารถใช้ Electronic shutter เพื่อเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ไปถึง 1/16000 วินาทีได้ และแน่นอนว่าฟังก์ชั่น Silent Shutter ก็มา แต่เราว่าชัตเตอร์ปกติ(Mechanical)ของเค้าก็เสียงเบามากๆอยู่ละ

ISO

ใช้ได้ตั้งแต่ 200–25600 สามารถขยายลงมาที่100ได้ครับ

กันสั่น5แกน

กล้องตัวนี้มีกันสั่น5แกนมาให้ใช้งาน คนที่ไม่เคยใช้กล้องที่มีกันสั่นอาจจะยังไม่ทราบเนอะ แต่เราบอกเลยว่าถ้ากล้องมีกันสั่นแล้วชีวิตจะดีมาก เพราะมันจะเพิ่มโอกาสในการได้ภาพ กันสั่นตัวนี้เป็นกันสั่นแบบ “Dual I.S. 2” ซึ่งเป็นกันสั่นในตัวกล้องที่ทำงานสัมพันธ์กับ “เลนส์ที่มีกันสั่นO.I.S.” ถึงขั้นว่าชดเชยไปได้ประมาณ5สต๊อปเลย

เราได้ไปลองทดสอบกันสั่นมาครับ ภาพข้างล่างนี้ใช้เลนส์ 14–140mm F3.5–5.6 ใช้ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ 1 วินาที f6.3 และ ISO 200 ถ่ายที่ระยะ 14 mm เอาจริงๆน้อยครั้งที่คนเราจะตั้งค่าประหลาดแบบนี้ แต่จากการทดสอบจะเห็นว่ากันสั่นทำงานได้ดีเลยแหละ (หมายเหตุ: ก่อนถ่ายเรากินเบียร์เข้าไปอีก 320 ml. ด้วยนะ 5555)

1" f6.3 iso200 (shot at 14mm)

กันสั่นนี่ไม่ได้ดีกับแค่งานภาพนิ่งนะ แต่ยังดีกับงานวิดีโอด้วย คือยืนถือกล้องถ่ายวิดีโอได้เลย ภาพก็ออกมาค่อนข้างนิ่งโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นช่วย

วิดีโอ4K

กล้องตัวนี้ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30p 100Mbps ได้ (และ Full HD ที่ 60p) เราถ่ายวิดีโอ 4K มาให้ดูสั้นๆด้วยนะ ดูเถอะ เราอัปโหลดตั้งสองชั่วโมง 55555

(ถ้าไม่มีออปชั่น4Kให้เลือกบน YouTube ให้เปิดจาก Google Chrome นะครับ)

วิดีโอนี้เราไปถ่ายมาที่ทุ่งทานตะวันจังหวัดลพบุรี ใช้เลนส์ 14–140mm f3.5–5.6 เป็นหลัก โดยถือถ่ายทุกช็อตครับ เห็นมะ นอกจากเรื่องวิดีโอ4Kที่เด่นแล้ว เรื่องกันสั่นเค้าก็ทำได้ดีมากๆด้วยนะ

พูดถึงเรื่องวิดีโอ การบันทึกเสียง กล้องตัวนี้นอกจากจะมีไมโครโฟนแบบBuilt-in ยังมีช่องเสียบไมค์มาให้ด้วย ต่างจากรุ่นGX85ที่ไม่มีช่องเสียบไมค์ มาพร้อมช่อง HDMI เผื่อใครจะต่อขึ้นจอนะ

เป็นมิตรกับงานวิดีโอ

การโฟกัส

มีจุดโฟกัสอยู่ที่ 49 จุดครับ เป็นแบบ Contrast Detection โดยมีโหมดโฟกัสให้เลือก6รูปแบบ แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน คือ

1. โฟกัสหน้า/ตา (Face/Eye Detection) กล้องจะโฟกัสที่หน้า-ตาของคนครับ
2. โฟกัสติดตามวัตถุ (Tracking) เมื่อเราเลือกจับวัตถุไหน แม้วัตถุจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน กล้องจะพยายามจับโฟกัสวัตถุเดิมให้เราครับ
3. โฟกัสกว้างๆ (49-Area) กล้องจะคิดให้เองว่าในภาพนี้ควรจะโฟกัสที่อะไร โหมดโฟกัสนี้เหมาะกับคนที่ไม่อยากคิดไรเยอะอะ หยิบขึ้นมาถ่าย จบๆ (แต่กล้องก็ไม่ได้คิดแทนเราได้ถูกต้องเสมอไปนะ)
4. โฟกัสแบบCustom เราสามารถเลือกพื้นที่ในการโฟกัสได้เองหมด จะโฟกัสหลายจุดก็ทำได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องโฟกัสแค่บริเวณเดียวของภาพ จิ้มเลือกจุดโฟกัสที่จะใช้ได้ตามใจเลย และเซฟไว้เผื่อใช้ทีหลังได้3รูปแบบ
5. โฟกัสพื้นที่เดียว (1-Area) จุดโฟกัสแบบนี้มันจะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมๆที่เราสามารถขยายและย่อขนาดกรอบสี่เหลี่ยมลงได้ตามขนาดของสิ่งที่เราจะโฟกัส เวลาเราใช้เราชอบตั้งไว้ให้มันอยู่ตรงกลาง และถ้าจะย้ายจุดโฟกัสก็เอานิ้วจิ้มพื้นที่อื่นบนหน้าจอ สะดวกดี
6. โฟกัสแบบPinpoint จุดโฟกัสแบบนี้จะคล้ายๆกับด้านบน แต่เมื่อกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง มันจะมีหน้าจอขยายภาพ(Magnifier)ให้เราดูว่าจุดโฟกัสของเรามันชัดรึยัง

ถึงแม้ระบบโฟกัสจะเป็นแบบ Contrast Detection แต่ความเร็วในการโฟกัสไม่ได้ช้า และการโฟกัสก็ค่อนข้างแม่นยำเลยครับ เค้าเคลมว่า 0.07 วินาทีอะ เราเองก็ไม่รู้จะวัดยังไงเหมือนกัน 5555 แค่รู้ว่าเร็ว

ปุ่มและDialต่างๆ

บอกเลยว่าโคตรเยอะ คือส่วนตัวเราเป็นคนชอบกล้องปุ่มเยอะๆนะ แต่กับกล้องตัวนี้คือทำเราเอ๋อไปพักใหญ่ 555 เพราะมันเยอะสุดๆ แต่เราว่าถ้าใครใช้กล้องนี้จนเคยชินคงจะปรับทุกอย่างได้แบบมันมือสุดๆอะ

Dial ปรับ Drive Mode จะอยู่ทางด้านซ้าย สามารถหมุนปรับโหมดการถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพเดียว ถ่ายต่อเนื่อง ตั้งเวลาถ่าย รวมถึงฟังก์ชั่นคูลๆของ Panasonic อย่าง 4K Photo กับ Post Focus การตั้ง Dial แบบนี้แยกออกมาเลยทำให้เราไม่ต้องไปงมหาฟังก์ชั่นพวกนี้ในเมนูในกล้องให้เสียเวลาครับ

ที่เราชอบคือปุ่มปรับค่าเบสิกทั้งหลาย ปุ่มชัตเตอร์ถูกหุ้มด้วยDialปรับรูรับแสง Dialปรับความเร็วชัตเตอร์ตั้งอยู่ด้านหลังใกล้ๆกัน ละคือมันไม่ได้จบแค่นี้ ตรงกลางDialปรับความเร็วชัตเตอร์จะมีปุ่มลัดสำหรับปรับค่า ISO กับ White Balance ทำให้เราไม่จำเป็นต้องละนิ้วจากDialด้านบนเลยครับ (แต่ถ้าใครไม่ถนัดปรับISOตรงนี้ จะกดปุ่ม“ขึ้น”แทนก็ได้)

ปุ่มกดถ่ายวิดีโอตั้งอยู่ด้านบน อยู่ตรงด้านหลังของปุ่มชัตเตอร์เลย ส่วนปุ่มลัดต่างๆนานา(Fn)ก็มีตั้งแต่Fn1ไปจนถึงFn5 อยู่ทั่วกล้องไปหมด คือเยอะจนตาลาย! จริงๆมันมีถึง Fn10 เลยนะ แต่ว่า Fn6-Fn10 มันจะอยู่บนหน้าจอของเรา ใช้ทัชเอา

หน้าจอ

หน้าจอขนาดมาตรฐาน3นิ้ว ความละเอียด1.04ล้าน พับได้ฟรีสไตล์สุดๆ สามารถพับออกไปด้านข้างได้ จะพับขึ้นลงก็ได้ หรือจะหมุน180องศาเพื่อให้เห็นหน้าตัวเองก็ได้ มันจึงเหมาะที่จะใช้ถ่ายวิดีโอ (หรือถ้าวันดีคืนดีอยากเซลฟี่ก็ทำได้)

ปรับจอได้อิสระ

หน้าจอเป็นแบบสัมผัส ทำให้เราสามารถแตะเลือกจุดโฟกัสและกดเลือกเมนูต่างๆได้อย่างรวดเร็วด้วยการสัมผัสครับ การตอบสนองต่อการสัมผัสรวดเร็วมาก ไม่มีดีเลย์ให้หงุดหงิด

จอพลิกมาด้านหน้าได้

ช่องมองภาพ

ช่องมองภาพเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Viewfinder) ความละเอียด 2.36 ล้าน ช่องมองภาพของเค้าให้ภาพใสๆ สีสด ดีงามมากกกก ไปลองส่องของจริงที่ร้านดู มันดี

ฟังก์ชั่น 4K Photo

ฟังก์ชั่นนี้เป็นฟังก์ชั่นที่จะทำให้เราสามารถถ่ายวิดีโอ4K และคัดเลือกรูปจากวิดีโอมาใช้ได้แบบเฟรมต่อเฟรม ทำให้เราไม่พลาดจังหวะสำคัญแน่นอน โดยที่ไฟล์ภาพความละเอียดยังดีอยู่ด้วยนะ คือประมาณ8ล้านพิกเซล ซึ่งก็คือความละเอียดตามจริงของวิดีโอ4Kทั่วไปนั่นแหละ

เนี่ย มันเลือกได้หมดอะว่าจะเอาเฟรมไหน

เลือกได้ว่าจะเอาเฟรมไหน

ฟังก์ชั่น Post Focus / Focus Stacking

อันนี้ก็เป็น2ฟังก์ชั่นที่เจ๋งดี สำหรับเจ้า Post Focus นี้หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยละ คือเมื่อเราถ่ายด้วยฟังก์ชั่นนี้ เราจะสามารถเลือกจุดโฟกัสใหม่ทีหลังได้

ลักษณะการทำงานของฟังก์ชั่นนี้คือกล้องจะถ่ายมาหลายๆรูป หลายๆจุดโฟกัสนั่นแหละ ทำให้เรามาจิ้มเลือกจุดโฟกัสเอาทีหลังได้ แต่ที่รูปแรกมีนกและรูปที่สองไม่มี เป็นเพราะว่ากล้องมันไม่ได้ถ่ายภาพทุกระยะโฟกัสพร้อมๆกัน แต่มันทยอยถ่าย ทำให้ภาพที่ต่างระยะโฟกัสอาจจะมีองค์ประกอบในภาพที่แตกต่างกันได้หากมีการเคลื่อนไหวภายในภาพ

เลือกจุดโฟกัสทีหลังได้

ส่วน Focus Stacking จะเป็นฟังก์ชั่นต่อยอดจาก Post Focus ที่ช่วยเพิ่มระยะชัดลึกของภาพ คือบางทีที่เราใช้เลนส์เทเลโฟโต้(เลนส์ที่เลขทางยาวโฟกัสสูงๆ) และบางทีที่เราถ่ายวัตถุใกล้มากๆ มันอาจส่งผลให้ภาพมีการเบลอเกิดขึ้น อย่างเช่นรูปนี้ที่ถ่ายดอกไม้ ดูดีๆนะ รูปแรกโฟกัสที่ดอกไม้ทางซ้าย ทำให้ดอกทางขวาเบลอ รูปที่สองโฟกัสที่ดอกไม้ทางขวา ทำให้ดอกทางซ้ายเบลอ

โฟกัสดอกทางซ้าย ขวาเบลอ โฟกัสดอกทางขวา ซ้ายเบลอ

ทีนี้ถ้าเราอยากให้มันชัดทั้งคู่ทำไง เราก็ใช้ฟังก์ชั่น Focus Stacking นี่แหละ กล้องจะทำการรวมแต่ละ Layer ภาพของ Post Focus เข้าด้วยกันเพื่อให้ภาพมันชัด ผลคือรูปข้างล่าง เห็นมั้ยว่าดอกไม้ชัดทั้งดอกทางซ้ายและขวาเลย ฟังก์ชั่นนี้เราว่าดี ชอบมาก ไม่ต้องมานั่งหรี่รูรับแสงให้เมื่อย

Focus Stacking ทำให้ดอกไม้ชัดทั้งสองฝั่ง

ทั้ง Post Focus และ Focus Stacking จะให้ภาพเป็น JPEG นะครับ ถ้ามาเป็น RAW ได้นี่ก็จะเทพไปหน่อย

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

หากใช้ชัตเตอร์แบบMechanical(ชัตเตอร์ปกติ)สามารถยิงต่อเนื่องได้ที่9ภาพต่อวินาที (AF-S) ถือว่าเร็วใช้ได้แล้วครับ

แฟลช

มีติดมากับกล้องเลย และมี Hot-shoe ไว้ให้ติดแฟลชแยกและเครื่องมืออื่นๆด้วย

บอดี้ ขนาด และการจับถือ

บอดี้ทำจากแมกนีเซียมอัลลอย มีความทนทาน แข็งแรง กันฝุ่นและละอองน้ำ เอาไปลุยพื้นที่โหดๆได้สบายเลยครับ บอดี้(รวมแบต)น้ำหนัก505กรัม ขนาดของเค้าจะใหญ่กว่ากล้อง Micro Four Thirds ทั่วๆไปนิดนึง แต่เลนส์ทั้งตระกูลก็ยังมีขนาดเล็กมากอยู่ดี

เรื่องกริปเนี่ย ถ้าใครกำลังหากล้องที่กริปใหญ่ๆ เต็มไม้เต็มมือ จับถนัดเหมือนจับพวงมาลัยรถ กล้อง Panasonic Lumix G85 มีให้ครับจุดๆนี้ สะใจมาก เราชอบสุดๆ ถือมือเดียวแล้วรู้สึกมั่นคงไม่ต้องกลัวหล่น

แบตเตอรี่

มีที่ชาร์จแยกให้ ชาร์จเต็มที่ถ่ายได้330ภาพ ตอนเราถ่ายวิดีโอ4K ฟุตเทจละประมาณ 10–20วินาที ประมาณ30กว่าฟุตเทจ กล้องก็ไม่ได้ซดแบตอะไรนะ หมดไปประมาณ1ใน3เอง

กล้องตัวนี้สามารถติด Grip รุ่น DMW-BGG1 ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถจุแบตเพิ่มได้อีก2ก้อนครับ

Wifi

มี Wifi ในตัว สามารถส่งภาพเข้ามือถือโดยตรง หรือจะใช้เป็นรีโมตก็ได้ แอปของเค้าชื่อว่า Panasonic Image App นะ

ราคา

ราคาพร้อมเลนส์คิต 14–42mm อยู่ที่ 37,990 บาท ถ้าจะหากล้องมาถ่ายวิดีโอ4Kแบบจริงจังหน่อย มีช่องเสียบไมค์ พร้อมกันสั่น5แกนให้ใช้งาน ราคานี้ถูกที่สุดที่หาได้แล้วแหละ

สรุป

เราจะขอสรุปข้อดีและข้อสังเกตต่างๆของกล้องตัวนี้นะครับ จะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเนอะ

ข้อดี

1. เซนเซอร์ Micro Four Thirds ช่วยลดภาระเรื่องขนาดเลนส์ที่ต้องแบก
2. ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30p ได้ แม้เวลาผ่านไปซัก5ปี เราว่าความละเอียดไฟล์เท่านี้ก็ยังไม่Out ใช้กันไปยาวๆ
3. กล้องมีกันสั่นภายในตัว ซึ่งทำงานได้ดีกับทั้งงานวิดีโอและงานภาพนิ่ง
4. โฟกัสไว
5. จอภาพสามารถพลิกได้อย่างอิสระ แถมเป็นทัชสกรีนอีก สะดวกเว่อ
6. มีช่องมองภาพ
7. ปุ่มและDialเยอะ ทำให้เข้าถึงการปรับเปลี่ยนค่าต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรเยอะ
8. ฟังก์ชั่นเฟี้ยวมาก ทั้ง 4K Photo, Post Focus และ Focus Stacking
9. บอดี้ทำมาแข็งแรง ทนทาน กันฝุ่น กันละอองน้ำ
10. จับได้มั่นคงมากกกกกกก กริปทำมาใหญ่สะใจสุดๆ
11. ส่งภาพเข้ามือถือได้ และใช้มือถือเป็นรีโมตชัตเตอร์ได้
12. มีช่องเสียบไมโครโฟน!

ข้อสังเกต

1. เซนเซอร์ขนาด Micro Four Thirds กับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล อาจยังไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะที่สุดกับงานภาพนิ่งที่ต้องนำไฟล์มาถลุงอย่างหนักหน่วง งานถ่ายในสภาวะแสงน้อยๆ หรืองานปรินต์โฆษณาขนาดใหญ่
2. บอดี้เค้าใหญ่กว่ากล้อง Micro Four Thirds ทั่วๆไป
3. การจะใช้ Dual I.S. 2 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องใช้เลนส์ที่ support ด้วย
4. ปุ่มเยอะแบบพีคมาก เมนูก็ค่อนข้างเยอะ ต้องให้เวลาตัวเองในการศึกษาหน่อย
5. Focus Stacking ควรใช้ถ่ายอะไรนิ่งๆ เพราะถ้าเรารวมภาพที่มีการเคลื่อนไหวหลายๆภาพเข้าด้วยกัน ผลอาจจะออกมาดูประหลาด

เป็นไงๆๆ รู้จักกล้อง Panasonic Lumix G85 มากขึ้นแล้วเนอะ เป็นกล้องที่ครบเครื่องสุดๆสำหรับงานวิดีโอ ในขณะที่งานภาพนิ่งก็มีฟังก์ชั่นคูลๆให้ใช้เยอะแยะไปหมด ค่าตัวของเค้าก็ไม่ได้แพงเว่อจนเกินไป ออกจะสมเหตุสมผล ถ้าคิดเอาไว้ว่ารุ่นนี้ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ก็อย่าลืมไปลองที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะครับ

จบแล้วจ้ะกับรีวิว Panasonic Lumix G85 เพื่อนๆสามารถติดตามบทความอื่นๆได้ทาง Medium และเข้ามาคอมเมนต์พูดคุยกันได้ตามเคยที่ Facebook, Twitter และ Instagram นะครับ เราขอลาไปด้วยภาพจาก Panasonic Lumix G85 นะ แล้วจะเห็นว่าภาพนิ่งเค้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไปละนะ บ๊ายบาย

ตัวอย่างภาพ

เลนส์ที่ใช้หลักๆคือ Panasonic Leica 25mm f/1.4 และมีรุ่น 14–140mm f/3.5–5.6 นิดหน่อยครับ

หมายเหตุ: ทุกภาพถ่ายเป็นไฟล์ RAW และแต่งผ่าน Lightroom