รีวิว Panasonic Lumix GF9

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readOct 7, 2017

--

“มิเรอร์เลส4Kตัวจิ๋วจากค่ายพานาโซนิก”

สวัสดีครับ เรา @torcnn เองเด้อ

จริงๆกล้อง Panasonic Lumix GF9 มันเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี 2017 แล้วครับ นี่ก็ไปงานเค้ามาด้วย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เอามารีวิวจริงจัง สักพักเริ่มมีคนถามถึงตัวนี้บ่อย เลยถือโอกาสยืมทางพานาโซนิกมารีวิวซะเลย

Background

กล้อง Panasonic Lumix GF9 คือกล้องมิเรอร์เลสที่อยู่ในซีรีส์ GF ซึ่งจัดเป็นซีรีส์ระดับล่างสุดของค่ายนี้ครับ คุณลักษณะของตระกูล GF คือมีขนาดเล็ก เซลฟี่ได้ บอดี้มีหลายสีสันให้เลือก และราคาไม่แพง

ในต่างประเทศ รุ่นนี้มีหลายชื่อ ตั้งแต่ GX850 หรือ GX800 ส่วนในแถบเอเชียหลายๆประเทศจะใช้ชื่อว่า GF9

เซนเซอร์

เซนเซอร์เป็นขนาด Micro Four Thirds (จับเลนส์อะไรมาติดต้องเอาเลขมิลลิเมตรคูณ2จึงจะได้ระยะเทียบเท่านะครับ) เซนเซอร์ขนาดนี้ไม่ใช่เซนเซอร์ที่ใหญ่ แต่เวลาพกจะสะดวกสบายกว่าการใช้กล้องเซนเซอร์ขนาดอื่นๆ

ความละเอียดอยู่ที่16ล้าน ซึ่งสำหรับมนุษย์ที่ถ่ายรูปเล่น เอาลงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องละเอียดไปมากกว่านี้ครับ

ชัตเตอร์

ชัตเตอร์มีทั้งแบบปกติ(Mechanical)และแบบอิเล็กทรอนิกส์ครับ ถ้าแบบปกติเร็วสุดจะอยู่ที่ 1/500 วินาที ถ้าเร็วกว่านี้จะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ละ สุดที่ 1/16000 วินาที

ในสถานการณ์ทั่วๆไปเราใช้ชัตเตอร์ปกติก็พอ แต่ถ้าอยากได้ความเร็วชัตเตอร์เร็วๆหรืออยากถ่ายรัวๆค่อยปรับไปใช้อิเล็กทรอนิกส์นะ

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

ปกติมันจะถ่ายรัวได้ที่ประมาณ5ภาพต่อวินาที แต่ถ้าสลับไปใช้ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์มันจะรัวได้ที่ประมาณ9ภาพต่อวิอะ เรื่องนี้มันต้องเข้าเมนูเพื่อสลับไปมา

หน้าจอ

พับขึ้นได้180องศา แต่พับลงไม่ได้นะครับ หน้าจอเป็นแบบทัชสกรีนทำให้เราสามารถแตะเพื่อโฟกัสหรือเข้าถึงเมนูต่างๆได้ไม่ยาก

เซลฟี่

ตอนเซลฟี่ มันจะมีระดับความฟรุ้งฟริ้งมาให้เลือก10ระดับ(เลือกได้ที่หน้าจอ) จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ลองเริ่มที่ระดับ 0 กันดูก่อน ผิวก็มีอมชมพูนิดนึงนะ แต่ไม่ถึงขั้นย้อมชมพูทั้งหน้า

ระดับ0

ต่อไปจะเป็นการเพิ่มระดับความฟรุ้งฟริ้งนะครับ

ระดับ3 เหมือนเริ่มมีหมอกหรือควันเข้ามาในภาพ
ระดับ5 ฟุ้งขึ้น แต่ยังไม่ต่างกับ3เท่าไหร่นัก
ระดับ7
ระดับ10 เหมือนในการ์ตูนเวลาตกหลุมรักอะ ฟุ้งขนาดนั้นเลย

กลัวแล้ววววว ระดับ 0–5 ยังพอโอเคนะ มากกว่านี้นี่ล้นละ

ฟังก์ชั่นแต่งหน้า (Beauty Retouch)

นี่เป็นฟังก์ชั่นที่มีมาตั้งแต่รุ่นที่แล้วละครับ ซึ่งพอมาเป็นของรุ่น GF9 ฟังก์ชั่นนี้ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมนัก แต่ที่รู้สึกได้เลยคือความเร็วในการปรับแต่งใบหน้าที่ไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนึงอาจจะมาจากระบบประมวลผลที่มารองรับ4K

เวลาจะแต่งหน้า ให้เราเข้าไปที่เมนู และเลือกฟังก์ชั่น Beauty Retouch เราสามารถปรับใบหน้าตั้งแต่การทำหน้าเรียว เติมสีปาก ขัดฟันขาว เปลี่ยนสีรองพื้น หรือเติมอายไลน์เนอร์

อย่างรูปนี้เราแต่งให้เพื่อน รูปเดิมถ่ายกลางคืนใช้แฟลชอัดเต็มๆหน้าเลยสว่างไปหน่อย แถมเพื่อนยังบ่นว่าตัวเองหน้ากลม(เค้าเป็นคนแก้มเยอะ) เราเลยแต่งหน้าให้ขาวน้อยลงนิดนึงและเหลาคางให้อีกนิดหน่อย เพื่อนมันเห็นภาพก็แฮปปี้นะครับ 555

สีสันของภาพโดยรวม

นอกจากเรื่องสีของผิวเซลฟี่ที่ดูอมชมพูเล็กๆ เราว่าภาพจาก Panasonic Lumix GF9 ให้สีสันที่สดใส ฟริ้งในระดับนึง คือจะบอกว่าถ่ายJPEGออกมามันก็ไม่ใช่สีปกติที่ตาเราเห็น100%หรอก แต่มันก็สวยดีนะ

12–32mm f3.5–5.6 Kit
12–32mm f3.5–5.6 Kit

วิดีโอ

มีวิดีโอ 4K ที่ 30fps นี่เป็นกล้องมิเรอร์เลสระดับเริ่มต้นตัวแรกๆที่มีวิดีโอ 4K มาให้ด้วยครับ อย่างไรก็ตามถึงมันจะมีวิดีโอ4K ก็อย่าหักโหมมอบหมายงานนี้ให้กับมันเยอะนักนะ ใช้ถ่ายเป็นคลิปสั้นๆพอ ถึงเค้ามี4Kให้ใช้แต่มันก็ไม่ควรเป็นกล้องที่เอาไปเน้นถ่าย4Kเป็นหลักอยู่ดี เพราะสิ่งที่ต้องเผชิญเลยคือเรื่องแบตหมด การโฟกัสชนิดจับคอนทราสต์ และอีกอย่างก็คือมันไม่มีช่องต่อไมค์

ฟังก์ชั่น 4K Photo, Post Focus

นี่เป็นฟังก์ชั่นที่มีมานานแสนนานในกล้อง Lumix ทุกซีรีส์เลย ใครที่เคยใช้กล้องยี่ห้อนี้คงจะคุ้นเคยดี แต่ขออธิบายคร่าวๆเผื่อมีคนไม่รู้นะครับ

ฟังก์ชั่น 4K Photo เป็นฟังก์ชั่นที่กล้องเราจะถ่ายวิดีโอ4Kมา แล้วให้เราเลือกว่าจะเอาเฟรมไหนจากวิดีโอที่เราถ่าย คือวิดีโอมันละเอียดใช่มะ แม้การแคปภาพๆนึงมาใช้มันก็ยังให้รายละเอียดภาพที่ดีอยู่

ส่วน Post Focus เนี่ยเป็นฟังก์ชั่นที่กล้องเราจะถ่ายวิดีโอมาเหมือนกัน แต่ระหว่างที่ถ่าย กล้องจะปรับโฟกัสตั้งแต่ระยะใกล้สุดไปจนถึงไกลสุด เพื่อให้เราสามารถมาแคปเลือกจุดโฟกัสเอาทีหลังได้

ลักษณะการทำงานของ Post Focus

ภาพที่ได้จากฟังก์ชั่นเหล่านี้จะถูกครอปลง ดังนั้นอย่าลืมกดปิดฟังก์ชั่นนี้หลังใช้เสร็จด้วยนะครับ

ระบบโฟกัส

ใช้ระบบโฟกัสแบบ Contrast Detection ครับ มีจุดโฟกัสทั้งหมด49จุด

ถ้าเอาไปถ่ายภาพนิ่งนี่โคตรเร็วเลยนะ คือไม่ต้องรอโฟกัสเลย แต่ถ้าเป็นวิดีโอ ระบบโฟกัสนี้อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยนึง กล้องจะค่อยๆขยับหาโฟกัสแบบช้าๆ และเราจะไปเร่งความเร็วตรงนี้ไม่ได้

โหมดพื้นที่โฟกัสมีหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่จับหน้าคน trackวัตถุ โฟกัสครอบคลุมทั้งพื้นที่ หรือจะเอาแค่จุดตรงกลางก็ได้

ปุ่มต่างๆและการควบคุม

กล้อง Panasonic Lumix GF9 เป็นกล้องที่ไม่เหมาะกับคนที่ชอบปรับถ่ายอะไรแบบ แมนนวลครับ เพราะวงแหวนปรับค่า(รูรับแสง/ความเร็วชัตเตอร์)มีอยู่แค่วงเดียวเท่านั้น และการจะเข้าถึงISOจะต้องกดเข้าไปถึงข้างในเมนู หรือต้องตั้งเป็นปุ่มลัดไว้ที่หน้าจอ คนที่ชอบปรับอะไรเองเยอะๆน่าจะไม่อิน แต่กับคนที่ชอบอะไรง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก หยิบมาถ่ายแชะๆๆ จะเวิร์กกว่ามาก

เราสามารถเข้าถึงเมนูลัดได้ผ่านปุ่มรูปถังขยะ หน้าตาเมนูลัดก็จะประมาณนี้

ด้านบนนอกจากปุ่มชัตเตอร์ก็จะมีวงแหวนปรับเมนู แต่ที่แถมพิเศษมาก็จะเป็นปุ่มที่เขียนว่า 4K ปุ่มนี้เอาไว้เข้าโหมด 4K Photo โดยเฉพาะ

ส่วนปุ่มทางด้านซ้ายเป็นปุ่มที่เอาไว้เล่นฟังก์ชั่น Post Focus โดยเฉพาะครับ นอกจากนี้เวลาเราเซลฟี่ เราสามารถกดปุ่มนี้แทนปุ่มชัตเตอร์ได้ สะดวกมากสำหรับคนที่ไม่ถนัดใช้มือซ้ายกดชัตเตอร์

Micro SD Card

กล้องตัวนี้ใช้ Micro SD Card แทนที่จะใช้ SD Card แบบชาวบ้านชาวช่องเขาครับ เวลาเสียบเข้าคอมจะต้องมีอแดปเตอร์ร่วมด้วยเสมอ อันนี้เราไม่ได้มองเป็นข้อดีหรือข้อเสียนะครับ แต่ถ้าลืมก็หายืมยากกว่า SD Card ปกติหน่อย

แบตเตอรี่

ตาม Spec Sheet บอกว่าชาร์จเต็มที่ถ่ายได้ประมาณ 210 ภาพ จากการใช้จริงก็รู้สึกว่าแบตไม่อึดเท่าไหร่จริงๆครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของซีรีส์ GF เลย อาจเป็นเพราะว่าแบตมันอันเล็กมั้ง การชาร์จจะมีสายเสียบเข้ากับกล้องโดยตรง หัวชาร์จจะไม่ใช่ Micro USB ที่หาได้ทั่วไปนะครับ หัวจะอ้วนๆกว่าหน่อย ดังนั้นเก็บสายดีๆอย่าทำหาย

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงไม่ใช่แบตหรอก แต่เป็นสายชาร์จ เพราะมันสั้นไปหน่อย

เลนส์คิต

เลนส์คิตหรือเลนส์ที่มากับกล้องเป็นเลนส์ 12–32mm f3.5–5.6 เอาไว้ใช้ถ่ายทั่วๆไป จะถ่ายมุมกว้างก็ได้ แต่จะซูมได้ไม่เยอะนักครับ ขนาดเล็กพกง่ายมาก ตามภาพเลย เวลาจะใช้ต้องหมุนเลนส์ให้ลงล็อกก่อน กล้องจึงจะยอมเข้าโหมดถ่าย

อันนี้ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากเลนส์คิต ถ้าไม่ได้คิดไรมากเรื่องการซูมไกลๆหรือการเบลอหลัง มันก็เป็นเลนส์อเนกประสงค์ที่เวิร์กครับ ถ่ายได้ทุกอย่างแหละ

บอดี้และการจับถือ

บอดี้เล็กและมีน้ำหนักเบามากจริงๆ แค่ 269 กรัมเองอะ (รวมแบตแล้ว) จัดว่าเบาเป็นอันดับต้นๆของตลาดเลยครับ แต่ด้วยความที่บอดี้เน้นเล็กและเบาก็ต้องได้อย่างเสียอย่างหน่อยนึงตรงที่มันไม่มีGripให้จับ

บอดี้มี4สีให้เลือกครับ ได้แก่ สีดำล้วน สีดำเงิน สีน้ำตาล และสีชมพูคาวาอี้แบบตัวที่เราเอามารีวิวนี่แหละ ใครที่ดูรีวิวนี้เห็นกล้องสีชมพูอาจจะแบบเฮ้ย นี่มันกล้องผู้หญิง? แต่จะบอกว่าจริงๆแล้วผู้ชายก็ใช้รุ่นนี้ได้ สีดำล้วนก็มี สวยดี หน้าตาเป็นแบบนี้

ราคา

ราคาเริ่มต้นที่ 23,990 บาท (มีเลนส์คิต 12–32mm) ไม่รวมโปรโมชั่นนะครับ

สรุป

เราจะสรุปข้อดีและข้อสังเกตให้นะฮะ จะได้ทราบว่ากล้องตัวนี้เหมาะกับเราจริงมั้ย

ข้อดี

  1. ขนาดเล็กกะทัดรัดมาก เลนส์ก็เล็กเช่นกัน
  2. โฟกัสภาพนิ่งได้รวดเร็วมาก
  3. หน้าจอพับเซลฟี่ได้ และสามารถจิ้มเลือกจุดโฟกัสได้
  4. สามารถกดปุ่มเซลฟี่ด้วยนิ้วมือข้างขวาได้
  5. แต่งหน้าได้ด้วย ความเร็วในการใช้ฟังก์ชั่นแต่งหน้าสูงขึ้น
  6. มีวิดีโอ 4K
  7. มีฟังก์ชั่น 4K Photo และ Post Focus
  8. สีสันของภาพสวยสดใสดี
  9. มีเลนส์ให้เลือกหลากหลาย

ข้อสังเกต

  1. ปุ่มน้อย ใช้งานแบบ Manual ได้ยาก
  2. เนื่องจากเล็กมากจึงไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มี Grip
  3. การโฟกัส Contrast Detection ทำให้การออโต้โฟกัสในงานวิดีโอไม่ลื่นไหลนัก
  4. ไม่มีช่องเสียบไมค์ อาจไม่เหมาะใช้ถ่ายวิดีโอซีเรียส
  5. การวัดแสงของกล้องยังไม่แม่นยำ100% มีขึ้นๆลงๆให้เห็นอยู่บ้างแม้ถ่ายในสภาพแสงเดียวกัน(แต่คลาดเคลื่อนกันไม่เยอะ)
  6. สายชาร์จสั้นไปหน่อย ถ้าปลั๊กอยู่สูงๆนี่อาจหมดสิทธิ
  7. แบตไม่อึดเท่าไหร่

Panasonic Lumix GF9 เหมาะกับคนที่อยากได้กล้องขนาดเล็กพกพาง่ายๆ เน้นใช้เพื่อถ่ายเล่นทั่วไปไม่ซีเรียสครับ ราคาสองหมื่นต้นๆก็จัดว่าไม่แพงนัก ถ้าหากสนใจก็ลองไปหาเล่นที่ตัวแทนจำหน่ายดูสักครั้งก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ

เท่านี้ครับกับรีวิว Panasonic Lumix GF9 หากสนใจรีวิวอื่นๆสามารถติดตามกันได้ทาง medium.com/torcnn รวมถึงช่องทางอื่นๆอย่าง Facebook, Twitter และ Instagram เราขอลาไปด้วยภาพจากกล้อง Panasonic Lumix GF9 ทั้งหมดถ่ายด้วยเลนส์ 12–32mm f3.5–5.6 Kit และ 15mm f1.7 Leica นะครับ

ตัวอย่างภาพ

12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/50 f3.5 iso800)
15mm f1.7 Leica (1/1250 f4.0 iso200)
15mm f1.7 Leica (1/60 f1.7 iso2000)
15mm f1.7 Leica (1/100 f1.7 iso1250)
15mm f1.7 Leica (1/500 f5.0 iso250)
15mm f1.7 Leica (1/1250 f4.5 iso800)
15mm f1.7 Leica (1/1000 f2.0 iso320)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/8 f3.5 iso3200)
15mm f1.7 Leica (1/400 f1.7 iso200)
15mm f1.7 Leica (1/160 f2.0 iso200)
15mm f1.7 Leica (1/100 f1.7 iso3200)
15mm f1.7 Leica (1/40 f1.7 iso3200)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/125 f3.5 iso200)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/60 f3.5 iso800)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/400 f7.1 iso200)
15mm f1.7 Leica (1/60 f1.8 iso250)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/60 f3.5 iso500)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/80 f5.6 iso1000)
12–32mm f3.5–5.6 Kit (1/60 f4.6 iso1250)
12–32mm f3.5–5.6 Kit
15mm f1.7 Leica (1/50 f2.2 iso800)
12–32mm f3.5–5.6 Kit

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn