รีวิวกล้องสมาร์ทโฟน Huawei Mate10 Pro

Tor Chanon
torcnn
Published in
5 min readFeb 19, 2018

--

“กล้องสมาร์ทโฟนเรือธงของ Huawei ที่ร่วมออกแบบกับ LEICA”

สวัสดีครับ เรา @torcnn นะ

คราวนี้เราจะมารีวิวกล้องสมาร์ทโฟน Huawei รุ่น Mate 10 Pro ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นสูงสุด ณ ปัจจุบันของ Huawei ครับ แน่นอนว่านอกจากสเป๊กเครื่องจะดีที่สุดแล้ว ยังใส่เทคโนโลยีเรื่องกล้องที่ดีที่สุดที่ Huawei มีลงไปด้วย

กล้องหลัง

กล้องหลังของ Huawei Mate10 Pro เป็นกล้องที่ออกแบบร่วมกับ LEICA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน Huawei หลายๆรุ่น

Huawei Mate10 Pro จะมีกล้องหลัง2ตัวที่ทำหน้าที่ร่วมกัน โดยตัวแรกจะเป็นแบบ RGB (มีสีสัน) ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 12 ล้านพิกเซล ส่วนตัวที่สองจะเป็นแบบ Monochrome (สีขาวดำ) ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 20 ล้านพิกเซล หากกดถ่ายด้วยโหมดถ่ายรูปปกติ มันจะนำภาพที่ได้จากกล้อง2ตัวนี้มารวมกัน เพื่อให้ได้ภาพสีที่มีความละเอียดสูง

การทำงานร่วมกันของกล้องทั้งสองก็จะให้ลายเส้นที่ค่อนข้างหนา แต่ให้รายละเอียดชัดเจนครบถ้วนแม้จะซูมเข้าไปดูใกล้ๆ

แม้ถ่ายในสภาวะแสงน้อย ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้

ครอปดู

หากเราซูม การซูมด้วย Huawei Mate10 Pro จะไม่ใช่การซูมแบบ Optical ครับ ยี่ห้ออื่นอาจจะมีกล้องตัวที่สองที่ถ่ายได้ระยะไกลกว่าเพื่อให้ซูมได้แบบไม่เสียรายละเอียด แต่สำหรับ Mate10 Pro จะยังเป็นการซูมแบบ Digital อยู่ (พูดง่ายๆก็คือการครอปนั่นแหละ) ซึ่งโดยทั่วไปกล้องที่ซูมด้วยระบบ Digital จะทำให้ภาพสูญเสียรายละเอียดไปบ้าง แต่ Huawei Mate 10 Pro มีกล้อง Monochrome ที่มีความละเอียด 20 ล้าน ทำให้ยังได้ภาพดิจิตอลซูมที่ยังมีความละเอียดดีอยู่

ซูมสองเท่าก็ยังคงรายละเอียดไว้ได้ดี

ถึงจะอัดความละเอียดมาให้ถึง 20 ล้าน แต่ในเมนูตั้งค่าใช้แค่ 12 ล้านก็พอนะครับ ลายเส้นกำลังพอดี ถ้าจัดเต็มที่20ล้านเส้นอาจจะออกมาเข้มเกินไปได้ (เมนูSettingsนี้เข้าได้ด้วยการเลื่อนไปทางด้านขวาจากหน้าตอนถ่ายรูป)

เลนส์ของกล้องเป็นเลนส์ LEICA SUMMILUX-H 1:1.6/27 ASPH

อย่าเพิ่งงงชื่อยาวๆนี่นะ ชื่อ SUMMILUX เป็นเพียงชื่อเลนส์ของ LEICA ที่มีขนาดรูรับแสงประมาณ 1.6 เฉยๆครับ ส่วนเลข 1.6 เนี่ยแน่นอนว่าคือขนาดของรูรับแสง การที่มีรูรับแสงกว้างขนาดนี้จะทำให้แสงเข้ามาในภาพได้มาก ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดี ส่งผลให้ได้คุณภาพไฟล์ที่ดีกว่าเดิม ส่วนเลข27ก็คือช่วงเทียบเท่าเลนส์ 27mm ซึ่งให้มุมกว้างประมาณหนึ่ง ใช้ง่าย ไม่ได้กว้างมากแต่ก็ไม่ได้แคบ

ภายในตัวเลนส์ยังมีกันสั่น (OIS : Optical Image Stabilization) ช่วยให้ภาพสั่นไหวน้อยลง ส่งผลทั้งกับภาพนิ่งและวิดีโอ

A.I.ใหม่ล่าสุด

Huawei Mate10 Pro มีความน่าทึ่งตรงที่มันสามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังถ่ายอะไรอยู่(Real-Time Recognition) เช่นว่ากำลังถ่ายดอกไม้ ท้องฟ้า ต้นไม้ วิวกลางคืน อาหาร พระอาทิตย์ตก ตัวอักษร ทะเล หิมะ หมา แมว คน และอื่นๆ กล้องจะปรับสีสันให้เข้ากับสิ่งที่เรากำลังถ่ายอยู่ได้

กล้องจะบอกได้ว่ามันกำลังถ่ายอะไรอยู่จากเครื่องหมายตรงมุมครับ อย่างเช่นรูปนี้กำลังถ่ายต้นไม้ มันก็จะขึ้นเป็นเครื่องหมายรูปต้นไม้ไว้ตรงมุม

ถ้ากำลังถ่ายพระอาทิตย์ตก มันก็จะขึ้นเป็นรูปพระอาทิตย์ตก

ถ่ายดอกไม้ ก็ขึ้นว่าเป็นดอกไม้

ถ่ายตัวอักษร ก็รู้ว่าเป็นตัวอักษร

มีโหมดต่างๆให้เลือกเยอะ

นอกจากโหมดถ่ายรูปธรรมดา ยังมีหลายโหมดให้เล่น ทั้งขาวดำ พาโนรามา ลากไฟ สโลว์โมชั่น และอื่นๆ เราเข้าหน้านี้ได้ด้วยการเลื่อนไปทางซ้ายขณะที่อยู่ในโหมดถ่ายรูปครับ

โหมด Wide Aperture (หน้าชัดหลังเบลอ)

การเบลอหลังของ Huawei Mate10 Pro จะเป็นการเบลอด้วยซอฟต์แวร์ครับ ไม่ผ่านการเบลอด้วยตัวเลนส์ กล้องจะทำการคำนวณระยะชัดตื้นชัดลึกและเบลอให้เอง

ในโหมดนี้เราสามารถกำหนดจุดโฟกัสหลังการถ่ายได้ และกำหนดระดับความเบลอได้ด้วย

การเบลอด้วยซอฟต์แวร์อาจจะไม่ได้เนียน100%ครับ แต่หากใช้ฟังก์ชั่นนี้ในปริมาณพอเหมาะ มันก็ใช้การได้ดีเลยทีเดียว เราแนะนำให้ใช้ฟังก์ชั่นนี้โดยปรับให้ค่ารูรับแสงอยู่ที่ 4.0 ขึ้นไป และหลีกเลี่ยงการถ่ายวัตถุที่มีขอบไม่เสมอกัน

0.95
2.8
4.0
6.3

พยายามเลี่ยงการถ่ายวัตถุที่บริเวณขอบมีความซับซ้อน เช่นพวกต้นไม้ใบหญ้า กล้องมันจะงงครับว่าควรเบลอตรงไหนถึงตรงไหน

โหมด PRO

โหมด PRO จะให้เรากำหนดค่าต่างๆได้อิสระตั้งแต่ค่า ISO ความเร็วชัตเตอร์ ระบบโฟกัส และไวท์บาลานซ์ (รูรับแสงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปจาก1.6ได้นะ ก็เลนส์มันอันเล็กแค่นั้นเอง 555)

เราสามารถเลือกใน Settings ได้ว่าจะเซฟเป็นไฟล์ RAW เพิ่มด้วยรึเปล่า ถ้าถ่ายไฟล์RAWมาด้วย เค้าจะแยกโฟลเดอร์RAWไว้ให้ต่างหาก ไม่นำไปรวมไว้ใน Gallery เหมือนรุ่นก่อนๆ

ไฟล์RAWจัดว่าเอามาแต่งต่อได้ในระดับหนึ่ง นำมาดึงรายละเอียดส่วน Highlights และ Shadow ได้พอประมาณ

หมายเหตุ: ค่า Highlights -100, Shadows +100

โหมด Monochrome

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าสมาร์ทโฟนตัวนี้มีกล้องสองตัวครับ ตัวแรกใช้เซนเซอร์แบบสี อีกตัวใช้เซนเซอร์แบบขาวดำ การที่กล้องมีเซนเซอร์แบบขาวดำจะดีกว่าการถ่ายภาพสีๆแล้วมาแต่งให้เป็นขาวดำทีหลังตรงที่มันจะให้รายละเอียดที่ดีกว่ามาก

ภาพขาวดำของ Huawei Mate10 Pro ถึงจะเอาไปซูมดูระยะไกลมากๆก็ยังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

วิดีโอ

มีวิดีโอ4Kที่ 30fps ด้วย (แต่ไม่น่ามีใครได้ใช้4Kอย่างจริงจังหรอก 555) กันสั่นช่วยลดความสั่นไหวของวิดีโอได้นิดหน่อย ยังมีความสั่นไหวให้เห็น เวลาเดินถ่ายต้องระมัดระวัง อย่าเดินกระแทกกระทั้นมาก และต้องจับสมาร์ทโฟนไว้ให้มั่นคงด้วย ถ้าจะเอานิ่งจริงๆคงต้องใช้Gimbalเข้าช่วย สีสันของวิดีโอสวยดี ไม่ได้ต่างจากสีที่ตาเห็นมากนัก

ค่าที่เราแนะนำสำหรับการใช้งานวิดีโอคือ Full HD 1080p 60fps ครับ(ตัวเลือกที่2) ภาพจากวิดีโอจะออกมาลื่นไหลกว่าค่าตั้งต้น(ตัวเลือกที่3)เยอะมากแบบเห็นได้ชัด

กล้องหน้า

ให้สีผิวชมพูตามสไตล์ เวลาใช้ฟังก์ชั่นกล้องหน้า กล้องจะเข้าโหมด Portrait ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งมันจะเกลี่ยหน้าให้เราเยอะมาก ถ้าไม่ชอบต้องกดเอาโหมด Portrait ออกครับ

Portrait: Enabled

สังเกตได้ว่ามันจะเกลี่ยรายละเอียดบนหน้าเยอะมาก

Portrait: Disabled

พอปิดปุ๊บ อันนี้พอจะมีเส้นบนใบหน้าบ้าง เรียลขึ้นหน่อย แต่ก็ยังให้สีผิวชมพูอยู่

ราคา

27,900 บาท ยังจัดว่าถูกกว่าตัวเลือกอื่นๆหลายๆตัวครับ

สรุป

Huawei Mate10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปเพลินมาก โดยเฉพาะคนที่อินการเก็บรายละเอียดครับ เส้นในภาพนี่มาเต็ม ซูมดูแล้วรู้สึกฟิน ใครที่ชอบการถ่ายภาพขาวดำก็น่าจะชอบมากๆเช่นกัน นอกจากนี้เค้ายังยัดฟังก์ชั่นใหม่ A.I. : Real-time Recognition ให้กล้องรู้ได้ด้วยว่ากำลังถ่ายอะไรอยู่

เท่านี้ครับกับรีวิวกล้องสมาร์ทโฟน Huawei Mate10 Pro 😆 ขอปิดท้ายด้วยรูปจากสมาร์ทโฟนตัวนี้นะฮะ ใครที่อยากติดตามก็ไปตามกันได้ทั้งช่องทาง Facebook, Twitter หรือ Instagram ได้เลยนะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบาย

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn