รีวิว Olympus M.ZUIKO DIGITAL ED 12-200mm F3.5-6.3 เลนส์โคตรซูมตัวเดียวจบน้ำหนักเบ๊าเบา

Tor Chanon
torcnn
Published in
6 min readJul 14, 2019

--

“เลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลกตัวใหม่จากโอลิมปัส!”

สวัสดีครับ เรา @torcnn เอง 😙

ถ้าเรานึกถึงเลนส์ซูมประเภทที่พกตัวเดียวเที่ยวทั่วโลกของ Olympus เราก็มักจะนึกถึงเลนส์เหล่านี้ครับ ยกตัวอย่างเช่น

  • M.ZUIKO DIGITAL ED 12–40mm F2.8 PRO
  • M.ZUIKO DIGITAL ED 12–100mm F4.0 IS PRO
  • M.ZUIKO DIGITAL ED 14–150mm F4.0–5.6 II

แต่ถ้ารู้สึกว่าที่มีอยู่มันสะใจไม่พอล่ะ เลนส์ซูมตัวใหม่ล่าสุดของ Olympus อาจจะเป็นคำตอบของคุณครับ 😎

Background

เลนส์ตัวนี้มีชื่อเต็มๆคือ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 มันเป็นเลนส์ซูมเกรดธรรมดาที่ได้รับการออกแบบให้มีระบบ Weather Sealing ทำให้นอกจากมันจะสามารถซูมดูได้ทุกสิ่งบนโลกจากช่วง 12–200mm แล้ว มันยังพร้อมไปเจอได้ทุกสภาพอากาศ เหมาะเป็นเลนส์ที่พกออกไปลุยโดยแท้

สัมผัสแรก

เลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 จะมีขนาดที่ใหญ่นิดนึงแหละหากเทียบกับกล้องและเลนส์ของ Olympus ทั่วๆไป แต่ขนาดของมันยังถือว่าเป็นมิตรมากๆ ถ้าลองจินตนาการถึงการต้องแบกเลนส์ 24–400mm บนกล้อง System อื่นๆครับ

น้ำหนักตัวมันแค่ 455 กรัมเท่านั้น ซึ่งจัดว่าเบามากสำหรับเลนส์ซูมระยะขนาดนี้

ตัวเลนส์เมื่อซูม กระบอกจะยาวออกไปด้านหน้าเรื่อยๆ

ด้านในตัวเลนส์

ด้านในตัวเลนส์ประกอบไปด้วย

  1. เลนส์ Super ED (Extra-low Dispersion)
  2. เลนส์ ED (Extra-low Dispersion)
  3. เลนส์ Super HR (High Refractive Index lens)
  4. เลนส์ HR (High Refractive Index)
  5. เลนส์ Aspherical
  6. เลนส์ Focus driving

จะเห็นได้ว่าเลนส์ตัวนี้มีชิ้นแก้ว Super ED และ ED อย่างละ 2 ชิ้น ซึ่งช่วยในการลดปริมาณความคลาดสี (Chromatic Abberration) หรืออีกชื่อคือขอบม่วงขอบเขียวที่มักเกิดขึ้นหากถ่ายในสภาวะที่มีแสงมาก

นอกจากนี้ยังมีชิ้นเลนส์ Aspherical อีก 3 ชิ้นที่ช่วยในการลดความคลาดทรงกลม

ช่วง 12–200mm

ช่วงเลนส์ 12–200mm ในที่นี้มันเทียบเท่าช่วง 24–400mm บนกล้องฟิล์ม 35mm หรือฟูลเฟรม ซึ่งช่วง 24mm ก็คือช่วงที่กว้างแบบกลางๆ (ยังไม่ถึงขั้นกว้างแบบที่เค้าใช้ถ่ายโฆษณาบ้าน โรงแรม)

และช่วง 400mm ก็คือ… ซูมดูคนบนเขาก็เห็นอะ ทำให้เลนส์ตัวนี้มันใช้ถ่ายได้แทบทุกอย่าง มาพร้อม Perspective คละแบบ ซึ่งถ้าผู้ใช้มีความเข้าใจก็จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายไปหมด

ช่วง 12mm (เทียบเท่า 24mm) เป็นช่วงกว้างที่ใช้ถ่ายทั่วๆไปได้ ทั้งวิว อาคาร หรือใครจะเอาช่วงนี้ถ่ายคนเต็มตัวก็ย่อมได้ แค่จัดวางส่วนขาไว้บริเวณขอบภาพ ขาก็จะยาวขึ้นนิดหน่อย

หากเราซูมไปที่ประมาณระยะ 25mm (เทียบเท่า 50mm) เราจะได้ช่วง normal ซึ่งให้มุมมองของภาพที่มีความแคบมากยิ่งขึ้น มีความบิดเบี้ยวน้อยลง สามารถใช้ถ่ายเจาะวัตถุได้ดี อย่างเช่น อาหาร

ช่วงประมาณ 25mm (50mm equivalent)
ช่วงประมาณ 25mm (50mm equivalent)
ช่วงประมาณ 25mm (50mm equivalent)

หากเราซูมเข้าไปมากขึ้นเป็นช่วง Telephoto (ซูมซัก 35mm ขึ้นไป เทียบเท่า 70mm) เราจะเริ่มเห็นว่า Perspective ของภาพเราเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น คือมันจะดึงวัตถุด้านหน้ากับด้านหลังเข้ามาใกล้กัน เราสามารถใช้ในการถ่ายเจาะวัตถุ หรือแม้กระทั่งเปิดมุมมองใหม่ๆในการถ่ายวิวทิวทัศน์ได้เช่นกัน 😄

100mm (200mm equivalent)
37mm (74mm equivalent)
37mm (74mm equivalent)
40mm (80mm equivalent)

เห็นมั้ยว่าการซูมได้เยอะๆมันไม่ได้จบแค่นั้น มันยังให้มุมมองรูปแบบใหม่ๆให้เราสามารถไปเล่น ต่อยอดได้อย่างสนุก ทีนี้ก็เหลือแค่ความชำนาญของเราว่าจะเลือกซูมและจัดองค์ประกอบแบบไหนให้ภาพดูน่าสนใจ

รูรับแสงกว้างสุดที่ 3.5–6.3

เลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 มีค่า f ต่ำสุดที่ 3.5–6.3 การที่ f ไม่คงที่ ภาษาตากล้องเค้าเรียกว่า f ไหลครับ อาการนี้คือยิ่งเราซูม ค่าf(รูรับแสง)ที่ปรับได้ต่ำสุดก็จะเพิ่มไปเรื่อยๆ สรุปง่ายๆคือ

  • สามารถใช้ค่า f ต่ำสุดที่ 3.5 หากถ่ายด้วยช่วง 12mm (ไม่ซูม)
  • สามารถใช้ค่า f ต่ำสุดที่ 6.3 หากถ่ายด้วยช่วง 200mm (ซูมจนสุด)

ดังนั้นการใช้เลนส์ตัวนี้ สิ่งที่ต้องพึงระวังเสมอคือเมื่อเราซูมในโหมด Manual ภาพของเราจะมืดลงได้(เพราะค่า f มันมากขึ้น) แต่ถ้าเราสามารถปรับค่าต่างๆเพื่อชดเชยแสงได้คล่อง เรื่องนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรครับ

หากอยากได้เลนส์ที่ f คงที่แม้เราซูม แนะนำให้ดูเป็นเลนส์ Olympus เกรด Pro ครับ ส่วนมากจะให้ค่า f คงที่ตลอดช่วงซูม แต่ค่าตัวเค้าก็จะสูงกว่านะ

ทดสอบ F ไหล

ที่ช่วง 12mm เราใช้ f ต่ำสุดได้ที่ 3.5

ที่ช่วง 25mm เราใช้ f ต่ำสุดได้ที่ 4.7

ที่ช่วง 45mm เราใช้ f ต่ำสุดได้ที่ 5.4

ที่ช่วง 70mm เราใช้ f ต่ำสุดได้ที่ 6.1

และ f จะขึ้นไปสุดที่ 6.3 เมื่อเราหมุนซูมไปที่ช่วงประมาณ 112mm ครับ

โฟกัส

เลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 มีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 22ซม. หากไม่ได้ซูม สามารถใช้ถ่ายจ่อๆได้ ช่วงเทเลโฟโต้เองก็สามารถใช้ถ่ายมาโครได้เหมือนกัน

ด้านความเร็วในการโฟกัส เราไม่ได้ทำการเทสกับกล้อง Olympus ที่มีฟังก์ชั่น Phase Detection Autofocus จึงไม่ทราบถึงความเร็วในการ Tracking แต่กับการถ่ายภาพนิ่งทั่วๆไป การโฟกัสของเลนส์ตัวนี้ก็จัดว่าเร็วมากๆเป็นปกติครับ

ความคม

เลนส์ตัวนี้มีความคมในระดับนึง แต่ไม่ถึงกับคมจัดทั่วทั้งภาพ

กลางภาพจะคมกว่าบริเวณขอบภาพอย่างชัดเจน และหากซูมก็จะลดความคมลง

ช่วง 12mm (24mm equivalent) f4.5
กลางภาพ
ขอบภาพ
ช่วง 70mm (140mm equivalent) f6.1
กลางภาพ
ขอบภาพ

ส่วนด้านล่างคือช่วง 200mm (เทียบเท่า 400mm)

กลางภาพ
ขอบภาพ

ความคลาดสี

มีครับ แต่ปริมาณไม่ได้เยอะจนรบกวนภาพเพราะมีเลนส์ Super ED และ ED ช่วยอยู่ ภาพข้างล่างที่เอามาเป็นตัวอย่างคือเยอะสุดเท่าที่เราลองถ่ายมาละ จริงๆถ่ายทั่วๆไปมันก็ไม่ค่อยเห็น

ถ้าเข้าโปรแกรมแต่งรูปอย่างเช่น Lightroom ก็สามารถจิ้มสีพวกนี้ออกได้ไม่ยาก

รูปนี้ใช้รูรับแสงที่ 4.0 นะ

Weather Sealing

เลนส์ Olympus 12–200mm แม้จะเป็นเลนส์เกรดปกติ แต่ก็ถูกออกแบบมาให้คงทนต่อสภาวะอากาศต่างๆครับ เราสามารถพาไปลุยฝนหรือคลุกฝุ่นได้ มันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากเวลาไปเที่ยว เราเองก็พาไปลุยฝนปรอยๆมาแล้ว

เราจึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้กับกล้อง Olympus ที่มี Weather Sealing ด้วยนะ

ราคา

33,990 บาท มองปรู๊ดแรกอาจจะรู้สึกว่ามันแรงเพราะเป็นเลนส์เกรดปกติ แต่ในราคานี้อย่าลืมว่าเราได้เลนส์ครบทุกช่วงจริงๆ ตัวเดียวจบ ไม่ต้องพกเยอะ

สรุป

เลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 เป็นเลนส์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบพกกล้อง Olympus ออกไปเที่ยว โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายวิวทิวทัศน์ ความครบช่วงของมันเป็นประโยชน์มากเพราะเวลาเราไปตามที่ต่างๆ เราไม่มีทางรู้ก่อนว่าเราเข้าใกล้วิวทิวทัศน์ตรงหน้าได้มากน้อยแค่ไหน

เราจะสรุปข้อดีและข้อสังเกตเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจนะครับ

ข้อดี

  1. ตัวเดียวจบ ได้ช่วงเทียบเท่า 24–400mm ถ้าไปเที่ยวนึกอะไรไม่ออกก็หยิบตัวนี้ไปเลยครับ ซูมถึง พึ่งได้ ชีวิตสบาย
  2. พอซูมได้เยอะ Perspective แต่ละช่วงซูมที่ต่างกันก็ทำให้เลนส์ตัวนี้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลายแบบ
  3. มีขนาดตัวที่เล็ก และน้ำหนักแค่ 455 กรัม
  4. ตัวเลนส์มีระบบ Weather Sealing ทำให้พาไปลุยฝนได้
  5. มีชิ้นเลนส์ Super ED และ ED ที่ช่วยให้ปริมาณความคลาดสี(พวกขอบม่วง)ต่ำ เท่าที่ลองเอาไปถ่ายมาพบอยู่แค่ไม่กี่ภาพ จัดว่าทำได้ดีเลย
  6. เลนส์ถูกออกแบบมาให้ป้องกันสภาวะอากาศแย่ๆได้

ข้อสังเกต

  1. บริเวณขอบภาพมีความคมน้อยกว่ากลางภาพพอสมควร และความคมจะน้อยลงอีกถ้าหากซูม
  2. แม้กล้อง Olympus จะมีกันสั่นที่ดี แต่รูรับแสงที่ 3.5–6.3 ทำให้การถ่ายกลางคืนอาจจะยังต้องดัน ISO ช่วยอยู่อีกพอสมควร
  3. อาการ F ไหลจะทำให้ภาพมืดลง ดังนั้นควรตื่นตัวเรื่องค่าเบสิกต่างๆเวลาซูมโดยเฉพาะคนที่ใช้โหมด M เป็นประจำ

เท่านี้ครับกับรีวิวเลนส์ Olympus M.Zuiko Digital ED 12–200mm 3.5–6.3 ส่วนตัวถ้าเราพกเลนส์ตัวนี้ เราจะเอาเลนส์ฟิกซ์รูรับแสงกว้างๆไปเพิ่มอีกตัวนึงครับ (17mm หรือ 25mm) เท่านี้ก็รู้สึกว่าทริปเราอุ่นใจละ

เราขอทิ้งท้ายด้วยภาพจากเลนส์ตัวนี้ ถ้าสนใจอย่าลืมไปลองเล่นที่ช็อปนะ ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า บ๊ายบาย 😉

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn