รีวิว Sony RX100 VII

Tor Chanon
torcnn
Published in
8 min readSep 13, 2019

--

“ซื้อตัวเดียวจบ! กล้องคอมแพคตัวเล็กสเป๊กเทพ รุ่นที่7 มาแล้ว"

สวัสดีครับ เรา @torcnn เอง 😎

สมัยที่ RX100 มีถึงแค่รุ่น4 ทาง Sony Thailand เคยถามเราว่า “ต่อคิดว่า RX100 มันจะพัฒนาไปในทิศทางไหนได้อีกบ้าง?” บอกตามตรงว่าตอนนั้นนึกไม่ออกจริงๆ คิดว่าคงพัฒนายากอะแหละ เพราะคิดว่ารุ่น4มันก็ดีอยู่แล้วไง

จนถึงตอนนี้ออกรุ่นใหม่ไม่หยุดเลยจ่ะ

แต่ละรุ่นของ RX100 จะอิงเทคโนโลยีล่าสุดของกล้อง Mirrorless Sony ในปีนั้นๆ ซึ่งเทคโนโลยีของ Sony เนี่ยมันก็พัฒนาแบบมีอะไรให้ว้าวทุกปี ล่าสุดทาง Sony ได้เปิดตัว RX100 VII (รุ่นที่7) เค้าบอกว่ากล้องตัวนี้คือ Pocketable A9 หรือเป็น Sony A9 ขนาดพกพา เราเห็นว่ามีคนรอบตัวให้ความสนใจกล้องตัวนี้เยอะ เลยขอยืมทาง Sony Thailand มารีวิวครับ

*ตัวอย่างภาพเราจะรวมไว้ตอนท้ายของบทความ บอกก่อนว่ารูปเยอะนะ*

RX คืออะไร

RX คือชื่อซีรีส์กล้องคอมแพคตระกูล CyberShot เกรดพรีเมียมของ Sony โดยจะแบ่งเป็นซีรีส์ย่อยๆ คือ

  • RX0 กล้องอัลตร้าคอมแพคขนาดเล็กจิ๋ว เซนเซอร์ขนาด1นิ้ว
  • RX1 กล้องคอมแพคเซนเซอร์ขนาดฟูลเฟรม
  • RX10 กล้อง Bridge ซุปเปอร์ซูมครอบจักรวาล
  • RX100 กล้องคอมแพคขนาดเล็ก เซนเซอร์ขนาด1นิ้ว

ซีรีส์ RX100 เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดครับ เนื่องจากมันตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่เน้นถ่ายรูปทั่วๆไป ต้องการคุณภาพที่ดี และขนาดพกพาง่าย ต่างจาก RX ตัวอื่นๆที่ค่อนข้างจะเหมาะกับงานหรือความต้องการเฉพาะทางมากกว่า

Sony RX100 VII

Sony RX100 VII (หรือ RX100M7) ยังคงความเล็กกะทัดรัดไว้ แล้วเพิ่มประสิทธิภาพด้านการโฟกัสให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพรัวต่อเนื่อง และที่สำคัญคือตอบโจทย์เทรนด์การ Vlog ให้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

บอดี้ ขนาด และการจับถือ

สิ่งที่ทำให้กล้องตระกูล RX100 ขายดิบขายดี เป็นเพราะว่ามันเป็นกล้องคอมแพคที่มีขนาด“กะทัดรัด”จริงๆ (ไม่ใช่คอมแพคทุกตัวบนโลกที่พกพาง่ายนะ 😅) นอกจากพกง่ายไม่เบียดเบียนสิ่งของอื่นๆในกระเป๋า ตัวกล้องยังมีน้ำหนักเบาด้วย บอดี้ของ RX100 VII มีน้ำหนักเพียง 302 กรัม รวมการ์ดและแบตเตอรี่

การออกแบบพื้นที่ด้านหน้าเป็นแบบเรียบๆ ไม่มีกริปยื่นออกมา หากใครลองเล่นแล้วรู้สึกว่าจับไม่ถนัด(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคุณผู้ชาย) เค้ามีกริปขายแยกด้วย

ทุกครั้งที่ใช้กล้อง RX100 VII เราแนะนำ(แกมบังคับ)ว่าให้ใช้สายคล้องกล้องเสมอ เพื่อความปลอดภัยของกล้องตัวน้อยของท่าน

เซนเซอร์

เซนเซอร์ Stacked 20.1 MP Exmor RS™ CMOS ขนาด 1 นิ้ว หากเทียบกับกล้องฟูลเฟรมคือมันจะมีขนาดที่เล็กกว่ากัน 2.7 เท่า เซนเซอร์ขนาดเท่านี้จัดว่าใหญ่สำหรับกล้องคอมแพคแล้วครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพไฟล์เลย

เลนส์ 24–200mm f2.8–4.5

เลนส์ของ Sony RX100 VII เป็นเลนส์ ZEISS® Vario-Sonnar T* ช่วง 24–200mm ซึ่งจัดว่าซูมได้ไกล คนที่ชอบถ่ายภาพแนว Landscape หรือมีโอกาสไปจอยงาน Event บ่อยๆ(อย่างเช่นเรา) ใช้แล้วชีวิตดีสุดๆ ถ่ายถึงหมด แม้จะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมทั้งงาน

ขนาดรูรับแสงอยู่ที่ 2.8–4.5 ซึ่งจัดว่าแคบกว่ารุ่น 5 ครับ ตามตัวเลขแน่นอนว่ามันจะเก็บแสงเข้ามาในภาพได้น้อยกว่าและเบลอหลังได้น้อยกว่าหน่อย ถ้าใครซีเรียสเรื่องนี้ให้กลับไปดูรุ่น5ที่ใช้เลนส์ช่วง 24–70mm f1.8–2.8 แทน แต่ก็ซูมได้น้อยกว่านะ

  • สำหรับสายเดินทางท่องเที่ยว ช่วง 24–200mm นี่คือชิว ซูมถึงชัวร์ จัดคอมโพสได้ง่าย ยืนเฉยๆไม่ต้องเดินเข้าไปใกล้ก็ถ่ายได้ เวลาเราไปเที่ยวเราอาจจะไม่รู้ว่าวิวมันอยู่ห่างออกไปแค่ไหน ดังนั้นการพก RX100 VII จะช่วยรับประกันได้ว่าเราจะได้ภาพวิวที่นั่นแน่ๆ
  • สำหรับสาย Vlog นอกจากช่วง 24mm ที่ใช้ถ่ายเซลฟี่ได้ดี การมีช่วงเทเลโฟโต้ตั้งแต่ 70–200mm ให้ใช้งานมันจะเป็นประโยชน์มาก นอกจากเรื่องความสะดวก ช่วงซูมที่แตกต่างกันจะทำให้ Footage ของเราดูมีมุมมองหรือ Perspective ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย
  • สำหรับสาย Street จริงๆแล้วช่วงที่เป็นที่นิยมของช่างภาพสาย Street คือช่วงประมาณ 24–35mm (ซึ่งกล้องตัวนี้ก็ครอบคลุม) แต่ถ้าหากว่ากันด้วยเรื่องเลนส์เทเลโฟโต้ จริงๆเลนส์เทเลโฟโต้มันก็ถ่ายสตรีทได้นะ คือแต่ก่อนเลนส์พวกนี้มันมีข้อจำกัดเรื่องขนาดตัวที่ใหญ่คนเลยไม่นิยมพกกัน พอข้อจำกัดตรงนี้หายไป ก็สุดแล้วแต่สายสตรีทจะเปิดมุมมองใหม่ๆกันเลยครับ ส่วนเรื่องรูรับแสง2.8–4.5 สายนี้คงไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะมักจะใช้แคบๆกันตลอด
  • สำหรับสายติ่ง ช่วงเลนส์มันถ่ายถึงตัวศิลปินอยู่แล้วอะ สบายๆ จะงานอีเวนต์หรือไปรับที่สนามบินเขาเดินเข้าออกก็ได้หมด การันตีเลยว่าซูมถึง ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ไปมาให้วุ่นด้วย แต่ถ้าใครคาดหวังว่าภาพมันจะออกมาพื้นหลังเบลอโหดๆเหมือนบางแอคแฟนไซต์ อันนี้ผิดละ เลนส์ 24–200mm f2.8–4.5 เบลอหลังได้จริง แต่เบลอได้ไม่เยอะนะครับ

อันนี้เผื่อใครนึกไม่ออกว่าช่วงซูม 24–200mm มันเป็นยังไง

Optical SteadyShot

พูดง่ายๆคือกันสั่นนั่นแหละ ปกติเวลาเราใช้เลนส์เทเลโฟโต้ซูมไกลๆ มันมีโอกาสที่ภาพจะสั่นไหวสูงมาก แต่ Sony RX100 VII มีกันสั่นที่ช่วยซัพพอร์ตการซูมไกลๆของเราให้สั่นไหวน้อยลง เค้าบอกว่าชดเชยได้ 4 สต๊อปที่ 200mm นะ

โฟกัส

มีจุดโฟกัส Phase Detection Autofocus 357 จุด และจุดโฟกัส Contrast Detection Autofocus 425 จุด ทำให้จับวัตถุที่เคลื่อนไหวได้แม่นยำ

สิ่งสำคัญที่เพิ่มมาคือเทคโนโลยีล่าสุดของ Sony คือ “Real-Time Eye AF” ซึ่งช่วยให้เราโฟกัสดวงตาทั้งคนและสัตว์(หมาแมว)ได้เร็วมากๆ แต่เราจะต้องเซ็ตกล้องในเมนูเสมอว่าเรากำลังถ่ายคนหรือสัตว์อยู่ เพราะการโฟกัสดวงตาทั้งคนและสัตว์ไม่สามารถทำงานไปพร้อมกันได้ครับ

เราสามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกพื้นที่โฟกัสได้นะ วิธีนี้ง่ายและแม่นยำที่สุดแล้ว

ช่องมองภาพ

ช่องมองภาพเป็นฟังก์ชั่นที่อยู่ในกล้อง RX100 มานานมากตั้งแต่รุ่นที่3 และเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเวลาถ่ายในสภาวะที่แสงจ้ามากๆ เคยเอามือถือถ่ายกลางแดดมั้ย มันมักจะมองหน้าจอไม่ค่อยเห็นถูกมะ นั่นแหละ

ช่องมองภาพความละเอียด 2,359,296 จุด รุ่นที่7จะเหมือนกับรุ่นที่6ตรงที่เราสามารถกดปุ่ม Finder ด้านข้างเพื่อให้ช่องมองภาพเด้งขึ้นมาและกางออกพร้อมใช้งานได้ทันที ต่างกับ RX100 รุ่นที่5, 4 และ 3 ที่ช่องมองภาพจะไม่ได้กางออกมาเอง เราต้องดึงก่อนอีก1ทีถึงจะใช้งานได้

หากว่าเราต้องการจะเก็บช่องมองภาพของ RX100 VII ก็แค่กดช่องมองภาพลงไป

หน้าจอ

หน้าจอสามารถพลิกขึ้นเพื่อเซลฟี่/ถ่ายมุมช้อนได้ และสามารถพลิกลงเพื่อถ่ายมุมสูง

ถึงหน้าจอจะสามารถทัชสกรีนเพื่อโฟกัสหรือเพื่อกดชัตเตอร์ได้ แต่การปรับค่าต่างๆผ่านเมนูจะไม่ซัพพอร์ตการทัชสกรีนนะครับ

เซลฟี่

เมื่อหน้าจอมันพลิกเซลฟี่ได้ เราก็ต้องเทสเรื่องเซลฟี่กันหน่อย กล้อง Sony RX100 VII มีฟังก์ชั่น Soft Skin Effect หากเปิดใช้งานก็จะมี 3 ระดับ คือ Low, Mid และ High

ซึ่งหน้าที่ของมันก็คือการ “เกลี่ยผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น” ลดความชัดของรูขุมขน

อย่างไรก็ตามแม้เราไม่เปิดใช้งาน Soft Skin Effect ไฟล์ JPEG มันก็จะมีการเกลี่ยผิวมาให้นิดหน่อยอยู่ดีครับ

ต่อไปเป็นการเทียบ Soft Skin Effect ทั้ง 3 ระดับ

Soft Skin Effect: Low
Soft Skin Effect: Mid
Soft Skin Effect: High
สังเกตดีๆ รูขุมขนจะถูกเกลี่ยให้เนียน

ฟังก์ชั่นนี้คือการ“เกลี่ยผิว”ให้เนียนขึ้นเท่านั้นนะ ไม่ได้ส่งผลกับสีสันของผิว เลือกตามความชอบเลย ส่วนตัวรู้สึกว่าแม้จะปรับไว้ที่ระดับสูงสุด มันก็ไม่ได้เนียนจนขัดตาอะไร

สีสันของผิวเมื่อถ่ายในที่ร่มก็จะออกขาวอมชมพูแบบที่เห็นดังภาพครับ แต่ก็ไม่ได้ชมพูเว่อนะ สวยดี เซลฟี่ละคนส่วนใหญ่น่าจะรอด เพิ่มแสงหน่อยก็เน็ตไอดอลแล้ว แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบขาวอมชมพูแบบนี้หรือรู้สึกว่ามันซีดไป เราเองก็ไม่ทราบว่าจะปิดมันยังไงครับ คงต้องแต่งเอา ดันๆ Saturation สีส้มในแอป Lightroom หน่อยก็ได้

JPEG Soft Skin Effect: Mid ไม่ปรับแต่ง

ขอบคุณน้อง Cherrychu สำหรับการมาช่วยเป็นนางแบบด้วยจ่ะ 😘

การถ่ายภาพต่อเนื่อง

สามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 20 ภาพต่อวินาที(ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) โดยตัวกล้องจะคำนวณค่าแสง(AE)และการโฟกัส(AF)ได้มากถึง60ครั้งต่อวินาที

การถ่ายภาพต่อเนื่องจะเป็นแบบ Black-out free หรือไม่มีอาการจอมืดระหว่างที่ชัตเตอร์ทำงาน ทำให้สามารถถ่ายไปเรื่อยๆได้โดยไม่ถูกรบกวนหน้าจอ ฟังก์ชั่นนี้เหมือน Sony A9 เด๊ะๆๆๆ

Single Burst Shooting

อันนี้เป็นฟังก์ชั่นใหม่ ถ่ายภาพรัวออกมาทั้งหมด7ภาพ ด้วยระดับความเร็วที่ 90 ภาพต่อวินาที เหมาะใช้เก็บโมเมนต์ที่เกิดขึ้นเร็วมากๆเช่น ฟองสบู่แตก

โหมดนี้ใช้ยากนิดนึงครับเพราะต้องกดชัตเตอร์ให้พอดีกับเหตุการณ์ เราไม่แนะนำให้ใช้ถ่ายเหตุการณ์สำคัญๆเพราะอาจพลาดได้ มันจะเหมาะกับการถ่ายอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ซ้ำๆ รูปข้างล่างนี่เราก็ถ่ายเสียไปหลายรอบกว่าจะได้มา แต่เพราะมีคนทำฟองให้ได้ถ่ายหลายรอบเลยไม่เป็นไร

วิดีโอ

เราได้ลองเอากล้องไปทดสอบการ Vlog มาแหละ ทำเป็นคลิปสั้นๆ วิดีโอนี้ถ่ายด้วยกล้อง Sony RX100 VII แบบเพียวๆ ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อื่นๆช่วยใดๆ

ไฟล์วิดีโอของ Sony RX100 VII จัดว่าคุณภาพค่อนข้างดีเลยครับ สามารถถ่าย 4K ที่ 30p ได้ด้วย (แต่ข้างบนเราถ่ายแบบ Full HD มา เพื่อความง่ายในการ edit 😉)

สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้สำหรับงานวิดีโอก็คือ มันมีช่องเสียบไมค์มาสักที 5555 ฉลองดิ

ช่องเสียบไมค์อันนี้จะวางอยู่ด้านข้าง ตัวกล้องไม่มี Hot-shoe นะ จึงมีสองทางหากสาย Vlog ต้องการจะอัดเสียง ทางแรกคือหาไมค์ขนาดเล็กจิ๋วมาเสียบ ทางที่สองคือใช้กริปแบบภาพข้างล่างนี้ติดไมค์

ปุ่มกดวิดีโอมันวางอยู่ในตำแหน่งที่อาจกดได้ไม่สะดวกนักสำหรับนักVlogครับ ซึ่งถ้าเรามีกริป มันจะสามารถสั่งการอัดวิดีโอผ่านกริปได้ แต่ถ้าเราไม่มีกริป ปุ่มชัตเตอร์ก็สามารถเปลี่ยนเป็นปุ่ม Record วิดีโอได้ แค่เข้าไปที่เมนู Movie w/ shutter

กันสั่นอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากกันสั่นปกติ ยังมีกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานวิดีโอด้วย โดยลักษณะการทำงานก็คือมันจะครอปภาพเข้าไปเพื่อลดความสั่นไหว มีให้เลือก4ระดับคือ

  • Off หรือปิดการทำงานของกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์
  • Standard มีการครอปเข้าไปนิดหน่อย ยังเห็นความสั่นไหวพอสมควร
  • Active มีการครอปพอประมาณ กันความสั่นไหวได้ดี (สามารถใช้กับวิดีโอ4Kได้)
  • Intelligent Active ครอปมากที่สุด กันความสั่นไหวสูงสุด

แฟลช

มี Pop-up Flash น่ารักๆให้ใช้งานครับ

แบตเตอรี่

ชาร์จเต็มที่สามารถถ่ายได้ประมาณ 250 ภาพครับ(จากประสบการณ์นะ) แบตจัดว่าไม่ได้อึดมากมาย ถ้าใครถ่ายวิดีโอควรอย่างยิ่งที่จะพกแบตสำรองไปอีก2–3ก้อน

แต่เราสามารถชาร์จแบตได้ด้วยการเอาพาวเวอร์แบงก์มาเสียบ ชาร์จไปด้วยและถ่ายไปด้วยก็ได้ ไม่ต้องปิดกล้อง

ราคา

มี 2 ราคา ได้แก่

  • 38,990 บาท เฉพาะกล้องอย่างเดียว
  • 41,990 บาท มาพร้อม Grip จับด้านล่าง สำหรับสาย Vlog เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้หวดแพ็กเกจ Bundle อันนี้ครับ

สรุป

นี่เป็นกล้องที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากจะได้กล้องตัวเล็กๆคุณภาพดีๆไปเที่ยว หรืออยากจะ Vlog แบบสบายๆเดินตัวปลิว พกตัวเดียวจบ ชีวิตดี

ข้อดี

  1. เล็ก กะทัดรัด นอกจากพกสะดวก ความเล็กของมันยังมีข้อดีอีกอย่าง คือพอเอาไปถ่ายผู้คนตามท้องถนน เขาจะไม่รู้สึกถูกคุกคามเหมือนถูกกล้องใหญ่ๆถ่าย
  2. เซนเซอร์ขนาด1นิ้ว ให้คุณภาพไฟล์ที่ดี
  3. ครอบคลุมหลายระยะตั้งแต่ 24–200mm ไม่ต้องลำบากเดินเข้าเดินออกเยอะ ไม่ต้องกลัวซูมไม่ถึง และยังได้มุมมองของภาพหลายแบบตามช่วงซูมที่แตกต่างกัน
  4. มีกันสั่น Optical และกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ สามารถซูมโดยใช้ชัตเตอร์สปีดที่ไม่ต้องเร็วมาก ใครถ่ายวิดีโออาจจะไม่ต้องพกกิมบอลก็ได้ถ้าเดินเบาๆ
  5. โฟกัสรวดเร็วดี จับดวงตาคนและสัตว์ได้
  6. มีช่องมองภาพที่เรียกใช้งานได้ง่าย
  7. มีช่องเสียบไมค์ 😂
  8. หน้าจอสัมผัสเพื่อโฟกัสได้
  9. พับจอเซลฟี่ได้ ถ่ายมุมเสย-มุมช้อนได้
  10. เซลฟี่ผิวสวย
  11. ถ่ายภาพได้ 20 ภาพต่อวินาทีโดยไม่ Black-out
  12. มีฟังก์ชั่นใหม่ Single-Burst Shooting ให้เล่น

ข้อสังเกต

  1. แบตเตอรี่หมดค่อนข้างไวถ้าใช้ถ่ายวิดีโอรัวๆ ควรพกแบตเพิ่มถ้าถ่ายงานยาวๆ
  2. รูรับแสงขนาด 2.8–4.5 ซึ่งแคบกว่ารุ่นที่5 แลกกับช่วงเลนส์ที่ซูมได้มากกว่าเดิม
  3. ตัวกล้องไม่มีกริปที่ด้านหน้า ต้องซื้อกริปแยกถ้าอยากจับถือสะดวกๆ
  4. ควรใช้อย่างระมัดระวัง ใช้สายคล้อง หาเคสหรือใส่ในถุงกันกระแทก เนื่องจากตัวกล้องมีขนาดเล็กซึ่งเสี่ยงต่อการหล่น
  5. สำหรับตากล้องสาย Manual การปรับค่าต่างๆอาจทำได้ไม่สะดวกนัก เนื่องจากไม่ได้มี Dial รองรับมากพอ

หลังจากที่เราได้เอามาลองเล่น สรุปคืออยากได้เองเลย เราไปเกาหลีเอากล้องไป2ตัว ตัวนึงคือกล้องใหญ่ อีกตัวคือ RX100 VII สรุปกล้องใหญ่นอนอยู่ห้องยาวๆจ้า พกแต่ RX100 VII เดินตัวปลิว เพื่อนรักนักเดินทางของแท้ ฟังก์ชั่นครบอย่างกับมีดพก

ถ้าใครกำลังคิดจะซื้อกล้อง Mirrorless แต่งบจำกัดมากจริงๆ และจะไม่เผื่องบให้กับเลนส์เลย เราแนะนำว่าซื้อคอมแพคแบบนี้แทนเถอะครับ ชีวิตจะดีกว่ามาก แต่สำหรับใครที่มีงบสำหรับเลนส์ พร้อมแบก และต้องการเสพคุณภาพไฟล์ที่ดีสูงขึ้นไปอีกระดับ ก็ให้ไป Mirrorless ดีกว่า ฟินกว่าจ้ะ

เราขอลาไปด้วยภาพจากกล้อง Sony RX100 VII ครับ สำหรับ JPEG บางภาพอาจมีปรับแสงเล็กๆน้อยๆนะ แต่สีสันคือตามนี้เลย สนใจก็อย่าลืมไปลองเล่นที่ Sony Store ก่อนนะ ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพทุกคน บายจ้า 🙋

ภาพ JPEG

ภาพจากไฟล์ RAW

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn