แชร์ประสบการณ์ใช้กล้อง Sony A7 III

Tor Chanon
torcnn
Published in
7 min readOct 27, 2018

--

“กำลังมองหาฟูลเฟรมดีๆซักตัว ซื้อกล้อง Sony A7 III ดีรึเปล่า?”

สวัสดีครับ เรา @torcnn เอง 😙

กล้อง Sony A7 III (หรือ Sony A7 Mark 3) เป็นกล้องที่ออกมาเมื่อต้นปี 2018 และเป็นกล้องที่มีคนกำลังตัดสินใจซื้อหลายคนครับ บทความนี้เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากใช้ Sony A7 III มาเป็นระยะเวลาครึ่งปี เพื่อนๆที่สนใจจะได้รู้จักกล้องตัวนี้มากขึ้น และรู้ว่ากล้องตัวนี้คุ้มค่าและเหมาะกับเราหรือไม่นะ

ทำไมถึงฟูลเฟรม?

สิ่งที่ฟูลเฟรมให้ได้คือ

  • ความสามารถในการถ่ายในสภาวะแสงน้อยที่ดี ปริมาณ Noise ต่ำกว่า
  • ไฟล์มี Dynamic Range ที่ดี ส่งผลให้นำมาแต่งต่อได้ยืดหยุ่น
  • ตัวเลขบนเลนส์เท่าไหนก็เท่านั้น ไม่ต้องคูณระยะ ถอยหลังน้อยกว่ากล้องตัวคูณ
  • สามารถเบลอหลังได้มากกว่า

แต่ก็ต้องแลกมาด้วย

  • ขนาดของบอดี้กล้องและเลนส์ที่ใหญ่กว่า
  • ราคาของกล้องและเลนส์ที่สูงกว่า

ถ้าทราบถึงจุดนี้ แล้วยังอยากได้อยู่ โอเคครับ คุณได้ไปต่อ

หลังใช้ Sony A7 III เรามีความเห็นยังไงบ้าง?

ในพาร์ทนี้เราจะบอกเล่าถึงการใช้งานกล้อง Sony A7 III ครับ กล้องมันเป็นยังไงบ้าง อ่านประเด็นต่างๆแล้วจะเหมาะกับผู้อ่านแค่ไหน ลองไปดูกันครับ

ว่าด้วยเรื่องขนาดตัวก่อน อย่างที่บอกไปว่ากล้องเซนเซอร์ฟูลเฟรมมักจะมีขนาดบอดี้และเลนส์ที่ใหญ่ แต่ด้วยความที่ Sony A7 III มันเป็นกล้องชนิด Mirrorless ซึ่งไม่มีกระจกสะท้อนในตัวกล้อง จึงทำให้บอดี้ของมันเล็กกว่ากล้องชนิด DSLR อย่างมาก

ขนาดตัวของ Sony A7 III นี่จัดว่าเล็กพกพาง่ายครับ ถ้าใครเคยลองเล่น Sony A7 II มาก่อนจะพบว่าขนาดไม่ได้ใหญ่ไปกว่ากันเลย เราได้มีโอกาสพามันไปเที่ยวหลายๆที่ ก็ไม่รู้สึกเบียดเบียนชีวิตขนาดนั้นครับ ความลำบากจะไปอยู่ที่การพกเลนส์ซะมากกว่า

ต่อกันที่เรื่องไฟล์ ส่วนตัวเราเป็นคนที่ถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ตลอด ขนาดไฟล์ RAW ของ Sony A7 III มันจะอยู่ที่ประมาณ 25MB ซึ่งกินพื้นที่จัดเก็บไม่มาก ต่างจากกล้องความละเอียดสูงตัวอื่นๆซึ่งไฟล์ RAW อาจจะมีขนาด 40 MB ขึ้นไป ถ่ายรูปแป๊บๆก็เต็มการ์ดและต้องใช้คอมที่แรงกว่าพอสมควรในการแต่งรูป

Sony A7 III จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากๆสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกสนุกๆ ใช้เรียนโฟโต้ หรือถ่ายงานทั่วๆไป ความละเอียด 24 ล้านมันก็เพียงพอมาก สามารถครอปใช้งานได้ประมาณหนึ่งเลยแหละ

เราสามารถถ่ายเป็นแบบ Uncompressed RAW ได้ด้วย ซึ่งขนาดของไฟล์มันก็จะใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ถ้าว่ากันตามการใช้งานจริงๆ ส่วนตัวเราว่าแบบ Compressed นี่ก็เหลือกินเหลือใช้ละครับ บันทึกเร็วกว่าด้วย

ความยืดหยุ่นของไฟล์ RAW อยู่ในระดับดี ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงตอนถ่ายเพราะมันเอามาดึงแก้ไขได้เยอะมาก ส่วน Highlights ที่เรามองไม่เห็นรายละเอียดด้วยตาเปล่าก็ดึงกลับมาได้บ่อยครั้ง เว้นแต่ถ่ายมาสว่างเกินไปนะ

การเปิด Shadows นี่ยิ่งไม่น่าห่วงครับ มันง่ายกว่าเปิดส่วนสว่างแน่ๆ ภาพนี้ถ่ายตอนทุ่มนึงซึ่งมืดมากๆ จุดกำเนิดแสงมีแค่ไฟห้อยๆจากรถ ใช้ ISO ที่ 3200 และนำมาแต่งเปิดเงา

ส่วนมืดเมื่อถูกดึงขึ้น เราพบ Noise เม็ดสีๆนิดหน่อยซึ่งยังไม่กลบรายละเอียด โดยรวมเราว่าโอเค รับได้

แล้วถ้าเป็นภาพที่ไม่ต้องมาดึง Shadows ทีหลังล่ะ? อันนี้เนียนกริ๊บครับ ใช้ ISO สูงๆได้แบบเป็นเรื่องปกติไม่ต้องคิดเยอะ ภาพนี้เราใช้ ISO ที่ 3200 ถ่ายในร้านอาหารในบรรยากาศไฟสลัวๆ

ซูมดูรายละเอียดคือดี ค่อนข้างครบถ้วน ปริมาณ Noise ก็ต่ำมาก

เรื่อง Moiré หรือรอยคลื่นที่มักจะเกิดขึ้นเฉพาะบนภาพบริเวณที่เป็น Pattern ซ้ำๆ (เช่น การซ้อนกันของใยผ้าถี่ๆ ตาข่าย) อันนี้ยังมีให้เห็นนะครับ จากการใช้งานรู้สึกได้ว่าลดลงจากรุ่นที่แล้วๆอยู่หน่อย แต่ก็ยังต้องระมัดระวังอยู่

มาที่ไฟล์ JPEG บ้าง ในที่ร่ม งานผิวมองปั๊บสัมผัสได้เลยว่ามันไม่ออกเหลือง สีดูสมจริง และเป็นโทนส้มอมชมพูนิดๆ สวยมาก อันนี้ชอบ

ถ่ายกลางแดดช่วงประมาณบ่ายโมงบ้าง โทนก็จะออกส้มๆ แต่สีส้มก็ไม่ได้เข้มนะ

ส่วนอันนี้ถ่ายรับแดดช่วงประมาณ 5 โมง

ฟังก์ชั่นหน้าเนียน (Soft-skin) ที่รุ่นก่อนๆมี รุ่นนี้เอาออกไปแล้วนะครับ แต่เราไม่ค่อยรู้สึกไรเพราะไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ไฟล์ภาพ JPEG ของมันก็เกลี่ยให้นิดนึงแหละ แต่ไม่ได้เกลี่ยเยอะ

ให้ดู JPEG อื่นๆที่ไม่ใช่รูปคนบ้าง จะเห็นว่ามีการใช้ Noise Reduction ในปริมาณที่ต่ำ ทำให้รายละเอียดยังดีมากอยู่ สีสันก็สมจริงดี

เรื่องวิดีโอ จริงๆเราไม่ค่อยได้ใช้ครับเพราะไม่ใช่สายวิดีโอ แต่ก็ได้ลองมานิดหน่อยข้อดีก็คือมันมีวิดีโอ 4K ซึ่งไม่ต้องครอป (มันถ่าย6Kแล้วเอามาย่อ) ปกติกล้องทั่วไปมันมักจะต้องครอปเพื่อลดปริมาณพิกเซลที่เกินมา เจ้า Sony A7 III นี่ก็เลยง่าย ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างก็ได้ภาพมุมกว้างเต็มๆเฟรม นอกจากนี้มันยังมี S-log3 นำฟุตเทจไปเกรดสีได้ดี และที่ Full HD ยังเลือกเฟรมเรตได้ถึง 120 fps เลย (NTSC) เผื่อใครจะเอามาถ่ายสโลว์โมชั่นไรงี้

ว่าด้วยเรื่องกันสั่นบ้าง กันสั่นของ Sony A7 III ใช้งานได้ดีครับ เราสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆได้แบบแทบจะเป็นเรื่องปกติ ภาพข้างล่างนี้ใช้สปีด 1/30 วินาทีกับเลนส์ FE 55mm f1.8

ส่วนภาพด้านล่างนี้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1 วินาทีกับเลนส์ FE 28mm f2 กลั้นหายใจเอามือพาดกับรั้วร้านอาหารแล้วกดชัตเตอร์ ถ่ายสิบก็ยังรอดมาสามสี่รูป สปีดเท่านี้ถ้าไม่มีขาตั้งเราไม่แนะนำนะครับ อันนี้แค่จะเทสให้ดูเฉยๆ 555

โดยรวมกันสั่นคือดีงามแหละ ช่วยให้การตั้งค่าต่างๆยืดหยุ่นขึ้นมาก ใครใคร่จะลดความเร็วชัตเตอร์เพื่อให้แสงเข้ามาในภาพเยอะๆก็ทำได้ แต่อย่าลืมว่ามีกันสั่นไปก็เท่านั้นถ้าเราไม่มีความตั้งใจจะถือกล้องให้มันนิ่งนะ

มาต่อกันที่เรื่องการโฟกัส ระบบโฟกัสแบบ Hybrid (PDAF + CDAF) นี่พึ่งพาได้มากๆ ใช้คำว่าเร็วชิบหายเลยก็ได้ ตอนถ่ายแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย แค่ตั้งโฟกัสเป็น AF-C พื้นที่โฟกัสทั้งภาพหรือโซน พอกดชัตเตอร์ไปครึ่งเดียว มันก็จะมีสี่เหลี่ยมเขียวๆคอยบอกว่ากล้องมันกำลังจับวัตถุอะไรอยู่ (มีระดับ Sensitivity 5 ระดับ)

หมายเหตุเบาๆว่า กล้องมันไม่ได้รู้เสมอไปว่ามันจะต้องจับอะไรนะครับ เช่นถ้ามันมีวัตถุมากกว่า1อย่างในเฟรม มันอาจจะมีพลาดไปจับอย่างอื่นที่เราไม่อยากได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามันจับได้แล้ว มันจะจิกแบบไม่ปล่อยเลย

การถ่ายสัตว์เลี้ยงที่ปกติจะเป็นเรื่องยาก แต่ระบบโฟกัสของ Sony A7 III ช่วยได้เยอะ

จากกล้องทั่วๆไปที่ถ่ายหมาสิบรูปใช้ได้แค่หนึ่ง แต่พอได้ลอง Sony A7 III กลายเป็นว่าถ่ายมาสิบใช้ได้เจ็ด หรืออาจจะใช้ได้ทุกรูปเลย คนที่มีสัตว์เลี้ยงน่าจะชอบครับ

ส่วนภาพด้านล่างนี้ไม่ใช่วิดีโอนะครับ เรายิงติดต่อกัน 57 ภาพ โดยใช้พื้นที่โฟกัสทั่วทั้งภาพกับโหมดโฟกัส AF-C สิ่งที่ทำก็แค่กดชัตเตอร์ค้างไว้เฉยๆ เมื่อซูมดู มันโฟกัสที่คนขี่ม้าตัวหน้าและโฟกัสเข้าทุกภาพ

พูดถึงการโฟกัสในสภาวะแสงน้อยบ้าง ความแม่นยำในการ Tracking ในสภาวะแสงน้อยๆจะลดลงอย่างมากครับหากเทียบกับแสงกลางวันปกติ หากใช้ถ่ายแนวสปอร์ตยิงต่อเนื่องยาวๆอาจจะไม่ได้ แต่ถ้าถ่ายรูปปกติธรรมดา มันก็ยังโฟกัสเร็วมากๆอยู่ แทบไม่เจออาการ Focus Hunting วืดวาดเลย โซนี่เค้าบอกว่ามันสามารถจับโฟกัสได้แม้ EV จะติดลบ 3

ระบบโฟกัสดวงตาเป็นอะไรที่สุดมาก เมื่อกดปุ่ม Eye-AF ค้าง มันจะมีกล่องเขียวๆมาจับที่ดวงตา ไม่ว่าคนในเฟรมจะขยับไปทางไหน กล่องเขียวๆอันนั้นมันก็จะวิ่งตามดวงตาไปด้วย ความพีคคือ Eye-AF มันสามารถใช้จับดวงตาของคนที่ใส่แว่นได้ด้วย ไม่ใช่แค่แว่นตาธรรมดานะ แว่นดำมันก็จับได้!

Eye-AF จะลดประสิทธิภาพลงเมื่อตัวแบบเดินออกไปไกลเกิน หรือเมื่อถ่ายในสภาวะแสงน้อยนะครับ ถ้าเป็นแสงในห้างก็จะมีโอกาสซัก50%ที่มันจะเปลี่ยนจากจับดวงตาไปเป็นจับใบหน้าแทน และถ้ามันมืดมากๆแบบงานคอนเสิร์ตกลางคืนก็อาจจะจับดวงตาไม่ได้เลย ต้องกลับไปใช้การโฟกัสแบบธรรมดา

ภาพด้านล่างนี้ตอนถ่ายมันจับดวงตาหรือใบหน้าไม่ได้นะ แต่ยังออกมาโอเคอยู่

การควบคุมของ Sony A7 III ไม่ต่างจากรุ่นเดิมๆมากนัก สามารถปรับค่าทุกอย่างตั้งแต่ความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง และ ISO ได้โดยไม่ต้องกดเข้าเมนูอะไรให้ยุ่งยาก มี Dial รองรับทั้งหมด แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือจอยสติ๊ก ซึ่งตอนแรกที่ได้ลองใช้งานเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมันแข็งๆ แต่ใช้ไปใช้มาก็รู้สึกโอเคขึ้น เพราะมันก็สะดวกจริงๆ

จอยสติ๊กถูกออกแบบมาสำหรับใช้นิ้วโป้งควบคุมครับ ใช้ปรับตำแหน่งจุดโฟกัส ตั้งอยู่ในบริเวณที่เข้าถึงได้ง่าย ใครที่ใช้พื้นที่โฟกัสแบบจุดเดียว หรือแบบโซน น่าจะได้ใช้จอยสติ๊กตัวนี้บ่อยๆ

มาถึงหน้าจอบ้าง หน้าจอที่ใส่มาใน Sony A7 III ไม่ใช่หน้าจอที่แม่นยำมากมายซักเท่าไหร่ครับ จะว่าไป นี่เป็นหนึ่งข้อด้อยท่ามกลางความดีที่สั่งสมมาของกล้องตัวนี้เลย 555 เพราะตั้งแต่ใช้มาเรารู้สึกได้ว่าหน้าจอมันสว่างกว่าภาพที่ถ่ายจริงประมาณหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลให้คนที่พึ่งพาจอ LCD ในการถ่ายภาพหรือวิดีโอเกิดความสับสนในการตั้งค่าได้ และสีสันของหน้าจอด้านหลังก็จะอมๆ tint ชมพูกว่าปกตินิดนึง

หน้าจอเป็นแบบทัชสกรีน ช่วยให้เราเลือกจุดโฟกัสได้สะดวกดี การตอบสนองอยู่ในระดับกลาง ไม่ได้เร็วปรู๊ดเหมือนจอมือถือครับ

แบตเตอรี่รุ่นนี้เปลี่ยนเป็นตัวใหม่ครับ ตั้งแต่ใช้งานมาคืออึดสุดยอดมาก นี่เป็นหนึ่งในเรื่องง่ายๆที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่สุดละ เราไปออกทริปได้สามสี่วันโดยชาร์จแบตไปครั้งเดียวอะ แถมเหลือกลับมาด้วยนะ

มันมีช่องเสียบ SD Card 2 ช่องด้วยนะ โดยช่องแรกเป็น UHS-II เอาไว้บันทึกลงการ์ดความเร็วสูง อีกช่องก็จะความเร็วปกติ หลายๆคนก็จะมองว่าฟังก์ชั่นนี้สะดวกในการจัดการไฟล์ครับ มันสามารถบันทึกไฟล์ RAW กับ JPEG แยกลง SD Card คนละแผ่นได้ แต่ส่วนตัวเราไม่ได้ใช้ช่องที่ 2 บันทึกภาพเลยครับ แต่เอาไว้เก็บ SD Card อีกใบเฉยๆ 5555

สรุป

  1. ขนาดบอดี้พกพาไม่ยาก และมีน้ำหนักเบา แต่ก็อย่าประมาทเรื่องเลนส์นะ 555 เลนส์ใหญ่ๆมันก็มีเหมือนกัน
  2. ไฟล์ภาพมันไม่ใหญ่ กินพื้นที่จัดเก็บน้อย ยืดหยุ่นแต่งต่อได้เยอะ เนียนกริบแม้ใช้ค่า ISO สูงๆ ความละเอียด 24 ล้านก็เหลือๆ ทำให้มันเหมาะใช้งานตั้งแต่คนที่ถ่ายเล่นขำๆ นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่รับถ่ายงานแบบซีเรียสก็ได้ แต่สำหรับคนที่นิยมถ่ายภาพประเภท Landscape หรือเน้นถ่ายภาพทำ Print Ad ขยายใหญ่อาจจะยังไม่สะใจ เพราะไฟล์มันละเอียดกลางๆ
  3. วิดีโอมี 4K ที่ไม่ต้องครอป ใช้เลนส์อะไรก็ได้ช่วงนั้นเลย ไม่ต้องคิดเยอะเวลาอยากได้ฟุตเทจมุมกว้าง สามารถถ่าย Slow Motion ได้ (Full HD) และมี S-log3 ด้วย
  4. JPEG สีสมจริงดี และสีผิวไม่เหลือง มีการใช้ Noise Reduction ต่ำ ทำให้คงรายละเอียดไว้ได้มาก แต่ไม่มี Soft-skin Effect (โหมดหน้าเนียน) แล้วนะ
  5. กันสั่นดีมาก ช่วยโกงความตายมาหลายรอบละ
  6. ระบบโฟกัสดีมากๆๆๆๆ ตามติดยิ่งกว่าเมีย แต่ความแม่นยังคงแพ้ Sony A9 อยู่ ฟังก์ชั่น Eye-AF ก็ดีสำหรับงาน Portrait โฟกัสทะลุแว่นดำกันเลยทีเดียว แต่มีข้อจำกัดนิดหน่อยตรงที่ถ้าแสงไม่พอมันจะไม่ทำงาน
  7. การควบคุมอยู่ในระดับดี ปรับทุกอย่างได้จากปุ่มและ Dial ภายนอก มีจอยสติ๊กที่อยู่ในพื้นที่ที่สะดวกใช้งาน แต่มันเป็นวัสดุแข็งๆ ไม่ได้ติดไปกับนิ้วเวลาใช้
  8. หน้าจอไม่ละเอียดเท่ารุ่นสูงๆ แสดงผลส่วน Highlights สว่างกว่าปกตินิดหน่อย และให้โทน tint ชมพูนิดๆ แต่ไฟล์จริงก็ไม่ได้สว่างเกินหรือชมพูเกิน หน้าจอเป็นแบบสัมผัส ซึ่งสะดวกในการเลือกจุดโฟกัส แต่ความ Sensitive เวลาจิ้มก็จัดว่ายังไม่เทียบหน้าจอสมาร์ทโฟน
  9. แบตเตอรี่คือดีเลิศ อึดมาก
  10. มีช่องเสียบ SD Card 2 ช่อง จะถ่าย RAW ไว้การ์ดนึง JPEG ไว้อีกการ์ดนึงก็ได้
  11. ฟังก์ชั่นด้านแอปพลิเคชั่นหายไป! เสียดาย มันดีมากเลยนะเวลาอยากถ่ายรูปสวยๆแต่ขี้เกียจ
  12. ราคาหกหมื่นปลายๆใกล้เคียงกับหลายๆแบรนด์ แต่สเปคเท่านี้ เออ ไม่แพง 555

รวมๆแล้ว เราว่า Sony A7 III เป็นกล้องที่คุ้ม มันพร้อมสำหรับงานแทบทุกรูปแบบแล้ว เทคโนโลยีระดับนี้ใช้กันไปยาวๆ อีกสี่ห้าปีก็ยังไม่ตกยุค แต่ก็ยังมีบางจุดเล็กๆน้อยๆที่ยังเป็นข้อด้อยอยู่บ้าง ถ้ารับทราบถึงประเด็นต่างๆแล้วกิเลสยังอยู่ ก็ไปลองเล่นดูที่ Sony Store ครับ ถ้าคิดจะเปย์ก็อย่าลืมเผื่อค่าเลนส์ไว้ด้วยนะ

เป็นไงกันบ้าง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจกันง่ายขึ้นนะครับ ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบาย

ภาพจาก Sony A7 III

--

--

Tor Chanon
torcnn

ต่อ ชานนท์ โตเลี้ยง / Photography Tips and Reviews. Instagram & Twitter : @torcnn