ไฟล์นามสกุล ipa เป็นไฟล์ที่มีความสำคัญกับการพัฒนา application โดยที่จะใช้ไฟล์นี้ในการติด application ในระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS ปกติเราสามารถสร้างไฟล์ ipa ได้จากโปรแกรม xcode โดยคลิกตามขั้นตอนที่โปรแกรมได้จัดเรียงไว้
เป็นการขึ้นหัวข้อที่ดูดีเหมือนเขียนเล่มธีสิสเลยแฮะ แต่นั้นแหละครับความคุ้นเคยของ iOS developer เลือก target กดปุ่มบิวต์ รอ xcode มันทำงาน ระหว่างนั้นก็เล่น Facebook Twitter อ่านข่าววีรกรรมของลุงเป็นการแก้เบื่อขนาดรอ พอ xcode มันเด้งหน้าจอให้กด ก็กดคลิกๆๆ ตามขั้นตอนเดิมๆ แต่จะดีกว่าไหมที่จะรอโดยไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าจอคอมเพื่อมากด คลิกๆๆ โดยจะใช้ tool ที่ชื่อว่า Fastlane มาช่วยครับ
มาเริ่มรู้จักกับ Fastlane เบื้องต้นกันดีกว่าครับ ขั้นตอนแรกคือเปิด google แล้วลองค้นคำว่า Fastlane
ใช่ครับ Fastlane เป็น video game ซึ่งไม่ใช่อย่างที่อยากได้ครับ ให้ข้ามอันนี้ไปผลลัพธ์แบบด้านล่างแทน
มาถึงตรงนี้งงกันไหมครับ ถ้างงผมอยากจะบอกว่า
.
.
.
ลองกลับไปอ่านด้านบนใหม่ครับ 🙏🏻 (ไหว้ย่อ)
โอเค มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ออกนอกทางกันไปพอสมควรแล้ว (ฮาๆ)
Fastlane
ถ้าจะอธิบายสั้นๆก็คือเครื่องมือที่ช่วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ตามแนวคิด Continues Delivery (CD)
วิธีการบิวต์แอพฯด้วย fastlane เบื้องต้นก็ตามขั้นตอนด้านล่างนี้ครับ
1. ติดตั้ง Fastlane
โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ใน terminal
1.1 ติดตั้ง Xcode command line tools
xcode-select — install
1.2 ติดตั้ง Fastlane มีแบบใช้ RubyGems หรือ Homebrew เลือกตามความสะดวกเลยครับ
ใช้ RubyGems
sudo gem install fastlane
ใช้ Homebrew
brew install fastlane
2. เริ่มต้นใช้ Fastlane
2.1 เปิด terminal แล้วไปที่โฟล์เดอร์ project ที่ต้องการใช้ Fastlane และใช้คำสั่ง
fastlane init
2.2 กรอก Apple developer ID
2.3 กรอก App Identifier
2.4 เมื่อเสร็จขั้นตอนจะมีโฟลเดอร์ ‘fastlane’ ที่มี Appfile และ Fastfile อยู่ในโพลเดอร์ของ project
3. build และ สร้าง ipa ด้วย fastlane gym
3.1 เปิดไฟล์ ชื่อ Fastfile
3.2 เพิ่มคำสั่งตามรูปด้านล่าง แล้ว save ไฟล์
desc — ใช้อธิบายขั้นตอน(lane) นั้นๆ
lane — คือขั้นตอนการทำงานในที่นี้คือ ‘build’ เป็นชื่อที่เรากำหนดได้เอง
scheme — Target ที่ต้องการ build
export_options — options ในการ export ไฟล์ ipa
method — วิธีการ export ในที่นี้คือ ‘ad-hoc’ โดยมีคำสั่งอื่นๆ เช่น
app-store, ad-hoc, package, enterprise , development, developer-id
provisioningProfiles — เป็นการจับคู่ Bundle Identifier กับ Provisioning profile ที่ใช้ ยกตัวอย่างเช่น
bundle Identifier ‘com.sakdinan.fastlanedemo’ จะใช้คู่กับ Provisioning profile ชื่อ ‘Ad Hoc provisioning’
output_directory — ชื่อโฟลเดอร์ ที่ต้องการเก็บไฟล์ ipa ในที่นี้ตั้งชื่อว่า ‘artifact’
output_name — ชื่อไฟล์ ipa
3.3 เปิด terminal ที่โฟลเดอร์ project แล้วใส่คำสั่ง
fastlane build (ชื่อ lane ที่ต้องการใช้งาน)
เมื่อทำการ build และ export สำเร็จจะแสดงดังรูปด้านล่าง
สรุป
เมื่อใช้ Fastlane ช่วย build และ export ไฟล์ ipa ก็ลดขั้นตอนการทำงานแบบก่อนๆ ที่ต้องรอบิวต์และทำตามขั้นตอนเดิมๆ เปลี่ยนมาใช้คำสั่งเดียว แล้วรอเอาไฟล์ ipa ไปใช้งานได้เลย
Fastlane ยังมีความสามารถอื่นๆอีก ในโอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ 😀
