[TH]: 3 ชอบ และ 3ไม่(ค่อย)ชอบ กับ 3000 กิโลเมตรแรกใน Mazda CX-3

Tulathorn Sripongpankul
tulathorn blog
Published in
3 min readApr 1, 2022

สวัสดีครับทุกคน ถ้าใครที่ติดตามผมอยู่ อาจจะพอทราบว่าผมได้เข้าสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเป็นทางการ ด้วยการ “สร้างหนี้” ให้กับตัวเอง

เอาเข้าจริง การซื้อรถไม่เคยเป็น Priority สำหรับผมเลยครับ แต่เหตุผลหลักๆ ในการซื้อรถของผมคือผมต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนในวันหยุด (โดยเฉพาะการกลับบ้าน)

น่านแหละครับ ผมเลยซื้อรถ

ส่วนสาเหตุที่ผมตัดสินใจเขียนบล๊อกนี้ (นอกจากหาเรื่องเขียนให้มันมีอะไรอัพเดทในบล๊อก) หลักๆ คือผมอยากบอกเล่าเรื่องราวและความเห็นของผม เพื่อใครที่สนใจ Mazda CX-3 อยู่ จะได้มีข้อมูลเพิ่มเติม เพราะผมยอมรับจริงๆ ครับ ว่าหลายๆ เรื่อง เป็นเรื่องที่ผมไม่เจอตอนผมเทสไดร์ฟ แต่ผมมาเจอตอนที่ใช้ชีวิตร่วมกับมันจริงๆ

Mazda CX-3 คันของผม เป็นรุ่น Comfort Model year-2022 สี Platinum Quartz ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นท๊อปสุดของ Model year นี้ โดยในระยะทาง 3000 กม. ผมได้มีโอกาสลองขับทั้งในเมืองรถติดๆ ทางด่วน และออกต่างจังหวัด ขับมาแล้วตั้งแต่ถนนสองเลนสวน ยันสายเอเชีย เจอสภาพถนนทั้งดี แย่ มีทั้งนั่งคนเดียว นั่งสองคน และนั่งสี่คนพร้อมสัมภาระเต็มท้ายรถครับ ฉะนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจในการที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ของผมให้กับทุกคน ในแบบที่ว่า “ซื้อเอง ว๊าวเอง และเจ็บเอง” ครับ

ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหา ผมขออนุญาติเล่าเกี่ยวกับตัวผมสักนิดนึง เพื่อจะได้เป็นข้อมูลประกอบกับความเห็นของผมหลังจากนี้ (ใครที่รู้จักผมอยู่แล้ว ข้ามหัวข้อ Background ไปได้เลยครับ)

ถ่ายตอน 2999 km เป๊ะๆ

Background

ผมขอเริ่มด้วยส่วนสูงของผมก่อนละกันครับ ผมสูง 187 ชม. รูปร่างถ้าคำนวณออกมาแล้วสมส่วน (แต่ลงพุงนิดๆ ) และผมคิดว่า สัดส่วนช่วงตัวและช่วงขาผมนั้นปกติ

ส่วนตัวผมเป็นคนนั่งขับรถท่าเด็กเรียนร้อย (ก็คือนั่งหลังตรง แขนถึงพวงมาลัยไม่ตรงเกินไป) ตลอดเวลาครับ เหตุผลก็คือมันเป็นท่าที่ถูกต้องที่สุดในการควบคุมรถ ซึ่งอันนี้ผมแนะนำว่าให้ทุกคนที่ขับรถ ขับในท่านี้ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจนะครับ สำคัญอีกเรื่องคือ ผมมักจะปรับเบาะรถให้ต่ำสุดเสมอ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าเราอยู่ใกล้พื้นรถ

ผมเป็นคนชอบขับรถครับ ชอบฟิลลิ่งรถที่ให้ความมั่นใจในการควบคุมและใช้ความเร็ว แต่ผมไม่ใช่คนที่มีนิสัย “ชอบปาด” และชอบ “ดันตูด” ชาวบ้าน (และก็ไม่ชอบโดนคนอื่นทำด้วย)

นั่นแหละฮะ คร่าวๆ เกี่ยวกับผม หลังจากนี้ เข้าสู่เนื้อหาหลักเรากันเลยดีกว่า

แปะรูปรถแบบไม่แต่งสี บอกเลยว่าสีนี้สวยมาก

สามสิ่งที่ผมชอบ (และผมเชื่อว่าทุกคนจะประทับใจ) ใน Mazda CX-3

เรื่องแรก เป็นเรื่องที่ต้องยกให้เขาจริงๆ เลย คือ “พละกำลังของเครื่องยนต์และการตอบสนองของเกียร์” เครื่องยนต์ SkyActive-G เบนซิน 2.0 ไม่มีเทอโบ พละกำลัง 156 แรงม้า กับแรงบิต 204 นิวตั้น/เมตร ที่รอบ 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโมนัติ 6 จังหวะแบบ Torque Converter พร้อมและโหมด Manual และ Sport นั้นทำให้ผมยิ้มและหัวเราะออกมา ตั้งแต่ได้ลองทดลองขับครั้งแรกเลยครับ

พละกำลังของรถคือเกินพอกับการใช้งานปกติมากๆ ครับ ให้ความมั่นใจทุกครั้งในการเร่งแซง เกียร์ฉลาดพอที่จะรู้ว่ากดเท่าไหร่ ควรจะเปลี่ยนเกียร์ลงแค่ไหน การเปลี่ยนเกียร์เองก็เร็ว และแทบไม่มีจังหวะดีเลให้รู้สึกเลย คันเร่งอาจจะมีการหน่วงเล็กๆ แต่ไม่ได้ทำให้เราเสียจังหวะขนาดนั้น

และถ้าคุณเลื่อนมือไปเปิดโหมด Sport อาการดีเลนเล็กๆ จะหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ แตะปุ๊บ ดึงปั๊บ แถมเวลาถอนคันเร่ง มีอาการกระตุกเล็กๆ พอให้เราได้รับความสนุกสนานในการขับขี่ได้ไม่ยากเลย

เครื่องยนต์ Skyactive-G แรงได้ดังใจจริงๆ

เรื่องที่สองคือ “ช่วงล่างและการควบคุมรถ” เรื่องนี้ Mazda ขึ้นชื่อมานานแล้วครับ และ DNA ของการเป็นรถที่ควบคุมได้สนุกก็ยังมีอยู่ใน CX-3 เต็มเปี่ยมเลยครับ

สำหรับ CX-3 คือหนึ่งในรถที่ผมมั่นใจในการควบคุมมันเป็นอย่างมากครับ การขับขี่ในเมืองอาจจะไม่ได้เบาหวิว ซอกแซกได้ง่ายขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้หนักแบบรถเก่าๆ ที่พวงมาลัยแน่นๆ ที่ต้องออกแรงเพื่อจะหมุนเปลี่ยนเลนตอนรถติดจนเราเสียจังหวะครับ มันจะเป็นฟิลแบบพวงมาลัยมีน้ำหนักมากกว่า

แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อคุณเริ่มใช้ความเร็ว น้ำหนักพวกมาลัยแบบนี้เนี่ยแหละ ที่ให้ความมั่นใจกับผู้ขับในการควบคุมในความเร็วสูง พวงมาลัยของ CX-3 นั้นแม่น ระยะฟรีมีพอให้ไม่เครียดเวลารถวิ่งทางตรงยาวๆ ผมกล้าพูดว่าถ้าคุณชอบขับรถ คุณจะรักพวงมาลัยแบบนี้

สำหรับเรื่องช่วงล่าง CX-3 ถูกเซ็ตมาในโทนแน่นๆ ติดแข็งนิดๆ ซึ่งมันให้ความมั่นใจกับผู้ขับในความเร็วสูงมาก ซึ่งนั้นยอมต้องแลกกับความตึงตังเวลารูดถนนที่มีฝาท้อง หรือทางพังๆ แต่สำหรับผม ผมรับได้ครับ

ในความเร็วสูง CX-3 นิ่งและทำให้ผมประทับใจมากๆ ทั้งทางตรงและทางโค้ง คุณจะเริ่มหวิวก็ต่อเมื่อคุณใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดไปมากๆ (แต่มันไม่ได้ลอย หรือเหินนะ) ผมขอยกตัวอย่างโค้งตัว S จากทางด่วน ศรีรัตน์ เข้าทางด่วนเฉลิมมหานคร ผมเคยทำได้สูงสุดคือ 95 > 105> 100 กม./ชม. ซึ่งผมเชื่อว่ามันไปได้อีก แต่ผมไม่กล้าแล้ว (มันคือทางสาธาระเนอะ ไม่ใช้ในสนามแข่ง)

ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้แนะนำให้ทำตามนะครับ ผมแค่ลองเพราะอยากรู้เฉยๆ และเวลาที่ลองนั้นถนนปลอดภัย ไม่มีรถข้างๆ หรือรถตามมาข้างหลังนะครับ

เรื่องที่สามคือการจัด Option ของรถ บอกเลยว่ากับราคา 879,000 บาท ได้ขนาดนี้คือคุ้มค่ามากๆ ถ้าเข้าไปอ่านในคลับ จะเห็นเลยว่าคนที่ซื้อรุ่น Model Year ก่อนหน้าคือมองตาปริบๆ เสียดายกันเป็นแถว ยิ่งรวมกับการขับขี่ที่ดีแล้ว ผมว่ามันคุ้มมากๆ

Dashboard อาจจะเหมือน Mazda 2 ก็จริง แต่มันไม่แย่นะ

สามสิ่งที่ไม่(ค่อย)ชอบ และทุกคนควรคิดดีๆ ว่ายอมรับข้อเสียเหล่านี้ได้หรือไม่

เรื่องแรก คือขนาดของห้องโดยสาร ใช่ครับ Mazda ขึ้นชื่อเรื่องห้องโดยสารเล็ก เอาใจคนขับ แต่นั้น ไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นของผมคือ “ซุ้มอุโมงเกียร์” ครับ

คือมันเบียดขาซ้ายผมเวลาพักขาครับทุกคน มันทำให้ผม ไม่สามารถวางเท้าลงบนที่พักเท้าเต็มๆ ได้ มันทำให้บางทีเราจะเมื้อยขาซ้ายมากกว่าปกติ

นอกจากซุ้มอุโมง ยังมีเรื่องความสูงของหลังคา คือระยะมันเหลือน้อยม๊ากกกกกกก จนบางทีถ้าจั๊มคอสะพานแรงๆ หน่อย หัวอาจจะโขกเอาได้ง่ายๆ

ระยะระหว่างหัวถึงเพดานประมาณ 2 นิ้วกว่าๆ ได้ ถือว่าน้อยอยู่

แต่ Note ไว้นะครับ ว่าผมสูง 187 ซม. ฉะนั้นการที่หัวมันจะโขกอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกก็ได้ครับ

เรื่องที่สอง คือเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสาร คือในช่วงความเร็วช้าๆ ในเมือง อาจจะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ฮะ แต่เมื่อมันเกิน 120 กม. ต่อชั่วโมงขึ้นไป บอกได้คำเดียวครับว่า “เสียงลมมาเต็ม”

คือตอนเราลองเทสไดร์ฟ ถามว่าได้ยินแบบนี้ไหม ก็อาจจะใช่ เราได้ยิน แต่ด้วยความตื่นเต้นกับพละกำลังของรถ เราเลยอาจจะมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็คือ มันกวนใจพอต้องอยู่กับมันตลอดนิดนึงนะ

เรื่องสุดท้าย คืออัตรสิ้นเปลือเชื้อเพลิง ต้องเล่าย้อนก่อนไปว่า ตอนก่อนที่จะตัดสินใจตจอง ราคาน้ำมันยังไม่โหดเท่านี้ บวกกับการ Research อัตราสิ้นเปลืองว่าทำได้ประมาณ 13–15 กม./ลิตร (ซึ่งบางคนในคลับ CX-3 ขับทางไกลได้แบบ 19 กม./ลิตรด้วยแก็สโซฮอล 95) ผมก็เลยคิดว่ามันน่าจะพอรับได้นะ

ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง ในเมืองถ้าวิ่งโหดๆ รถติดๆ มีตำ่กว่า 10 กม./ลิตร ส่วนวิ่งต่างจังหวัด นิ่งๆ (หรือทางด่วนที่ไหลเรื่อยๆ รถไม่ติด) ผมยังไม่เคยทำได้เกิน 15 กม./ลิตร ด้วยน้ำมันแก็สโซฮอล 95 เลย ส่วนถ้าเป็น E20 มันก็จะแย่ลงไปอีกประมาณ 1–2 กม./ลิตร ซึ่งพอคิดกับราคาน้ำมันตอนนี้ บอกเลยว่า “หนักส์”

สรุป — ผมคิดว่ารถแบบนี้เหมาะกับใคร

หลังจากที่ใช้รถคันนี้มาสามพันโลกว่าๆ ผมคิดว่าคนที่เหมาะกับรถคันนี้ น่าจะเป็นคนที่ชอบขับรถและอยากได้รถยกสูงนิดนึงพอหนีน้ำรอการระบายได้ เป็นคนที่อาจจะไม่ได้ใช้รถเยอะมาก และก็ไม่ค่อยมีคนมานั่งข้างหลัง หรือคุณอาจจะอยากหารถคันไม่ใหญ่แต่พลังมากพอสำหรับการใช้งานต่างจังหวัด ถ้าคุณหารถแนวๆ นี้ และมีงบประมาณไม่เกิน 9 แสนบาท ผมชื่อว่ารถคันนี้จะเหมาะกับคุณ

สำหรับผม ผม Happy กับสิ่งที่เลือกนะ เพราะมันตอบการใช้งานของผมได้ ถือเป็นรถหนึ่งคันที่ผมกล้าแนะนำ และป้ายยาให้คนอื่นซื้อตาม

รูปรถในแสงไฟบ้าง เพื่อทุกคนอยากดูว่าตอนกลางคืนสีรถมันเป็นอย่างไร

สุดท้ายก่อนจากกัน

สำหรับผม การซื้อรถหนึ่งคัน มันไม่ใช่แค่การหาข้อมูล ไปลองขับ และก็จอง มันยังมีดีเทลอีกเยอะแยะมากมากที่เราต้องคิด ตั้งแต่โปรโมชั่น ส่วนลด เงื่อนไขต่างๆ ซึ่งหนึ่งในตัวการสำคัญก็คือ “เซลล์”

บอกก่อนว่าผมไม่ได้โดนจ้างมานะ และที่ผมอยากแปะคอนแท๊กของเซลล์ของผมก็เพราะว่าผมประทับใจในความ “ใส่ใจในความต้องการของผม” ตอนที่ผมซื้อรถ ทุกคนเชื่อไหมครับว่าผมบอกกับเซลล์ทุกคนเหมือนกันเป๊ะ ว่าผมอยากได้ดอก 0% แต่คนอื่น ก็มาด้วย 1.2% บ้างหล่ะ 0.99% บ้างหล่ะ ยกเว้นคุณออย ที่แนบเอกสารมาให้ผมโดนตั้งต้นว่า ถ้าผมอยากได้ดอกเบี้ย 0% ผมมี Option ไหนบ้าง

แล้วถ้าทุกคนคิดว่า ดอกเบี้ย 0% เท่ากับไม่มีของแถม ผมบอกเลยว่าทุกคนคิดผิดครับ แต่ใช่ครับ ทุกคนจะเอาของแถม 40 รายการพร้อมดอกเบี้ย 0% มันก็จะใจร้ายไปหน่อย เซลล์เขาก็ต้องกินต้องใช้เนอะ

ฉะนั้น ถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วอยากได้ CX-3 หรือกำลังอยากหาเซลล์รถมาสด้า ลองติดต่อคุณออยได้ที่ช่องทางด้านล่างได้เลยนะครับ

Tel: 0920039067
Line: https://line.me/ti/p/BVw1tpb-rw
IG: mazda_byoil

แปะรูปเซลล์สักหน่อย ฮ่าๆ

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ แล้วผมกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีครับ

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

Follow me on Social Media

Facebook: www.facebook.com/tulathorn
Twitter: www.twitter.com/tulathorn
IG: www.instagram.com/tulathorn/

Copyright 2022, All rights reserved
www.tulathorn.com

--

--