(TH) The 2019 Year Review: ปีแห่งการเรียนรู้ ยอมรับ และการเริ่มต้นใหม่

Tulathorn Sripongpankul
tulathorn blog
Published in
2 min readJan 1, 2020

สวัสดีครับทุกคน อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่กันแล้ว ซึ่งธรรมเนียมปกติ (ที่ใครมันตั้งก็ไม่รู้) ที่แต่ละคนก็จะมารีวิวตัวเองกัน ว่าเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง

ซึ่งเอาเข้าจริง มันดีนะ ที่เราใช้เวลาสักครึ่งวัน มาลองนั่งทบทวนตัวเองว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้ และปรับปรุงพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก

สำหรับตุลย์ ปีนี้มันมีหลากหลายรสชาติเหมือนๆ กับปีที่แล้วนั่นแหละ แต่ด้วยความที่ว่าปี 2018 เราใส่เต็มกับชีวิตไปหลายเรื่องมากๆ Effect ของมัน เลยมาโผล่วในปีนี้แทน

เอาล่ะ ไม่อยากเกริ่นเยอะ ขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน ถ้าไม่เป็นการรบกวน ฝากช่วยแชร์ Blog ของตุลย์ด้วยนะครับ

เปิดบล๊อกด้วยรูปนี้ล่ะกัน มีคนหลายกลุ่มครบที่สุดเท่าที่จะมีได้แล้ว ฮ่าๆ

Depression

ใช่ครับ 1 ในปัญหาที่ผมเจอเมื่อปีที่ผ่านมา คืออาการ depress จากความเครียด ต้องยอมรับว่าปีก่อนหน้า เราเจอเรื่องยากๆ เยอะแยะมาก ตั้งแต่เรื่องเรียน อนาคต ค่าย บลาๆ ผลมันเลยมาออกตอนช่วงๆ ต้นปีที่ผ่านมา

ยังโชคดีว่าเราได้พบนักจิตวิทยา เพื่อบำบัดก่อนที่มันจะรุนแรงถึงต้องกินยา ทุกวันนี้เอาจริงๆ บางจังหวะมันก็มีอาการบ้าง แต่เหมือนพอเราเป็นไปแล้ว เหมือนมันรู้เส้น limit ของมัน ทำให้หลายๆ ครั้ง เรา switch ตัวเองได้ทันก่อนดำดิ่ง

สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหา อยากได้คำปรึกษาเรื่องนี้ ทักมาหาตุลย์ได้นะครับ อาจจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่บางทีการได้คุยให้ใครสักคนฟัง มันก็พอช่วยบรรเทาลงไปได้

ภาพชองคลินิกที่ไปหา บรรยากาศดีมาก ตกแต่งธีมมูจิด้วย

Lean and adapted

ปีที่เป็นปีที่เหมือนได้ explan area ของตัวเองออกไปเยอะมากๆ เป็นปีที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ เยอะมากๆ ขอบคุณพี่ต่อและทีม Medvine ทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวตุลย์ด้วยนะครับ ประสบการณ์กับทีมมันล้ำค่ามากๆ ชนิตที่ตุลย์เชื่อว่าตุลย์คงหาจากที่อื่นไม่ได้แน่ๆ

เจอรูปนึงในมือถือที่ถ่ายที่ออฟฟิต จริงๆ ตรงนี้มันเป็นที่นั่ง CTO แต่เหมือนตอนนั้นไม่รู้ทำไมถึงได้มานั่งตรงนี้ ฮ่าๆ

อีกเรื่องนึงคือการเริ่มเรียนโท อือหือ บอกเลยว่ามันคืออีกเรื่อง บอกตามตรงว่าปรับตัวเยอะมาก และอย่างนึงที่รู้ซึ้งเลยคือว่า

มันคนละเรื่องกับตอนไปแลกเปลี่ยนเลย

คือมันไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่ว่า feeling มันคนละเรื่องอะ อย่างนึงที่มันแตกต่างชัดๆ คือเรื่องนอกห้องเรียน พอเป็นเด็กแลกเปลี่ยนมันจะมีสังคมที่ force เราให้ได้เจอกัน ทำให้เราได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง แต่กับเรียนโท มันคือเรียน ทำงานกลุ่ม กลับบ้านเป็น Default ถ้าอยากหาอะไรนอกห้องเรียนทำเพิ่มมันคือเราต้องลุยเองกับมัน

รูปนี้น่าจะรวมชาวแก็งซ์ครบที่สุดแล้ว

เรื่องเรียนต่อเดี๋ยวแยกอีกบล็อกล่ะกัน ดีเทลที่อยากเล่ามันเยอะมาก เดี๋ยวสอบเสร็จมาเขียนรีวิวเทอมนี้ให้นะครับ

อีกอย่างนึงที่คงจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการต้องย้ายที่อยู่ มันคือ curve ในการปรับตัวที่สูงมากๆ นะ ถ้าให้เล่าเรื่องการปรับตัวที่นี้เต็มๆ ต้องเล่าอีกบล็อกนึงเลยอะ มีทั้งยากและง่าย (และยากมากกก) อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นโชคดีที่ตุลย์รู้จักกับพี่จ๋า (YWC9) เวลามีปัญหาอะไร ก็ได้พี่เขาช่วย เอาเข้าจริง ถ้าไม่มีพี่เขาและน้องสาวพี่จ๋า (พี่เตย) ชีวิตคงยากกว่านี้แน่ๆ

รับปริญญา

เอาจริงๆ เหตุผลหลักที่ตุลย์ตัดสินใจกลับไปรับปริญญาคือที่บ้านล้วนๆ ตุลย์รู้สึกว่าเขาน่าจะอยากเห็นหลานชายคนแรก ใส่ชุดครุยกับใบปริญญา (จริงๆ ฝั่งป๊าตุลย์มีเจ๊อีกคน แต่เจ๊เรียนหมอที่ญี่ปุ่น เลยกลายเป็นตุลย์รับคนแรก)

สารภาพจริงๆ ว่ากลัวมากๆ นะ ว่าจะไม่มีคนมาหา แบบกลัวไปหมด กลัวว่ามันจะโหวงๆ มีแต่ญาติๆ คือแบบ เออ มันกลัวอะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

แต่พอเอาเข้าจริง คนมาเยอะมากกกกกก เยอะแบบน้องตากล้องหันมาถามว่า

“ห่ะ! ยังไม่หมดอีกหรอพี่”

คือตุลย์ตั้งใจว่าจะรับแขกหลักๆ แค่วันเสาร์ แต่กลายเป็นว่าหลังจากจบวัน ตุลย์เห็น list คนที่น่าจะมาวันจริงแล้ว ตัดสินใจจ้างตากล้องเพิ่มอีกวันเลย

ขอบคุณทุกคนที่มาหา มาถ่ายรูป หรือที่ไม่ได้มาแต่ฝากของ ฝากข้อความมา ขอบคุณมากๆ จริงๆ นะครับ ดีใจมากๆ ที่ได้เจอทุกคนที่อยู่รอบตัว และเป็นส่วนนึงของการเติบโตของตุลย์

ขอบคุณทุกคนที่มาหานะครับ

สำหรับเพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่ลังเลว่าจะรับปริญญาไหม เราเชียร์ให้รับนะ(โดยเฉพาะรับตอนป.ตรี มันแบบ เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีอะไรมาแทนได้จริงๆ )

The mistake

ปีนี้เป็นปีที่เรารู้สึกว่าเราได้ทำเรื่องผิดพลาดเยอะแยะมากมายเลย การกระทำบางอย่างที่เรากระทำไป บางอย่างเราไม่ทันคิด บางอย่างเราปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความควบคุม บางอย่างเกิดจากจิตใจอันบริสุทธ์ของเราเอง ที่คิดว่ามันไม่เป็นไรหรอก

เอาเข้าจริง เราเรียนรู้จากมันเยอะเลยนะ ขอบคุณทุกความผิดพลาดที่เกิดขี้นในปีนี้ เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำให้มันเกิดขี้นอีก (และเราหวังว่าทุกคนและทุกอย่างจะให้อภัยเรา)

ครอบครัวและคนรัก

ปีนี้เรื่องแฟน ถือว่าเป็นบทพิสูจน์บทใหม่ของเรานะ จากการที่แทบจะได้เจอกันทุกวีค มาต้องห่างกันอย่างน้อยสองปี เอาจริงๆ มันยากนะ แต่นี้ก็ผ่านมา 1 ใน 4 แล้วทุกอย่างมันก็ยังโอเค หวังว่างมันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

คิดถึงนะ ถ้ามีโอกาส นี้อาจจะเป็นการได้ไปเมกาครั้งแรกในชีวิตก็ได้

ปีนี้ครบรอบสองปี คงไม่ได้ฉลองด้วยกันแน่ๆ

ส่วนครอบครัวเรา ปีนี้เรารู้สึกว่าเราลดทิฐิบางอย่างในบ้านเราได้ รู้สึกว่าม๊าเข้าใจเรามากขึ้น รู้สึกว่าน้องสาวตัวเองโตขึ้น รวมๆ ก็ดีแหละ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

อ้อ ปีนี้ได้กลับบ้านเกิดที่ทุ่งสง ได้ไปหาปู่กับย่า 2 ครั้ง ในปีเดียว ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ไปบ้านนั้นน่าจะต้องย้อนกลับไปเกือบ 5 ปีได้

Summary

เอาจริงๆ ปีนี้จำไม่ได้แล้วนะว่าตุลย์เขียน New year resoultion ของปี 2019 ไว้ยังไงบ้าง แต่เอาเป็นว่า

  • ปีนี้ได้มาเรียนต่อดังใจหวัง
  • ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ไม่หวือหวา แต่เรื่องราวระหว่างทางมันก็มีจุดพีคๆ ของมัน
  • ปีนี้เป็นปีแห่งการปรับตัวจริงๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้ (และเป็นบทเรียน)

จบและปี2019 ตอนนี้ยังคิดไม่ตกเลย ว่าปี 2020 จะตั้ง Goal อะไรให้ตัวเองดีบ้าง อาจจะไม่ได้เขียนลงเป็นบล็อก แต่ตั้งใจแล้วว่าจะต้องจดไว้สักที่ ที่เราจะจำได้

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน Happy New Year 2020 ครับผม ขอให้เป็นปีหนูที่ดีนะครับ

— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —

Follow me in Social Media

Facebook: www.facebook.com/tulathorn
Twitter: www.twitter.com/tulathorn
IG: www.instagram.com/tulathorn/

Copyright 2020, All rights reserves
www.tulathorn.com

--

--