4 ทริคออกแบบ UX/UI ให้ปัง!! | สรุปจบภายในไม่กี่นาที

ThanitaKan
UPSKILL UX
Published in
3 min readNov 18, 2022

เริ่มเลอ….นาทีนี้ UX และ UI เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักออกแบบ ที่จะทำอย่างไงให้การทำงานของเรานั้นสมบูรณ์ ไร้ที่ติ เนี้ยบเนียน เป๊ะให้ปัง และมีเทคนิคที่น่าสนใจ วินาทีข้างหน้า 4 ขั้นตอนต่อไปนี้ จะต้องจับใจคุณ และนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการออกแบบ UX/UI ได้แน่นอน!!

Photo by Jonas Vandermeiren on unsplash

ใจเย็นๆๆ….เบรกไว้ตรงนี้ ก่อนที่จะได้รับทริคออกแบบ UX/UI ทุกคนต้องมาปูพื้น แยกกันให้ออกว่าความแตกต่างระหว่าง UX และ UI สองอย่างนี้คืออะไรกัน ?

UX/UI คืออิหยัง ?

Photo by Uxbert Labs on uxbert

UX (User Experience)

UX = เน้นให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้

คือ การให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น การแบ่งหมวดหมู่ในหน้าเนื้อหา 
การสร้างช่องทางการติดต่อ หรือการสร้างฟังก์ชันต่างๆ ให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน
เพื่อเป็นการสร้างความรู้สึกจดจำให้ผู้ใช้งานอยากกลับมาใช้งานอีก

UI (User Interface)

UI = เน้นหน้าตาการออกแบบกับความสวยงาม

คือ การให้ความสำคัญกับความสวยงามและการติดต่อกับผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การใช้สี Mood&Tone
การวางภาพ ฟอนต์ตัวอักษร ปุ่ม เสียง แสงและเงา และรวมไปถึงการออกแบบลวดลายบนหน้าเว็บไซต์
และแอปพลิเคชันอีกด้วย

คลิปศึกษา UX/UI เพิ่มเติม ‣คลิก

ไปต่อวัยรุ่น….มาเริ่ม 4 ทริคออกแบบ UX/UI ให้ปัง กันเลย

ทริค 1 : Concept is important คอนเซปต์คือสิ่งสำคัญ!

Photo by tirachardz on freepik

อันดับแรก….คอนเซปต์คือสิ่งสำคัญ! ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ว่างานไหนๆ ก็ต้องมีการประชุมทีม วางแผนงาน วางคอนเซปต์ กันก่อนซึ่งเป็นการเสนอความต้องการและสอบถามข้อมูลจากทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัด มีความเข้าใจ และมองภาพรวมไปในทิศทางเดียวกันนั่นเอง

keyword : ทำอะไร ? ทำไปทำไม ? ทำเพื่อใคร ? ทำอย่างไร ?

//ควรหาคำตอบให้ได้

โดยส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของ UX ที่จะเข้ามาช่วยนำทีม แต่ข้อสำคัญของขั้นตอนนี้
ต้องเคลียร์ให้ชัด! เอาให้จบ! เพราะการกลับมาแก้งานใหม่ตั้งแต่ต้น มันเสียทั้งงาน
ทั้งเงิน ทั้งเวลา เพราะฉะนั้นควรเต็มที่กับขั้นตอนนี้ไปเลย

ทริค 2 : Functional การทำงาน

Photo Szabo Viktor on unsplash

ถ้า Products เป็นแอป หรือ เว็บ ขั้นตอนนี้ก็คือการคิด “ ฟีเจอร์ ” นั่นแหละ โดยที่
ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาทำมากที่สุด เนื่องจากเรามักจะตัดสินใจกันไม่ได้ เพราะแต่ละฟีเจอร์ ก็มีคุณค่าที่ไม่เหมือนกัน เช่น อันนี้ก็พอทำเงินได้ อันนี้ก็นำหน้าคู่แข่ง และ
อีกร้อยแปดเงื่อนไข ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหาของขั้นตอนนี้ก็คือ ทำการทดสอบฟีเจอร์

Checklist Feature (การทดสอบฟีเจอร์)

ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ (ถ้าไม่มีมันชีวิตก็จะลำบาก)

แต่สำหรับท่านนี้นั้น….ถ้าไม่มีเขา ชีวิตอาจจะดีกว่า ผ่ามมม!!

ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจ (ราคาหรือการใช้งาน เป็นต้น)

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราเรียงลำดับความสำคัญออกมาเป็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น และในบางฟีเจอร์ที่คู่แข่งได้นำไปใช้แล้ว นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถนำฟีเจอร์นั้นกลับมา
ใช้ใหม่ได้ แต่เราแค่ต้องรู้ว่าอะไรคือจุดเด่นหรือจุดด้อย จากนั้นนำมาปรับใช้กับ Products ของเรา

//โดยส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของ UX

ทริค 3 : Usability ตัวบ่งชี้คุณภาพ

Photo Ascendle on Ascendle

ขั้นตอนตรงนี้ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของ UX ที่จะรับหน้าที่ทำการทดสอบการใช้งาน แอป หรือ เว็บ และคอยสังเกตความรู้สึกของเป้าหมายจริงในช่วงที่ทดลองการใช้งาน เพื่อให้เกิดความใกล้เคียงกับแอป หรือ เว็บ จริงมากที่สุด ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้าเมนูนั้น คลิกปุ่มนี้ หรือแม้กระทั่งการปัดหน้าจอของแอป เป็นต้น

โดยจุดประสงค์หลักของ Usability คือ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจภายในทีม และที่สำคัญคือต้องนำไปทดสอบการใช้งาน และสังเกตความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายจริง
เพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริง หรือผู้ใช้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขได้โดยทันที

เมื่อ Usability ผ่าน

ทริค 4 : Visual Design = UI

Photo Package — Delivery App on pinterest

ขั้นตอนสุดท้ายเป็นหน้าที่ของเจ้า UI แล้วจ้า….เพราะหลังจาก process งานในส่วนของ UX ผ่านแล้วเราก็จะมาถึงในส่วนที่ต้องออกแบบส่วนต่างๆ ของแอป และ เว็บ
ให้ออกมาสวยงาม และตรงตามความต้องการแล้วนั่นเอง

สรุป

1. คิดและตกลงกันเรื่อง Concept ให้ดี
2. เรียง Feature ที่จำเป็นต้องทำตามลำดับ
3. ทำ Usability สำหรับทดสอบ เพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการที่ชัดเจนของผู้ใช้
4. ออกแบบ UI ให้สวยงามและใช้งานง่าย

// UX และ UI ไม่ใช่หน้าที่เดียวกัน เป็นเพียงแค่หน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกัน

กราบขอบคุณความรู้ ‣advancedis
กราบขอบคุณคลิปความรู้ ‣KTn develop

แต่ถ้ายังไม่เข้าใจแนะนำให้ลาออก

--

--