4 ทริคออกแบบ UX/UI ให้ปัง!! | สรุปจบภายในไม่กี่นาที
เริ่มเลอ….นาทีนี้ UX และ UI เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักออกแบบ ที่จะทำอย่างไงให้การทำงานของเรานั้นสมบูรณ์ ไร้ที่ติ เนี้ยบเนียน เป๊ะให้ปัง และมีเทคนิคที่น่าสนใจ วินาทีข้างหน้า 4 ขั้นตอนต่อไปนี้ จะต้องจับใจคุณ และนำไปใช้เป็นประโยชน์ในการออกแบบ UX/UI ได้แน่นอน!!
ใจเย็นๆๆ….เบรกไว้ตรงนี้ ก่อนที่จะได้รับทริคออกแบบ UX/UI ทุกคนต้องมาปูพื้น แยกกันให้ออกว่าความแตกต่างระหว่าง UX และ UI สองอย่างนี้คืออะไรกัน ?
UX/UI คืออิหยัง ?
UX (User Experience)
UX = เน้นให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้
คือ การให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น การแบ่งหมวดหมู่ในหน้าเนื้อหา
การสร้างช่องทางการติดต่อ หรือการสร้างฟังก์ชันต่างๆ ให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน
เพื่อเป็นการสร้างความรู้สึกจดจำให้ผู้ใช้งานอยากกลับมาใช้งานอีก
UI (User Interface)
UI = เน้นหน้าตาการออกแบบกับความสวยงาม
คือ การให้ความสำคัญกับความสวยงามและการติดต่อกับผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การใช้สี Mood&Tone
การวางภาพ ฟอนต์ตัวอักษร ปุ่ม เสียง แสงและเงา และรวมไปถึงการออกแบบลวดลายบนหน้าเว็บไซต์
และแอปพลิเคชันอีกด้วย
คลิปศึกษา UX/UI เพิ่มเติม ‣คลิก
ไปต่อวัยรุ่น….มาเริ่ม 4 ทริคออกแบบ UX/UI ให้ปัง กันเลย
ทริค 1 : Concept is important คอนเซปต์คือสิ่งสำคัญ!
อันดับแรก….คอนเซปต์คือสิ่งสำคัญ! ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ว่างานไหนๆ ก็ต้องมีการประชุมทีม วางแผนงาน วางคอนเซปต์ กันก่อนซึ่งเป็นการเสนอความต้องการและสอบถามข้อมูลจากทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัด มีความเข้าใจ และมองภาพรวมไปในทิศทางเดียวกันนั่นเอง
keyword : ทำอะไร ? ทำไปทำไม ? ทำเพื่อใคร ? ทำอย่างไร ?
//ควรหาคำตอบให้ได้
โดยส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของ UX ที่จะเข้ามาช่วยนำทีม แต่ข้อสำคัญของขั้นตอนนี้
ต้องเคลียร์ให้ชัด! เอาให้จบ! เพราะการกลับมาแก้งานใหม่ตั้งแต่ต้น มันเสียทั้งงาน
ทั้งเงิน ทั้งเวลา เพราะฉะนั้นควรเต็มที่กับขั้นตอนนี้ไปเลย
ทริค 2 : Functional การทำงาน
ถ้า Products เป็นแอป หรือ เว็บ ขั้นตอนนี้ก็คือการคิด “ ฟีเจอร์ ” นั่นแหละ โดยที่
ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาทำมากที่สุด เนื่องจากเรามักจะตัดสินใจกันไม่ได้ เพราะแต่ละฟีเจอร์ ก็มีคุณค่าที่ไม่เหมือนกัน เช่น อันนี้ก็พอทำเงินได้ อันนี้ก็นำหน้าคู่แข่ง และ
อีกร้อยแปดเงื่อนไข ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหาของขั้นตอนนี้ก็คือ ทำการทดสอบฟีเจอร์
Checklist Feature (การทดสอบฟีเจอร์)
➢ ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ (ถ้าไม่มีมันชีวิตก็จะลำบาก)
➢ ฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจ (ราคาหรือการใช้งาน เป็นต้น)
ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราเรียงลำดับความสำคัญออกมาเป็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น และในบางฟีเจอร์ที่คู่แข่งได้นำไปใช้แล้ว นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถนำฟีเจอร์นั้นกลับมา
ใช้ใหม่ได้ แต่เราแค่ต้องรู้ว่าอะไรคือจุดเด่นหรือจุดด้อย จากนั้นนำมาปรับใช้กับ Products ของเรา//โดยส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของ UX
ทริค 3 : Usability ตัวบ่งชี้คุณภาพ
ขั้นตอนตรงนี้ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของ UX ที่จะรับหน้าที่ทำการทดสอบการใช้งาน แอป หรือ เว็บ และคอยสังเกตความรู้สึกของเป้าหมายจริงในช่วงที่ทดลองการใช้งาน เพื่อให้เกิดความใกล้เคียงกับแอป หรือ เว็บ จริงมากที่สุด ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้าเมนูนั้น คลิกปุ่มนี้ หรือแม้กระทั่งการปัดหน้าจอของแอป เป็นต้น
โดยจุดประสงค์หลักของ Usability คือ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจภายในทีม และที่สำคัญคือต้องนำไปทดสอบการใช้งาน และสังเกตความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายจริง
เพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริง หรือผู้ใช้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขได้โดยทันที
ทริค 4 : Visual Design = UI
ขั้นตอนสุดท้ายเป็นหน้าที่ของเจ้า UI แล้วจ้า….เพราะหลังจาก process งานในส่วนของ UX ผ่านแล้วเราก็จะมาถึงในส่วนที่ต้องออกแบบส่วนต่างๆ ของแอป และ เว็บ
ให้ออกมาสวยงาม และตรงตามความต้องการแล้วนั่นเอง
สรุป
1. คิดและตกลงกันเรื่อง Concept ให้ดี
2. เรียง Feature ที่จำเป็นต้องทำตามลำดับ
3. ทำ Usability สำหรับทดสอบ เพื่อให้ได้รู้ถึงความต้องการที่ชัดเจนของผู้ใช้
4. ออกแบบ UI ให้สวยงามและใช้งานง่าย
// UX และ UI ไม่ใช่หน้าที่เดียวกัน เป็นเพียงแค่หน้าที่ที่ต้องทำงานร่วมกัน
กราบขอบคุณความรู้ ‣advancedis
กราบขอบคุณคลิปความรู้ ‣KTn develop
แต่ถ้ายังไม่เข้าใจแนะนำให้ลาออก